5 พ.ย. 2019 เวลา 07:57 • ธุรกิจ
กรณีศึกษา tofusan น้ำเต้าหู้ที่มีทุนเพียง5แสนบาทและเริ่มต้นด้วยพนักงานเพียง2คน
https://www.passiongen.com
คุณสุรนาม พานิชการ เป็นเจ้าของแบรนด์tofusan ซึ่งเป็นนมถั่วเหลืองที่ไม่ผสมนมผงไม่ผสมน้ำมัน ส่วนใหญ่จะขายในเซเว่นและโมเดินเทรดทั่วไป
โดยปกติแล้วเราตอนเด็กๆเราจะคิดว่าน้ำเต้าหู้ทำมาจากเต้าหู้ แต่จริงๆแล้วก็ถึงอยู่ครึ่งนึงเพราะวิธีการทำเต้าหู้ก็คือ การนำถั่วเหลืองไปแช่น้ำให้พองแล้วเอาไปโม่ โม่เสร็จเอาไปน้ำก็จะกลายเป็นน้ำเต้าหู้ แต่หากต้องการทำเต้าหู้ก็เพียงแค่ใส่เกลือที่มีความเข้มข้นมากๆ
คล้ายชีสโดยชีสจะใส่เอนไซม์ทำให้นมเป็นก้อน เต้าหู้ก็ใช้วิธีเดียวกัน แต่ถ้าไม่ใส่เกลือมันก็คือน้ำเต้าหู้
น้ำเต้าหู้ถือเป็นสินค้าที่อยู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน โดยถ้าย้อนไปในวัยเด็กตัวเรานั้นมักจะทานน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ แค่นั้นก็รู้สึกฟินแล้ว แต่ทำอย่างไรให้น้ำเต้าหู้จากถุงละ8-15บาท กลายมาเป็นธุรกิจหลักร้อยล้านได้หละ
⭐️ก่อนจะมาเป็นtofusan ได้ทำอะไรมาก่อนไหม
ตอนอายุประมาณ25-26ได้ไปเจอว่ามีร้านขนมร้านนึง ซึ่งเป็นร้านของเพื่อน ตัวของเพื่อนได้ทำขนมไทยอยู่ข้างร้านลูกชิ้นปลาชื่อดัง
คราวนี้โดยปกติแล้วคนกินลูกชิ้นปลา จะมักเป็นคนที่เลือกทานอยู่พอตัว คือมีลิ้นที่สามารถแยกแยะได้ดีกว่าคนทั่วไป ตัวของเพื่อนที่ทำร้านขนมอยู่ จึงได้ทำขนมอย่างดีโดยใช้วัตถุดิบอย่าง ซึ่งมันก็ส่งผลต่อราคาที่สูงขึ้นด้วย ปรากฎว่าขายได้ดี ขอให้แค่ของมันดีจริงๆ ซึ่งสามารถขายได้เดือนละเกือบแสน
ตัวของคุณสุรนามเล็งเห็นถึงจุดนี้ว่าถ้าทำแบรนด์ให้ดังขึ้น รวมไปถึงการไปเอาขนมของแต่ละภูมิภาค เช่นเม็ดบัวจากพิจิตร ซึ่งทุกไตัวจะมีสตอรี่เป็นของตัวเอง ในตอนแรกก็เริ่มขายในVilla market เซ็นทรัล หรือ ทอป
สุดท้ายตอนจะเลิกเพราะจะไปบวช เนื่องจากเกิดความอินในพระพุทธศาสนา เลยเลิกขายขนมไป แต่เพื่อนของคุณสุรนามก็ยังทำอยู่ แถมรายได้ดีด้วย ตัวของคุณสุรนามในขณะที่บวชอยู่ แม่ของคุณสุรนามก็ได้ไปคุยด้วย เนื่องจากไม่อยากให้ลูกบวชตลอดไป
รวมไปถึงตัวของคุณสุรนามก็พบว่าเราสามารถเจริญสติได้ในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องห่มผ้าเหลืองก็ได้ แม่ก็จะได้สบายใจด้วย
