10 พ.ย. 2019 เวลา 06:52 • ไลฟ์สไตล์
เรื่องเล่าหมาเฝ้าประตู
ตอนที่ 1
ย้อนไปในปลายฤดูฝน ปี 2560 ที่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง
มีแม่หมาคลอดลูกหมา 1 คอก รวม 7 ตัว แต่เนื่องจาก แม่หมา ไม่ได้เลี้ยงดูลูกๆ ของมัน ทำให้ต้องเป็นภาระของแม่บ้านที่ทำงานอยู่ในโรงเรียนแห่งนั้น ต้องคอยดูแลเอาข้าวให้ลูกหมากิน และแม่บ้านได้จัดที่อยู่ให้กับพวกมันอยู่ส่วนที่เป็นห้องเก็บของในโรงเรียน และแน่นอนที่สุดที่นี่ไม่ใช่ที่อยู่ของพวกมัน
Cr: sWiTched, พะโล้ หมาเฝ้าประตู
ลูกหมาทั้งหมด ลืมตามาดูโลกได้ประมาณ 1 เดือน ซึ่งพวกมันต้องการนมจากแม่ของพวกมันมากกว่าข้าวที่แม่บ้านเอามาให้พวกมันกิน
แต่ด้วยใกล้จะปิดภาคเรียนในภาคการศึกษานั้นแล้ว และพรุ่งนี้จะเป็นวันสอบวันสุดท้าย ก่อนปิดภาคเรียน แม่บ้านได้ขอให้เด็กนักเรียนกลับไปสอบถามผู้ปกครองที่บ้านว่า บ้านใครสามารถรับหมาไปเลี้ยงที่บ้านได้บ้าง เพราะหลังจากพรุ่งนี้โรงเรียนปิดภาคเรียน เป็นระยะเวลา 1 เดือน แม่บ้านไม่สามารถดูแลหมาคอกนี้ได้ทุกวัน
เด็กนักเรียนที่มีความชื่นชอบลูกหมาคอกนี้ ก็กลับไปถามผู้ปกครองที่บ้าน
Cr: sWiTched, พะโล้ หมาเฝ้าประตู
หนึ่งในเด็กนักเรียนที่ชื่นชอบลูกหมาคอกนี้ คือน้องขิม เด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้กลับไปถาม พ่อกับแม่ ที่บ้าน และเล่าให้ พ่อกับแม่ฟังถึงลูกหมาที่อยู่ที่โรงเรียนนั้นว่ามีทั้งหมด 7 ตัว และน้องขิมอยากได้กลับมาเลี้ยงที่บ้าน 2 ตัว
พ่อกับแม่ เลยถามว่า ทำไมหนูถึงอยากเอามาเลี้ยง 2 ตัว
น้องขิมตอบ พ่อกับแม่ ว่าสงสารลูกหมา ตอนแม่บ้านเอาข้าวมาให้พวกมันกินพวกมันก็จะแย่งกันกิน ตัวที่เล็กและอ่อนแอก็จะได้กินข้าวน้อยกว่าตัวอื่นหรือบางตัวก็ไม่ได้กิน แต่ก็ยังมีเด็กๆ ในโรงเรียนบางคนแบ่งนมให้กับพวกมันกินบ้าง และเท่าที่คุยกับเพื่อนๆ ยังไม่มีใครอยากจะเอาลูกหมากลับไปเลี้ยงที่บ้านเลย
พ่อกับแม่ยิ้ม แล้วบอกน้องขิมว่า การเลี้ยงลูกหมาที่ยังเล็กมากๆ ค่อนข้างจะเลี้ยงยากและมีโอกาสที่มันจะตายได้ เพราะเราไม่แน่ใจว่าลูกหมาเหล่านี้มีภูมิค้ำกันมากน้อยแค่ไหน และอีกเรื่องหนึ่งที่พ่อกับแม่ มีความกังวลใจอยู่ คือ ที่บ้านมีแมวจอมแสบอยู่แล้ว 2 ตัว ซึ่งเจ้าแมวทั้ง 2 ตัวนี้หวงพื้นที่มาก
แต่ด้วยที่บ้านเราไม่ได้เลี้ยงหมามาเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว พ่อกับแม่จะอนุญาตให้หนูนำลูกหมากลับมาเลี้ยงที่บ้านได้แค่ 1 ตัว เท่านั้น หนูเข้าใจที่พ่อกับแม่ พูดใช่หรือเปล่าจ๊ะ
