7 พ.ย. 2019 เวลา 14:06 • กีฬา
ทอม เอิร์ลส์ : หนุ่มอังกฤษผู้หลงรักคลองเตยและฟุตบอลไทยจนลืมพรีเมียร์ลีก
ฟุตบอลคือกีฬาอันดับหนึ่ง ในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นชาติแห่งการให้กำเนิด กีฬาฟุตบอลสมัยใหม่อย่างอังกฤษ หรือประเทศไทย ดินแดนขวานทอง จากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กีฬาชนิดนี้ เปิดกว้างสำหรับทุกคนบนโลก และพยายามที่ทำลายทุกข้อจำกัด ทั้งสีผิว เชื้อชาติ ศาสนา และฐานะ เพื่อให้ฟุตบอลเป็นกีฬาของทุกคน
โลกลูกหนังที่ไร้พรหมแดน เปิดโอกาสให้แฟนบอลชาวไทย จำนวนมาก ได้มีโอกาสเสพฟุตบอล อันดับหนึ่งของโลก “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” และในทางกลับกัน แฟนบอลชาวอังกฤษ สามารถเป็นแฟนฟุตบอลพันธุ์แท้ ของสโมสรฟุตบอลไทย
ทอม เอิร์ลส์ หนุ่มชาวอังกฤษวัย 31 ปี คือชายผู้หลงใหลในฟุตบอลไทย และวัฒนธรรมการเชียร์แบบไทยๆ จนถอนตัวไม่ขึ้น โดยเฉพาะสโมสรโปรดของเขา “การท่าเรือ เอฟซี” และชุมชนคลองเตย พื้นที่ท้องถิ่นของทีมสิงห์เจ้าท่า
เป็นเวลาเกือบ 10 ปี ที่ทอมติดตามฟุตบอลไทย ถึงขอบสนาม พร้อมกับละทิ้งฟุตบอลบ้านเกิด ลีกอันดับหนึ่งของโลกไว้เบื้องหลัง เพื่อศึกษาและร่วมเชียร์ฟุตบอลในเมืองไทย กีฬาท้องถิ่นที่เขาสามารถจับต้องได้
1
เล่าถึงจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ ระหว่างคุณกับฟุตบอลหน่อยครับ
ผมเริ่มดูฟุตบอลตั้งแต่จำความได้ ประมาณว่า พอเริ่มเดินได้ ก็ดูฟุตบอลแล้ว (หัวเราะ) เพราะคุณพ่อของผม เป็นแฟนฟุตบอลตัวยง ชีวิตของผมจึงอยู่กับฟุตบอลตลอด ทั้งการเล่นและการดูฟุตบอล
ตอนอยู่ที่อังกฤษ คุณเป็นแฟนบอลทีมอะไร
ผมเชียร์ 2 ทีม ทีมแรกคือดาร์บี เคาต์ตี เพราะว่าผมเกิดและอาศัยในเมืองเล็กๆใกล้กับดาร์บี ดังนั้นดาร์บีจึงถือว่าเป็นทีมท้องถิ่นของผม
สองคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะในตอนที่ผมเป็นเด็ก แมนฯ ยูไนเต็ด คือทีมที่ยอดเยี่ยมมาก หากแมนฯ ยูไนเต็ด มาเล่นเกมเยือน ในเมืองใกล้เคียง เช่น ดาร์บี, เลสเตอร์, เบอร์มิงแฮม ผมมักไปดูเกมการแข่งขันที่สนามเสมอ และรวมถึงเกมเหย้าของดาร์บี ที่ได้ไปดูบ่อยเช่นกัน
ส่วนตัวคุณหลงรักอะไรในกีฬาฟุตบอล
ผมชื่นชอบบรรยากาศการดูบอลที่สนาม หรือ Matchday Experience สำหรับผมนี่คือสิ่งที่ไม่มีอะไรเทียบได้