หลังจากกลับมาจากผ้าเหลือง ตัวของคุณสุรนามก็ได้กลับมายืนหน้าร้านตัวเอง และจากประสบการณ์การขายมา2ปีกว่า ทำให้มองออกว่าคนใหนคือกลุ่มลูกค้าเรา คนใหนไม่ใช่
สิ่งที่คุณสุรนามทำก็คือเดินเข้าไปถามกลุ่มลูกค้าตัวเองว่า นอกจากขนมที่วางขายอยู่แล้วอยากทานไรอีก
ตัวของคุณสุรนามได้รับคำตอบมากมาย แต่ด้วยต้นทุนทางความรู้ ความสามารถในการหาความรู้ของสินค้านั้น ทำให้น้ำเต้าหู้เด่นขึ้นมา
ตัวของคุณสุรนามก็เคยมีปัญหาในตอนสมัยทำงาน ร้านน้ำเต้าหู้จะเปิดช่วงเวลาตี5-8โมง
โดยประมาณ ซึ่งในบางวันคุณสุรนามก็ขี้เกียจตื่นไปซื้อน้ำเต้าหู้ให้คุณพ่อ-คุณแม่ และบางทีการออกจากบ้านสายเพียง15นาทีในกรุงเทพ
ก็จะเจอปัญหารถติดมาก
ตัวของคุณสุรนามได้คิดว่า ถ้าตัวเขามีปัญหา คุณพี่ที่เขาถามว่าอยากทานอะไรมีปัญหา เขาก็เชื่อว่ามีอีกหลายคนมีปัญหาเช่นกัน
สิ่งที่คุณสุรนามทำคือไปหากลุ่มงานวิจัยที่มอศิลปากร ด้วยความรู้ที่แน่น เพราะคุณสุรนามเชื่อว่าหากเราไม่มีต้นทุนทางการเงินเหมือนคนอื่นสิ่งที่ทดแทนได้ก็คือความรู้
แล้วการหาความรู้จากgoogle มันไม่เพียงพอ
สมุมติว่า google บอกว่าต้องแช่ถั่วเหลืองค้างคืนก่อนเอาไปโม่นะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะต้องแช่กี่ชั่วโมง เอนไซม์ถึงจะไม่ทำปฏิกิริยา หรือแม้กระทั่งที่ญี่ปุ่นไม่มีใครแช่ถั่วเหลือง เขาใช้วิธีต้มก่อนเอาไปโม่ สิ่งพวกนี้ได้จากการวิจัยทั้งนั้น
ในตอนแรกนั้นเผื่อที่จะให้ความลับบริษัทยังถูกปิดอยู่คุณสุรนามได้ไปจ้างคน3คนที่ไม่รู้จักกัน โดยตัวคุณสุรนามจะเป็นคนขับรถ นายก.ทำการโม่ถั่วเหลืองด้วยวิธีเฉพาะ
นาย.ข ทำฟองเต้าหู้ นาย.คนำ2อย่างมารวมกัน โดยลอตแรกผลิตได้หมื่นกว่าขวด ซึ่งใช้เวลาขายประมาณ2เดือน ซึ่งโดยรวมถือว่าดี
ใช้เวลาอยู่ในห้องวิจัยกว่า11เดือนเผื่อหาจุดต่าง โดยในตอนแรกก็เกิดจากการลองผิดลองถูกกับถั่วเหลือง ถ้าตอนการให้ได้กลิ่นไหม้ๆหน่อยก็เอาไปอังไฟโดยตรง วิจัยเรื่อยมาจนได้สูตรที่ลงตัว ต่อมาก็คือเครื่อง โดยปกติแล้วคนทานน้ำเต้าหู้จะทานกับเครื่อง ก็ค่อยๆพัฒนามาเรื่อยๆจนถึงในปัจจุบัน
ขอบคุณที่มา tofusan , passiongen, thestandardpodcast,
themoneycasebythemoneycoach
,คุณสุรนาม พานิชการ,thestandardth,thestandardco,
thestandard
โฆษณา