2 พ.ย. 2019 เวลา 12:58 • การเมือง
กรณีคนเวียดนามในอังกฤษ 39 ศพ
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
ลูกชายของผมทำธุรกิจภัตตาคารอาหารไทยในจีน
ขณะเดียวกันก็เรียน EMBA สถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์ (MIT) สหรัฐอเมริกา วิทยาเขตฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน
แต่บางวิชาก็ยังต้องบินมาเรียนที่บอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา
ขณะที่ผมนั่งเขียนเรื่องนี้รับใช้เพื่อนไลน์แอทไอดี @LGJ0596P ลูกชายของผมก็ยังคงอยู่ที่บอสตัน
คนที่เรียน EMBA ของ MIT วิทยาเขตฮ่องกง ส่วนใหญ่จะถูกคัดเลือกจากคนทำงานในองค์กรรัฐและเอกชนระดับสูงที่มีชื่อของจีน
และยังมักจะมีภูมิหลังจบปริญญาตรีจากสถาบันอันดับต้นของจีน อย่างเช่นมหาวิทยาลัยชิงหัว มหาวิทยาลัยปักกิ่ง มหาวิทยาลัยฟูตัน สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติจีน มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง มหาวิทยาลัยซุนยัตเซ็น มหาวิทยาลัยนานจิง มหาวิทยาลัยอู่ฮั่น สถาบันเทคโนโลยีแห่งฮาร์บิน ฯลฯ
เรื่องหนึ่งซึ่งลูกชายบอกว่ามีการคุยกันมากเมื่อไม่กี่วันมานี้ คือความไม่เป็นมืออาชีพและความมีอคติของสื่อตะวันตก อย่างบีบีซี รอยเตอร์ และซีเอ็นเอ็น
อาจจะเป็นเพราะความมีอคติด้านเชื้อชาติของผู้สื่อข่าว จึงทำให้มีการรายงานข่าวที่ผิดพลาด
ทันทีที่พบร่างผู้เสียชีวิต 39 ศพในรถบรรทุกแช่แข็งที่สหราชอาณาจักรเมื่อวันพุธที่ 23 ตุลาคม 2562 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นพาดหัวว่า “Why would people from China, the world’s second biggest economy, risk their lives to enter the UK?”
แปลเป็นไทยได้ว่า ทำไมคนจากประเทศจีน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก จึงเสี่ยงที่จะเข้ามาในสหราชอาณาจักร
เช้าวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2562 นักข่าวซีเอ็นเอ็นไปถามโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนในห้องแถลงข่าวว่า “เศรษฐกิจจีนใหญ่โตจนมีขนาดเป็นอันดับ 2 ของโลกแล้ว ทำไมคนจีนเสี่ยงชีวิตหนีเข้าไปในอังกฤษในโอกาสฉลองครบรอบ 70 ปีของวันชาติจีน”
สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษก็มีอคติ ซึ่งดูได้จากการพาดหัวว่า “Essex lorry deaths: 39 found dead were Chinese nationals”
รอยเตอร์สก็พาดหัวว่า “The 39 people found dead in truck near London were Chinese nationals”
สำนักข่าวฝรั่งมังค่าทั้งหลายรายงานข่าวว่าพวกที่ตายในรถบรรทุกห้องเย็นน่ะคนจีน
จากนั้น ก็กระจายขยายข่าว ทัั้งเขียนทั้งพูดโจมตีประเทศจีน รัฐบาลจีน เศรษฐกิจจีน และคนจีน
ให้ร้ายป้ายสีว่าคนจีนต้องดิ้นรนออกนอกประเทศเพื่อไปหาชีวิตใหม่ที่ดีกว่า
หลายคนวิเคราะห์ต่อว่า นี่เป็นตัวอย่างของพลเมืองที่ต้องดิ้นรนออกจากแผ่นดินจีน เป็นสิ่งเดียวกับที่คนฮ่องกงกำลังประท้วงอยู่ในขณะนี้
คนฮ่องกงที่กำลังประท้วงน่ะ ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
 
ทว่าในความเป็นจริง
39 ชีวิตที่ตายในรถบรรทุกไม่ใช่ชาวจีนเลย
มีแต่คนเวียดนามทั้งสิ้น
เมื่อข้อเท็จจริงแพร่ขยายกระจายออกไป พวกสำนักข่าวตะวันตกทั้งหลายก็ใช้คำว่า ‘คนเอเชีย’ แทน ‘เวียดนาม’
และเมื่อโจมตีจีนและความเป็นคนเอเชียจนหนำใจแล้ว จึงค่อยหันไปใช้คำว่าเวียดนามแทน
ตอนที่ไปถามโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน นักข่าวซีเอ็นเอ็นโดนโฆษกจีนตอกหน้าว่า “ทำไมคุณไม่แสดงความเสียใจกับผู้โชคร้ายที่เสียชีวิตและครอบครัวล่ะ? ทำไมคุณไม่รอการตรวจสอบให้ชัดเจนจากตำรวจอังกฤษก่อนล่ะ?”
โฆษกจีนพูดถูกต้องครับ เพราะจากการที่ตรวจสอบข่าวและบทความ มีแต่การโจมตีจีนโดยไม่แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตแม้แต่ข่าวเดียว
เมื่อคุยกับผมถึงเรื่องนี้ ผมเล่าให้ลูกชายฟังว่า พ่อทำข่าวในต่างประเทศแข่งกับนักข่าวพวกนี้มาเป็นสิบปี
สมัยก่อนตอนที่สหรัฐบุกอัฟกานิสถานเมื่อ พ.ศ. 2544 พวกนักข่าวตะวันตกนั่งเทียนรายงานกันทั้งนั้น ส่วนใหญ่นอนอยู่ในโรงแรม มีเพียงพวกเราเท่านั้นที่ออกไปตามชายแดน
พ.ศ.2546 ตอนที่สหรัฐโจมตีรัฐบาลซัดดัม ฮุสเซน นักข่าวซีเอ็นเอ็นนอนอุดอู้อยู่แต่ในโรงแรมปาเลสตีนในกรุงแบกแดด แล้วก็ขึ้นไปส่งข่าวจากดาดฟ้าของโรงแรม ไม่มีทั้งความสามารถและความกล้าหาญในการออกไปในพื้นที่จริง
มีเพียงพวกเราเท่านั้น ที่กล้าตระเวนไปในทุกตรอกซอกมุมของกรุงแบกแดด
พวกสื่อไทยที่ไปลอกข่าวจากสื่อตะวันตกมาเล่ามาเขียนต่อในเรื่องคนเวียดนาม 39 ศพ
ก็พลาดอย่างแรง.
โฆษณา