น้องขิม พยักหน้าพร้อมตอบ "เข้าใจค่ะ "
Cr: sWiTched
ในวันต่อมาซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการสอบ
ในช่วงเช้าและบ่าย เด็กๆ ก็เข้าสอบตามปกติ
ในช่วงหลังสอบเสร็จ (หรือตามปกติก็คือเวลาหลังเลิกเรียน) ผู้ปกครองของนักเรียนมารอรับนักเรียนกันตามปกติ และพ่อกับแม่น้องขิม ก็มารับน้องขิมตามปกติเหมือนทุกวัน
พอประตูโรงเรียนเปิด น้องขิม วิ่งออกมาจากประตูโรงเรียนด้วยความรวดเร็ว มาถึงก็จูงมือแม่ กึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับเข้าไปในโรงเรียน เพื่อไปดูลูกหมาเพื่อนำกลับไปเลี่ยงที่บ้าน
ส่วนพ่อ ยืนรออยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน และหลังจาก แม่และน้องขิม เข้าไปในโรงเรียนแล้วก็มีเด็กนักเรียนเดินออกมาพร้อมลูกหมาสีน้ำตาล 1 ตัว ลักษณะอ้วนท้วนมาก พ่อยังคิดในใจว่า ลูกหมาจะอ้วนท้วนอย่างนี้ทุกตัวหรือเปล่านะ
Cr:sWiTched
ทางแม่กับน้องขิม
น้องขิมพาแม่ไปถึงห้องเก็บของ ซึ่งเป็นที่อยู่ของลูกหมาคอกนี้
น้องขิมยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเอาตัวไหนกลับไปเลี้ยงที่บ้าน โดยมีแม่บ้านแนะนำให้ 1 ตัว สีน้ำตาลปนดำ และมีลักษณะอ้วนท้วน แม่น้องขิมเอื้อมมือไปอุ้มลูกหมาตัวนั้นขึ้นมา ในเวลาเดียวกันเจ้าหมาตัวนั้นดิ้นหลุดจากมือของแม่น้องขิม และวิ่งไปอีกฝั่งหนึ่งของคอกที่พวกมันอยู่
และในขณะเดียวกัน 1 ใน ลูกหมาที่อยู่ในคอก (ตัวนี้มีสีน้ำตาลปนขาวเล็กน้อย) ก็วิ่งเข้ามาอยู่ในอุ้งมือของแม่ ซึ่งเจ้าตัวนี้ตัวมันเล็กที่สุด คาดว่าเจ้าตัวเล็กนี้อาจไม่ค่อยได้กินข้าวเท่าตัวอื่นๆ
แม่อุ้มลูกหมาตัวนั้นขึ้นมา ลูกหมาตัวนั้นขยับตัวเบาๆ คล้ายๆ ว่ากลัวตัวมันเองจะหลุดออกจากอุ้งมือเหมือนเจ้าตัวก่อนหน้า พร้อมส่งเสียงครางตามประสาลูกหมาที่กำลังหิว
แม่หันมาหาน้องขิม แล้วถามว่าเจ้าตัวเล็กนี้เป็นอย่างไงบ้าง
น้องขิม พยักหน้าตอบพร้อมบอกว่าเจ้าตัวเล็กวิ่งเข้ามาในมือแม่ สงสัยมันอยากไปอยู่กับเรา
แม่ยิ้ม พร้อมทั้งบอกว่า ดูหน้าตามันก็น่าสงสาร มีเหมือนน้ำตาคลอเบ้าตาอยู่ตลอดเวลา
Cr: sWiTched
แม่และน้องขิม ตกลงเอาเจ้าตัวเล็กนี้กลับไปเลี้ยงที่บ้าน
ระหว่างเดินทางกลับยังได้พูดคุยกันถึงเรื่องที่กังวลใจกันอยู่ ว่า เจ้าแมว 2 ตัวที่บ้าน จะแสดงพฤติกรรมอะไรออกมาเมื่อเห็น เจ้าตัวเล็กนี่
วันนี้ขอจบในตอนที่ 1 ก่อนนะครับ
ฝากติดตาม "เรื่องเล่าหมาเฝ้าประตู" ในตอนต่อๆ ไปด้วยนะครับ ขอบคุณครับผม
sWiTched
โฆษณา