สมัยผมเป็นเด็ก ตอนนั้นดาร์บีจะเล่นเกมเหย้า ในสนามเก่าของพวกเขา ชื่อว่า “เบสบอล กราวน์ด” เป็นสนามฟุตบอลแบบสมัยเก่าของประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นสนามขนาดเล็ก ไม่ใหญ่ ไม่ทันสมัย แต่แฟนบอลใกล้ชิดกับสนามฟุตบอล และบรรยากาศการเชียร์ในสนามก็ยอดเยี่ยมมาก เพราะแฟนบอลสามารถสัมผัสถึงเกมในสนามฟุตบอล
มันทำให้ผมชื่นชอบ บรรยากาศของฟุตบอลสนามเล็กๆ ที่แฟนบอลใกล้ชิดกับสนามแข่งขัน เพราะเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งกับทุกเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในสนามฟุตบอล คุณสามารถเอามือไปตบนักฟุตบอลได้เลย แน่นอนว่า ผมไม่เคยทำแบบนั้นนะ (หัวเราะ) แต่บรรยากาศในสนามแบบนี้ก็ดุดันสุดๆ
สนามฟุตบอลใหญ่ๆ ผมก็ชอบนะ ผมเคยไปดูเกมการแข่งขัน ระหว่างทีมชาติอังกฤษ กับทีมชาติมอลโดวา ที่สนามเวมบลีย์
ผมอธิบายความรู้สึกในเกมวันนั้นไม่ถูกเลย การที่ได้เห็นผู้คนเข้ามาเต็มสนามเวมบลีย์ และเราได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้น มันมหัศจรรย์มาก
จุดเปลี่ยนที่หันคุณเริ่มหันหลังให้ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
พออายุได้ 10 ขวบ ผมก็ย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทย เพราะคุณพ่อคุณแม่ของผม ย้ายมาเป็นครูสอนภาษาที่นี่ เราขายบ้าน เพื่อมาตั้งรกรากกันที่นี่เลยละ
พอมาอยู่ที่เมืองไทย ผมยังคงดูฟุตบอลอังกฤษ ผ่านหน้าจอโทรทัศน์ แต่พอดูไปนานๆ ผมกลับรู้สึกเบื่อ มันน่าเบื่อมาก การดูฟุตบอลผ่านทีวี เพราะผมรู้สึกว่า ผมไม่มีความผูกพันกับสโมสร ผมไม่ผูกพันกับท้องถิ่นที่สโมสรตั้งอยู่ ยิ่งดูผมรู้สึกว่า ตัวเองห่างไกลจากสโมสรที่ผมเชียร์ หลังจากนั้นผมจึงหมดความสนใจ ในกีฬาฟุตบอล
แล้วอะไรทำให้คุณกลับสนใจฟุตบอลอีกครั้ง
พอผมหมดความสนใจในฟุตบอล ผมก็ไม่ได้สนใจในกีฬาฟุตบอลเลย รวมถึงฟุตบอลไทยด้วย จนกระทั่ง ประมาณปี 2011 เพื่อนของผมชวนให้ผมลองไปดูฟุตบอลไทย ที่แพท สเตเดียม (สนามเหย้าของสโมสร การท่าเรือ เอฟซี) ผมก็โอเค ลองดูหน่อย ไม่เสียหายอะไร
ผมจำความรู้สึกแรก ของการดูฟุตบอลไทยได้ดี ทั้งตกใจและประหลาดใจ แบบว่าช็อคไปเลย เพราะมันทำลาย กรอบความคิดการดูบอลในสนามของผม
ผมเจออะไรแปลกๆเยอะมาก ในสนามฟุตบอล เช่น การตีกลองในสนามฟุตบอล ตอนนั้นผมไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมเราถึงต้องตีกลองในสนามฟุตบอล (วัฒนธรรมการเชียร์ฟุตบอลของอังกฤษ ไม่มีการตีกลองในสนามแข่งขัน) หรือทำไมแฟนบอลต้องปรบมือ ให้กำลังใจนักเตะฝ่ายตรงข้ามหลังจบเกม
