9 พ.ย. 2019 เวลา 02:40 • ธุรกิจ
Zume Pizza ธุรกิจพิซซ่าเดลิเวอรี ที่มีพ่อครัวเป็นหุ่นยนต์
พิซซ่า เป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
โดยมนุษย์ทุกคนกินพิซซ่ารวมกันทั้งหมด ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านถาดต่อปี
และถ้าพูดถึงร้านที่คนส่วนใหญ่ชอบ คงจะเป็น Domino’s Pizza หรือ Pizza Hut
1
แต่อีกไม่นาน แบรนด์ผู้นำตลาดเหล่านี้ อาจต้องเจอกับคู่แข่งรายใหม่ที่น่ากลัว ซึ่งพ่อครัวนั้นไม่ใช่มนุษย์
เพราะสตาร์ตอัปธุรกิจพิซซ่าเดลิเวอรี ชื่อว่า “Zume Pizza” ได้ใช้หุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทน
1
เรื่องราวของร้านนี้ มีความน่าสนใจอย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Zume Pizza (อ่านว่า ซูม-พิซซ่า) เป็นบริษัทสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีอาหาร ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2015
โดยประกอบธุรกิจร้านพิซซ่าแบบเดลิเวอรี ที่จัดทำและบริการส่งไปให้ถึงบ้านของลูกค้า
แต่ที่พิเศษกว่ารายอื่นๆ ทั่วไป คือการนำหุ่นยนต์มาใช้ในกระบวนการผลิตเกือบทั้งหมด
ร้าน Zume Pizza จะรับคำสั่งซื้อจากช่องทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว เพื่อให้ข้อมูลส่งไปยังระบบในห้องครัวทันที
1
จากนั้น หุ่นยนต์ก็จะเริ่มทำพิซซ่าแบบอัตโนมัติ
เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมแป้ง ผสมซอสมะเขือเทศ และนำถาดเข้าไปอบในเตา
ซึ่งพิซซ่าทุกชิ้นนั้น จะมีมาตรฐานคุณภาพคงที่ รวมทั้งถูกตัดแบ่งให้มีขนาดเท่ากันเป๊ะอีกด้วย
1
ทำให้พนักงานเหลือหน้าที่แค่นำวัตถุดิบต่างๆ ไปปรุงแต่งหน้าพิซซ่า
เพราะมันยังคงต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์ของมนุษย์อยู่
1
Cr. CNBC
ผลที่ได้ตามมาคือ ร้านสามารถทำพิซซ่าออกมาขายได้ถึง 372 ถาด ภายในเวลา 1 ชั่วโมง
เนื่องจากหุ่นยนต์ทำงานได้เร็วชนิดที่ว่ามนุษย์ไม่มีทางเทียบติด เช่น ใช้เวลาเตรียมแป้งแค่ 9 วินาที
1
ทำให้ร้านลดเวลาที่ลูกค้าต้องรออาหารได้ 5-20 นาที เมื่อเทียบกับการผลิตแบบเดิม
1
นอกจากนี้ ถ้าหากลูกค้าอยู่ไกลกว่าเวลาจัดส่งเกิน 12 นาที
Zume Pizza จะมีบริการอีกอย่างที่เข้ามาแก้ไขปัญหา
นั่นคือ ครัวแบบเคลื่อนที่
ปกติแล้ว สิ่งที่ร้านขายพิซซ่า หรือแม้แต่ธุรกิจเดลิเวอรีอาหารมักจะเจอ คือช่วงเวลาที่เสียไปบนท้องถนนตอนจัดส่ง ซึ่งบางครั้งมันก็ใช้เวลานาน จนอาหารไม่สดใหม่เหมือนกับสั่งทานที่ร้าน ส่งผลให้ความอร่อยลดลงไปพอสมควร
Zume Pizza จึงได้ลงทุนติดตั้งครัวหุ่นยนต์ ไว้บนรถ Food truck ขนาดใหญ่ ซึ่งจะขับวนอยู่ในพื้นที่ให้บริการ
Cr. The New Stack
เมื่อได้รับคำสั่ง มันจะประเมินระยะทาง และคำนวณเวลาอบพิซซ่าให้แล้วเสร็จพอดีเมื่อไปถึงที่หมาย
