4 พ.ย. 2019 เวลา 15:28 • ข่าว
นายกจีนร่วมประชุมผู้นำอาเซียน - จีน ครั้งที่ 22 ชี้ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” พร้อมประสานยุทธศาสตร์อาเซียน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ร่วมการประชุมผู้นำ - จีนอาเซียน (10+1) ครั้งที่ 22 ณ กรุงเทพมหานคร ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงเทพมหานคร พร้อมผู้นำ 10 ชาติสมาชิกอาเซียน
โดยนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า นับตั้งแต่จีนและอาเซียนมีความสัมพันธ์ฉันคู่เจรจา ได้นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองต่อทั้งจีน อาเซียน และทั่วทั้งภูมิภาค โดยจีนสนับสนุนอาเซียนในฐานะศูนย์กลางอันเป็นหัวใจสำคัญของความร่วมมือเอเชียตะวันออกมาโดยตลอด
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง กล่าวไว้ว่า เราต้องร่วมมือกันสร้างประชาคมจีน-อาเซียนที่มีอนาคตร่วมกัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จีนและอาเซียนเคารพซึ่งกันและกัน ยึดหลักความเท่าเทียม แก้ปัญหาข้อพิพาทผ่านการพูดคุยหารือ และร่วมกันธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค
"เรายึดมั่นในวิถีแห่งการพัฒนาร่วมกัน ผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-อาเซียน ส่งเสริมความเข้าใจที่ดีระหว่างวัฒนธรรมและระหว่างประชาชน โดยปีที่ผ่านมา ชาวจีนและชาวอาเซียนเดินทางไปมาระหว่างกันมากถึง 57 ล้านครั้ง"
นายหลี่ เค่อเฉียงชี้ว่า แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในปัจจุบัน ได้สร้างความความท้าทายใหม่ๆ ให้กับนานาประเทศ จีนและกลุ่มประเทศอาเซียนจึงควรร่วมกันปกป้องระบบพหุภาคีและการค้าเสรี ทำงานร่วมกันเพื่อรับมือกับความเสี่ยง ยึดมั่นในหลักการของการได้ประโยชน์ร่วม ยกระดับการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) วางรากฐานให้กับการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออก บรรลุพิธีสารเพื่อเแก้ไขความตกลงภายใต้กรอบความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ส่งเสริมการเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน เสริมสร้างความไว้วางใจเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกัน และรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค
“แนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้” (COC) คือการยกระดับ “ปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้” (DOC) ซึ่งมีกรอบระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี จีนหวังว่าแต่ละฝ่ายจะเคารพหลักการแต่ละประการของปฏิญญาฯ ขจัดอุปสรรคกีดขวางและก้าวไปข้างหน้า ผลักดันการหารือตามกำหนดเวลา เพื่อบรรลุการทบทวนรอบที่ 2 ในปี 2020
นอกจากส่งเสริมมิตรภาพและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมแล้ว ความร่วมมือด้านสาธารณสุข การศึกษา และการท่องเที่ยวก็เป็นสิ่งที่จีนให้ความสำคัญ โดยใน 3 ปีข้างหน้า จีนยินดีฝึกอบรมผู้ดูแลด้านสุขภาพและช่างเทคนิคมืออาชีพของอาเซียนจำนวน 1,000 คน และสนับสนุนทุนการศึกษาจีน-อาเซียน เพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีในหมู่ประชาชน
นายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวว่า จีนยึดมั่นในเส้นทางแห่งการพัฒนาอย่างสันติ และยุทธศาสตร์การเปิดกว้าง เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน และยินดีที่จะเชื่อมโยงความคิดริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” เข้ากับยุทธศาสตร์การพัฒนาของทั้งประชาคมอาเซียนโดยรวม และยุทธศาสตร์ของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน เดินหน้าสร้างเส้นทางการขนส่งตามแนวพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจ ยกระดับความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน ผลักดันการเจริญเติบโตในอาเซียนตะวันออก ส่งเสริมความร่วมมือด้านนวัตกรรมเศรษฐกิจดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ ข้อมูลขนาดใหญ่ และความปลอดภัยของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ปกป้องระบบนิเวศทางทะเล อุตสาหกรรมทางทะเล พลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน และเทคโนโลยีการอนุรักษ์น้ำ เป็นต้น
เหล่าผู้นำของกลุ่มประเทศอาเซียนต่างแสดงความยินดีกับจีน ในวาระครบรอบ 70 ปีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน และเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับจีนนั้น เป็นความสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตรที่มีพลวัตมากที่สุดในบรรดาคู่เจรจาของอาเซียน รวมถึงขอบคุณจีนที่สนับสนุนบทบาทของอาเซียนในการเป็นศูนย์กลางของความร่วมมือในภูมิภาค ตลอดจนแสดงความยินดีที่จะร่วมรังสรรค์แผนริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” กับจีน ขยายความเชื่อมโยงและการลงทุนระหว่างกัน ส่งเสริมการร่วมมือทางนวัตกรรม อีคอมเมิร์ซ เมืองอัจฉริยะ เศรษฐกิจสีน้ำเงิน เพื่อบรรลุเป้าหมายยอดการค้า 1 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
ที่ประชุมได้ประกาศการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อการดำเนินการตามแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองระหว่างจีน-อาเซียน (2021-2025) ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับแผนริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” เมืองอัจฉริยะ และการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านสื่อสารมวลชน นอกจากนี้ยังประกาศให้ปี 2020 เป็นปีแห่งการร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างจีน-อาเซียนอีกด้วย
โฆษณา