ผมได้แต่ยืนเกาหัว แล้วคิดในใจว่า “มันเกิดอะไรขึ้นวะ” แต่ว่านี่คือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ผมสนใจฟุตบอลไทย
หลังจากนั้นผมก็ค่อยๆ มาดูฟุตบอลที่แพท สเตเดียม บ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ จากปีแรกประมาณ 3-4 เกม จนตอนนี้ผมถือตั๋วปี ของสโมสรการท่าเรือ เอฟซี มาหลายปีแล้ว
ทำไมคุณถึงหลงรักฟุตบอลไทย
สำหรับผมจะพูดว่า ผมหลงรักฟุตบอลไทย มันคงไม่ถูกต้องนัก ผมสนใจฟุตบอลไทย แต่ผมไม่ได้หลงรักฟุตบอลไทย สิ่งที่ผมหลงรัก คือ สโมสรการท่าเรือ และชุมชนคลองเตย
สำหรับผม แฟนบอลท่าเรือ และผู้คนในชุมชนคลองเตย เป็นคนที่ดี และมีน้ำใจ พวกเขาช่วยเหลือแบ่งปันกัน ผมได้รับอะไรดีๆมากมาย จากชุมชนนี้ ที่สำคัญ ที่นี่ต้อนรับผม เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสังคม มากกว่าทุกสังคมที่ผมเคยใช้ชีวิตมา
สิ่งที่ผมชอบในชุมชนคลองเตย คือพวกเขาเป็นคนติดดิน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ร่ำรวย แต่ก็มีความจริงใจ แบ่งปันซึ่งกันและกัน มีความเป็นห่วงเป็นใยกัน
สมัยผมเป็นเด็ก มาอยู่เมืองไทยใหม่ๆ ผมไม่เคยกล้ามาที่คลองเตยเลย เพราะมีแต่คนบอกผมว่า ที่นี่เป็นแหล่งไม่ดี เป็นสลัม อะไรทำนองนั้น
แต่นั่นเป็นความเชื่อที่ผิด เป็นภาพลักษณ์ที่ผิดไปอย่างมาก เพราะเมื่อผมได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง คนคลองเตย คือกลุ่มคนที่เป็นมิตร และเป็นคนที่ดี แม้จะไม่ใช่คนที่เงินทองมากมายก็ตาม
ก่อนที่ผมจะเดินทางมาสัมภาษณ์ที่นี่ (แพท สเตเดียม) ผมเดินผ่านตลาดคลองเตย เจอเพื่อนของผม ซึ่งเป็นแฟนบอลท่าเรือคนหนึ่ง เขาเป็นคนขับรถส่งของในตลาด เขาถอดเสื้ออยู่ตลอดเวลา และสักเต็มตัว แต่เป็นคนดีและเป็นมิตรมากที่สุด ตั้งแต่ผมเคยเจอมาในชีวิต ผมตกหลุมรักอะไรแบบนี้
สำหรับผม นี่คือคลองเตยที่ผมรู้จัก มันน่าเสียดายที่คนไทยหลายคน ไม่รู้จักด้านดีๆของคลองเตย เพราะคำว่า “คลองเตย” สำหรับคนไทย เป็นเหมือนสถานที่ที่เลวร้าย
ผมคิดว่าผมเข้าถึงตัวตน ความเป็นคนไทยมากที่สุด ผ่านผู้คนบริเวณคลองเตย ผู้คนที่เป็นมิตรและมีน้ำใจ ดังนั้นผมคงต้องบอกว่า ผมรู้สึกผูกพัน กับสโมสรการท่าเรือ กับแฟนบอล และชุมชนของที่นี่ มากกว่าผูกพันกับฟุตบอลไทยในภาพรวม
ดูเหมือนคุณจะให้ความสำคัญ ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง สโมสรฟุตบอลกับท้องถิ่นอย่างมาก?
สำหรับผมมันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก กับการสร้างความผูกพันระหว่าง สโมสรฟุตบอลกับชุมชนท้องถิ่น ในความคิดของผม สโมสรการท่าเรือ คือ คลองเตย และคลองเตย ก็คือ สโมสรการท่าเรือ มันไม่มีทางแยกออกจากกันได้
ตอนผมมาอยู่ประเทศไทยใหม่ๆ ผมรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ที่คนไทยดูแต่พรีเมียร์ลีก ไม่ดูฟุตบอลไทย แต่ผมเข้าใจว่า ฟุตบอลไม่ได้อยู่ในวัฒนธรรมของคนไทย ไม่เหมือนกับที่ฟุตบอลอยุ่ในวัฒนธรรมของคนอังกฤษ
ที่อังกฤษ เมื่อคุณเกิดมา คุณก็มีสโมสรฟุตบอลเชียร์เป็นของตัวเองแล้ว (หัวเราะ) ไม่ว่าจะเชียร์ตามท้องถิ่น หรือตามครอบครัว และเมื่อคุณเติบโตขึ้น คุณจะโตไปพร้อมกับสโมสรฟุตบอลที่คุณรัก เติบโตไปด้วยกัน เป็นส่วนหนึ่งกับชีวิตของคุณ
แต่ที่ประเทศไทย ผมคิดว่าฟุตบอลไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมหมายถึงเป็นส่วนหนึ่งกับชีวิตผู้คน เพราะหลายสโมสรในประเทศไทย ย้ายสนามไปเรื่อยๆ มันขาดความผูกพันกับท้องถิ่น กับชุมชน กับแฟนบอล
แต่ท่าเรือคือหนึ่งในสโมสรที่ผูกพันกับท้องถิ่น สำหรับท่าเรือเหมือนทีมฟุตบอลอังกฤษในยุคสมัยก่อน มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน แฟนบอลมาจากพื้นที่ท้องถิ่น คือคลองเตย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผมรักสโมสรนี้ ผมชอบสโมสรที่มีความผูกพันกับท้องถิ่น ทำให้ผมนึกถึงสโมสรอังกฤษในอดีต
เวลาฤดูกาลจะเริ่ม แฟนบอลการท่าเรือ จะมาช่วยกันทำความสะอาดสนาม แพท สเตเดียม ของเราเสมอ เป็นเรื่องที่ดีมากๆ
มันทำให้ผมคิดว่า สโมสรการท่าเรือ ควรเข้ามาเป็นส่วนในการสนับสนุน สร้างความผูกพันระหว่างตัวสโมสร กับชุมชนมากกว่านี้ เพราะทุกวันนี้กิจกรรมทั้งหมด แทบจะถูกดำเนินการโดยแฟนบอล มันคงดีกว่า ถ้าสโมสรนำเงินมาช่วยพัฒนาชุมชน มากกว่าใช้ไปกับการโปรโมตบางสิ่ง ที่แฟนบอลไม่ได้ประโยชน์
มีอย่างอื่นที่คุณชอบอีกไหม ในสโมสรการท่าเรือ หรือชุมชนคลองเตย
แพท สเตเดียม นี่คือสนามฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกสำหรับผม (หัวเราะ) ผมชอบการเดินทางมาแพท สเตเดียม ในวันที่มีการแข่งขัน ผ่านตลาดคลองเตย ผมกล้าพูดเลยว่า นี่คือทางเดินมาสนามฟุตบอล ที่เจ๋งที่สุด อีกแห่งหนึ่งของโลก
คุณจะหาทางเดินไปสนามฟุตบอล ที่ได้ยินภาษามากมาย ไปพร้อมๆกันได้จากที่ไหน ทั้งภาษาไทย ภาษาถิ่น ภาษาพม่า ภาษาลาว ภาษากัมพูชา แต่คุณจะได้ยินพร้อมกัน ที่ตลาดคลองเตย
ไหนจะเรื่องเสียง หรือเรื่องกลิ่น ผมบอกได้แค่ว่า มันสุดยอดมากๆ สำหรับผม แพท สเตเดียม ดึงความรู้สึกดีๆ ที่ผมเคยมีให้กับฟุตบอล กลับมาอีกครั้ง