ทำให้ลูกค้าจะได้กินพิซซ่าที่ร้อนใหม่ๆ จากเตา
 
รวมไปถึงเทคโนโลยี AI มาวิเคราะห์ข้อมูลประวัติการซื้อในอดีต เพื่อให้สามารถจัดเตรียมวัตถุดิบ สำหรับวันเวลาที่คาดการณ์ว่าลูกค้าจะสั่งซื้อพิซซ่าได้ และส่งรถ Food truck ไปรอในบริเวณใกล้เคียงไว้เลย
1
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ Zume Pizza จัดส่งอาหารได้รวดเร็วมาก
หากเป็นไปตามที่ประเมินไว้ล่วงหน้า ลูกค้าบางรายอาจได้รับพิซซ่าหลังจากกดสั่งซื้อเพียง 4 นาทีเท่านั้น
2
จะเห็นได้ว่า การรวบรวมเทคโนโลยีหลายๆ ด้าน เข้ามาพัฒนาธุรกิจ ทำให้กระบวนการทำงานของร้านโดยรวมมีประสิทธิภาพสูงกว่าผู้เล่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน
1
มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะคิดว่า ลงทุนขนาดนี้ ราคาขายคงจะแพง
แต่ทางร้านไม่มีค่าใช้จ่ายในการตกแต่งหน้าร้าน ทำให้สามารถตั้งราคาในระดับที่แข่งขันได้
1
Cr. Inc.
โดยพิซซ่าถาดใหญ่ของ Zume Pizza มีราคารวมค่าขนส่งอยู่ที่ 300-600 บาท ขึ้นอยู่กับหน้าท็อปปิ้ง
ในขณะที่ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Domino’s Pizza พิซซ่าถาดใหญ่ มีราคารวมค่าขนส่งอยู่ที่ 530-570 บาท ซึ่งยังไม่รวมหน้าท็อปปิ้ง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันร้าน Zume Pizza ยังเปิดให้บริการอยู่แค่พื้นที่ย่าน Silicon Valley เมืองซานฟรานซิสโก เท่านั้น แต่ก็มีการเตรียมจะขยายสาขาเพิ่มต่อไป
2
นอกจากนี้ บริษัทได้มีการจดทะเบียนสิทธิบัตรหุ่นยนต์ผลิตอาหารในครัวเคลื่อนที่ไว้
ซึ่งร้านมีแผนจะนำมันไปหาโอกาสความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตร เพื่อเพิ่มประเภทเมนูอาหาร นอกเหนือจากพิซซ่า
1
ด้วยศักยภาพที่น่าสนใจดังกล่าว ทำให้บริษัทได้รับเงินระดมทุน 11,000 ล้านบาท จากกองทุน Vision Fund ของ SoftBank ซึ่งเป็นผู้นำการลงทุนในสตาร์ตอัปเทคโนโลยีของโลก
1
โดย Zume Pizza ถูกประเมินมูลค่าธุรกิจไว้ที่ 68,000 ล้านบาท ถือเป็นสตาร์ตอัประดับยูนิคอร์นไปแล้ว
1
เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า
หุ่นยนต์ เริ่มขยับเข้ามาแย่งงานเรามากขึ้นเรื่อยๆ
แม้แต่สิ่งที่เราเคยคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ อย่างการทำอาหาร
ซึ่งต่อไป มนุษย์อาจเป็นแค่ลูกมือของหุ่นยนต์ภายในห้องครัว
และอีกข้อคือ ธุรกิจเดลิเวอรีอาหาร น่าจะมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
จากการคิดค้นบริการรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด
1
ตอนนี้ เราเห็นการนำอาหารส่งมาให้ถึงประตูบ้าน
และ Cloud Kitchen ที่ให้เช่าห้องครัวกลาง
แต่ในอนาคต มันอาจจะมีห้องครัว เคลื่อนที่มาอยู่ตรงหน้าบ้านเราเลยก็เป็นได้..
โฆษณา