คุณดูฟุตบอลไทยมายาวนาน ถึง 9 ปี ถ้าให้เปรียบเทียบวัฒนธรรมฟุตบอลไทย กับฟุตบอลอังกฤษ สำหรับคุณ วัฒนธรรมไทยเป็นรองวัฒนธรรมฟุตบอลอังกฤษหรือไม่
ผมไม่เคยคิดว่า วัฒนธรรมของฟุตบอลไทย แย่กว่าฟุตบอลอังกฤษ แต่มีความแตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง และมีหลายวัฒนธรรมการเชียร์ของแฟนบอลชาวไทย ที่ผมชอบเป็นอย่างมาก
อย่างแรกคือ ผมมองว่า แฟนบอลไทยไม่ค่อยซีเรียส เรื่องผลการแข่งขัน จะแพ้หรือชนะ พวกเขาก็ยังยิ้มได้ ผมจำได้ไม่เคยลืม เกมแรกที่ผมดูท่าเรือในเกมเยือน ตอนฤดูกาล 2017 เราไปเยือนทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และเราแพ้ 5-1 เราสู้ไม่ได้เลย พวกเขาถล่มเรายับเยิน
ขากลับผมนั่งรถบัสของแฟนคลับ จากธรรมศาสตร์ รังสิต กลับแพทสเตเดี้ยม ในใจของผมคิดอยู่ตลอดว่า “นี่มัน เ*ย อะไรวะเนี่ย เราแพ้ 5-1” แต่แฟนบอลไทย พวกเขายังสนุกสนาน มีความสุขกันมาก แม้จะแพ้ 5-1 พวกเขาก็พยายามบอกผมว่า ไม่เป็นไร นัดหน้าเอาใหม่
ผมชอบมากในเรื่องนี้ สำหรับแฟนบอลไทย ต่อให้ทีมของคุณโดนนำมากขนาดไหน ผมแทบจะไม่เห็นแฟนบอลเดินออกจากสนาม หายไปก่อนจบเกมเลย
มีเหตุการณ์ที่วัฒนธรรมฟุตบอลไทย ทำให้คุณประหลาดใจอย่างมากบ้างไหม
หลายครั้งที่แฟนบอลไทย ให้การสนับสนุนนักเตะ หรือสโมสรของตัวเอง จนน่าตกใจ เช่นในกรณีของ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
เขามีปัญหากับแฟนบอลท่าเรือ จากการที่เขาไปต่อว่าแฟนบอล ด้วยคำพูดหยาบคาย สุดท้ายเขาโดนสั่งปรับเงิน 10,000 บาท เป็นจำนวนเงินที่ไม่เยอะเลย สำหรับนักฟุตบอลอาชีพ
แต่ว่าในเกมถัดมา แฟนบอลท่าเรือก็รวบรวมเงินกัน เพื่อไปจ่ายค่าปรับให้ปกรณ์ สำหรับผมนี่คืออะไรที่แม่งโคตรบ้าเลย ผมคิดในใจว่า “โอ้มายก็อด ทำกันไปได้ไง” มันบ้ามากจริงๆนะ การจะไปรวบรวมเงินเป็นหมื่น เกินนั้นด้วยซ้ำ เพื่อมาจ่ายค่าปรับแทนนักฟุตบอล ที่ต่อว่าแฟนบอล (หัวเราะ)
ผมชอบที่บทสรุปสุดท้าย ปกรณ์เขาเลือกจ่ายค่าปรับด้วยตัวเอง ส่วนเงินที่แฟนบอลรวบรวมมา ก็นำไปช่วยการกุศล ให้กับผู้คนในพื้นที่คลองเตย ซึ่งผมประทับใจมาก
สำหรับผม นี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ และน่ามหัศจรรย์ แฟนบอลท่าเรือที่อยู่ในพื้นที่คลองเตย ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แต่สามารถรวบรวมเงิน เพื่อมาจ่ายค่าปรับแทนนักบอล เป็นเรื่องที่งดงามมากๆ และก็บ้ามากๆเช่นเดียวกัน (หัวเราะ)
การให้การสนับสนุนที่ไม่รู้จักจบ ของแฟนบอลไทย คือเรื่องที่สุดยอด เป็นแบบนี้มาตลอด
1
ในทางกลับกัน มีสิ่งใดบ้างที่คุณไม่ชอบในฟุตบอลไทย
สำหรับผม ผมมองว่าสโมสรฟุตบอลไทย ใส่ใจแฟนบอลน้อยเกินไป สโมสรฟุตบอลไทยส่วนใหญ่ ไม่รู้ว่าแฟนบอลของตัวเองต้องการอะไร และไม่ค่อยสนใจในสิ่งที่แฟนบอลต้องการ
ที่อังกฤษ สโมสรฟุตบอลให้ความใส่ใจกับแฟนบอลค่อนข้างมาก เพราะคนที่มีอำนาจใหญ่ที่สุดของสโมสร คือแฟนบอล พวกเขาต้องเอาใจ เพราะถ้าไม่มีแฟนบอล ก็ไม่มีรายได้ ถ้าวันหนึ่งสโมสรไม่เอาใจแฟนบอล พวกเขาพร้อมจะหันหลังให้ และสโมสรจะล้มตายในทันที
แต่สโมสรฟุตบอลไทย ผมมองว่าเจ้าของทีมฟุตบอล มองเรื่องภาพลักษณ์ของตัวเอง และภาพลักษณ์ของธุรกิจมากกว่า หรือในแง่ของผลประโยชน์ทางการเมือง มากกว่าจะสนใจแฟนฟุตบอลจริงๆ
อีกอย่างสโมสรฟุตบอลไทย คนที่ใหญ่ที่สุดไม่ใช่แฟนบอล แต่เป็นประธานสโมสร ไม่มีใครใหญ่กว่าประธานสโมสร หรือจะบอกว่าประธานสโมสร คือทีมฟุตบอลทีมนั้นก็คงพูดได้
ยกตัวอย่าง ถ้าคุณเป็นแฟนบุรีรัมย์ แต่คุณไม่ชอบเนวิน หรือขัดแย้งกับเนวิน ผมบอกได้แค่ว่า “กู๊ดบาย” (หัวเราะ)
นี่คือสิ่งที่ทำให้ผมเห็นด้านดีๆ ของแฟนฟุตบอลไทย มากขึ้นไปอีก นั่นคือ พวกเขาไม่แคร์ (หัวเราะ) พวกเขาไม่สนใจว่า เจ้าของทีมจะดีหรือห่วยแตกขนาดไหน พวกเขายังคงสามารถ หาความสุขได้ที่สนามฟุตบอล
สำหรับผมในเรื่องนี้ มันก็ยากที่จะปรับตัว แม้ว่าจะอยู่ประเทศไทยมานานแล้วก็ตาม ผมยังคงใช้เวลาในการเรียนรู้จากคนไทย ถึงการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ต้องบ่นอะไรมาก แค่อยู่ไปแบบสบายๆ (หัวเราะ)
1
คุณอยากเห็นความผูกพัน ระหว่างสโมสรกับแฟนบอล มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน?
ส่วนตัว ผมอยากให้สโมสรฟุตบอลไทย หันมาสนใจ และให้ในสิ่งที่แฟนบอลต้องการจริงๆ มากกว่านี้ ผมหมายถึงแฟนบอลที่เข้าสนามบอลนะ
แม้แต่ผู้มีอำนาจในวงการฟุตบอลไทย ผมคิดว่าพวกเขาแคร์ประธานสโมสร หรือผู้ชมทางทีวีมากเกินไป มากกว่าจะสนใจแฟนบอลที่รักสโมสรจริงๆ
สำหรับคุณ มีสิ่งใดที่คุณอยากจะเก็บรักษา ให้อยู่คู่กับฟุตบอลไทยตลอดไป
ผมหลงรัก พวกการสนับสนุนทีมฝ่ายตรงข้าม การปรบมือให้นักเตะทีมตรงข้าม หรือตะโกนเรียกชื่อทีมหลังจบเกม แต่ผมบอกตรงๆว่า ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้นนะ (หัวเราะ)
อย่างไรก็ตาม สำหรับผม มันเจ๋งมากๆ ผมไม่เคยเห็นฟุตบอลประเทศอื่น ทำอะไรแบบนี้ สำหรับผมมันเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ของฟุตบอลไทย และแสดงถึงความเป็นไทย แบบไทยแท้จริงๆ
ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่า การที่เราทำแบบนี้ เป็นเรื่องจำเป็นหรือไม่ แต่มันเท่และมีเสน่ห์ และผมชอบมาก อยากให้อยู่คู่กับฟุตบอลไทยตลอดไป
ในความคิดของคุณ ฟุตบอลไทยคือฟุตบอลที่คนไทย ควรให้ความสนใจหรือไม่
อันที่จริง ผมเข้าใจนะ ถ้าคนไทยจะดูฟุตบอลต่างประเทศ มากกว่าฟุตบอลไทย เพราะทุกวันนี้ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ตั้งใจที่จะสร้างรูปแบบการถ่ายทอดสด เพื่อให้คนไทยดูโดยเฉพาะ ผมไม่แปลกใจถ้าคนไทย จะชื่นชอบการชมพรีเมียร์ลีก
อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าฟุตบอลไทย คือฟุตบอลที่คนไทยทุกคน ควรเข้ามาดู แม้ว่าทุกวันนี้ จะมีปัญหามากมาย และฟุตบอลไทยที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ก็ไม่ดีอย่างที่มันควรจะเป็น
แต่ว่า ไม่มีอะไรดีไปกว่า การดูฟุตบอลที่สนามในช่วงสุดสัปดาห์ ใช้เวลากับเพื่อนของคุณ ถ้าคุณมองว่า เกมการแข่งขันมันแย่ คุณก็ไม่ต้องเข้าสนามก็ได้ (หัวเราะ)
ผมรู้จักหลายคน ที่มาแพท สเตเดียม ซื้อตั๋ว และไม่เข้าไปดูบอลในสนาม แต่นั่งกินเบียร์อยู่ด้านนอก ดูเกมการแข่งขันผ่านโทรศัพท์มือถือ มันดูบ้าใช่ไหมละ แต่นั่นแหละที่ผมบอก ไม่มีอะไรสู้บรรยากาศที่สนามฟุตบอลได้
ผมอยากให้คนไทยทุกคน ที่ชอบฟุตบอล ลองมาดูฟุตบอลในสนาม มาลองดู ถ้าคุณมาลองแล้วไม่ชอบ ก็ลองอีกที บางทีคุณอาจจะไปผิดเกม หรือผิดสนาม ลองจนกว่าคุณจะเจอสนามที่ใช่ ทีมที่ชอบ
การดูฟุตบอลไทย ให้อะไรกับคุณบ้าง
สำหรับผมทุกครั้งที่มาดูท่าเรือ คือการสร้างความทรงจำดีๆ ร่วมไปกับเพื่อนของผม และแฟนบอลท่าเรือทุกคน
มันเหมือนการสะสมความทรงจำดีๆ ในฐานะแฟนบอล และผมอยากจะสะสมไปเรื่อยๆ ผมหวังอีกหลายปีหลังจากนี้ ผมจะมีความทรงจำดีๆอีกมาก ในฐานะแฟนบอล ผมมีช่วงเวลาดีๆมากมายที่แพท สเตเดี้ยม
หรือแม้แต่ในเกมเยือน ผมก็ได้รับประสบการณ์ดีๆมากมาย เช่น ผมชอบเวลาที่เราไปเยือนชลบุรี เอฟซี เพราะว่าแฟนบอลชลบุรี เป็นมหามิตรกับเรา พวกเขาจะต้อนรับเราอย่างดี มองว่าเป็นมิตรทางฟุตบอล ซึ่งมันเป็นบรรยากาศที่ดี แม้ว่ามันจะทำให้ผมรู้สึกแปลกนิดหน่อย เพราะว่าไม่มีอะไรแบบนี้ ที่อังกฤษ
ผมได้เจอคนดีๆหลายคน ที่สนามฟุตบอล เช่น สไปเดอร์มิ่ง หัวหน้ากองเชียร์ (ผู้ล่วงลับ) เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา และเขาดูแลพวกเรา กองเชียร์ต่างชาติ เป็นอย่างดีเสมอมา ดังนั้นวการเสียชีวิตของกลุ่มแฟนคลับท่าเรือ เมื่อช่วงต้นปี คือสิ่งที่น่าเศร้าอย่างมากสำหรับผม
ทุกวันนี้ คุณดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกบ้างไหม
ไม่ แทบไม่ดูเลย ผมไม่ได้สนใจ ไม่ได้ติดตาม ผมเคยพยายามอย่างมาก ที่จะกลับไปดู กลับไปมีความรู้สึกร่วม กับฟุตบอลอังกฤษ แต่ผมไม่สามารถทำได้ เพราะผมไม่ได้ทำในสิ่งที่ผมต้องการ
การดูฟุตบอลผ่านทีวี มันไม่มีความเชื่อมโยงท้องถิ่น ผมไม่สามารถสัมผัสได้ถึง บรรยากาศของการดูบอลในสนาม สำหรับผมในตอนนี้ การดูฟุตบอลต้องดูในสนามเท่านั้น
ดังนั้น มันเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิด ที่ผมจะไม่มีฟุตบอลดูหลังจากนี้อีก 3 เดือน การปิดฤดูกาล มันนานเกินไปจริงๆ (หัวเราะ)
บทความโดย ณัฐนนท์ จันทร์ขวาง
โฆษณา