ความพ่ายแพ้ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ แม้อาจมีบางคนกล่าวอ้างว่า VAR น่าจะทำงานให้ละเอียดกว่านี้กับ 2 ประตูแรกของลิเวอร์พูล
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าจุดตัดสินผลการแข่งขันที่แท้จริง ก็คือทีมหงส์แดงฉวยโอกาสลงโทษ “จุดอ่อน” ของเรือใบสีฟ้าได้ดี ในขณะที่แนวรุกของซิตี้ กลับลดความเฉียบคมลง
ถ้าจะให้พูดถึง “จุดอ่อน” ของ แมนฯ ซิตี้ ณ เวลานี้ ไม่น่าจะมีใครชี้เป้าไปที่เกมรุก ในเมื่อพวกเขายังครองสถิติเป็นทีมที่ยิงได้มากที่สุดในลีก ซัดไปถึง 35 ประตู
ทุกคนฟันธงไปที่เกมรับมากกว่า เพราะนับตั้งแต่ อายเมอริค ลาป๊อร์กต์ เข่าพังจากเกมชนะ ไบรท์ตัน 4-0 พวกเขาพบกับความพ่ายแพ้ในลีกไปถึง 3 เกม
ทั้ง 3 นัดที่ปราชัย (แพ้นอริช, วูล์ฟส์ และ ลิเวอร์พูล) ล้วนมีจังหวะประตูที่เสียแบบไม่น่าเสีย จากคนที่ไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆ ในผัง 11 ตัวจริงของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
นิโกลัส โอตาเมนดี้ ฟอร์มออกทะเลน่าเกลียด ในเกมพบทีมนกขมิ้นและหมาป่า จนเวลาต่อมาต้องหลุดไปนั่งสำรอง
ส่วนผลงานนัดล่าสุดที่พ่ายหงส์แดง เป็นเกมที่แนวรับเรือใบสีฟ้ารวนกันทั้งแผง
อังเคลีโญ่ สอบไม่ผ่านในการรับมือ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
แถมปราการด่านสุดท้าย ดันเป็นนายประตูที่ไม่ได้ลงเฝ้าเสาในพรีเมียร์ลีกนานกว่า 1 ปีอย่าง เคลาดิโอ บราโว่
2 ลูกแรกที่เข้ากรอบก็ตรงเป็นตุง ส่วนลูกสามก็ตัดสินใจพลาดที่ไม่ยอมตัดบอล จนปล่อยให้ ซาดิโอ มาเน่ พุ่งโขกเหน่งๆ
ความพ่ายแพ้ 1-3 ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย ในเมื่อคู่แข่งคือทีมที่เล่นในบ้านได้ดีที่สุดทีมหนึ่งของโลก
11 ตัวจริงที่ลงสนาม มีถึง 10 คนที่ออกสตาร์ทเกมนัดชิงที่ได้แชมป์ยุโรป
ตรงข้ามกับทีมตัวเอง ที่ต้องฝากความหวังไว้กับนายประตูสำรองตลอดกาล แบ็กซ้ายที่ได้ลงตัวจริง คือตัวสำรองของสำรองอีกที
ขณะที่กองกลางเชิงรับที่เก่งที่สุดของทีม ต้องยืนเซนเตอร์แบ็กเป็นนัดที่ 11 ติดต่อกันรวมทุกรายการ
แน่นอนว่าการที่ ลาป๊อร์กต์ เจ็บยาวแบบรุนแรงเกินคาด และการขาด เอแดร์ซอน ซึ่งจู่ๆ ก็มาเจ็บก่อนเกมสำคัญที่สุดของฤดูกาล 4 วัน ไม่ใช่เรื่องที่อยู่ในแผนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทีมเรือใบสีฟ้าเดินหมากผิดพลาดในการยกระดับขุมกำลังเชิงลึก (Squad Depth) ของแนวป้องกัน มาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ ด้วยเงื่อนไขรวมกันหลายๆ อย่างที่ไม่เป็นใจกับพวกเขา
ก่อนเข้าช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เล็งเสริมแนวรับ ด้วยตำแหน่งสำคัญ 3 ตำแหน่ง
1. เซนเตอร์แบ็กฝีเท้าดีที่พร้อมเข้ามาเป็นตัวจริงทันที ในเมื่อ แว็งซ็องต์ ก็องปานี เตรียมอำลาเพื่อเปิดทางให้รุ่นน้องมาแทนบ้าง
เป้าหมายหลักคือ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ของเลสเตอร์ แต่ในโลกนี้นอกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีใครยอมทุ่มเงินถึง 80 ล้านปอนด์ เพื่อคว้ากองหลังทีมชาติอังกฤษไปร่วมทีม
อีกคนคือ มัตไตส์ เดอ ลิกท์ เซนเตอร์ดาวรุ่งกัปตันทีมอาแจ็กซ์ แต่ค่าตัว 67.5 ล้านปอนด์ ที่ยูเวนตุสใช้ในการเอาตัวไปร่วมทีมได้ ก็เป็นราคาที่เรือใบสีฟ้าไม่สู้เช่นกัน
เพราะเหตุนี้ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ซึ่งเดิมทีอยากย้ายออกไปการันตีตำแหน่งตัวจริงที่อื่น (แต่ไม่มีทีมไหนยื่นข้อเสนอที่ดีพอเข้ามา) จึงต้องอยู่กับทีมต่อ เพราะสโมสรเหลือเซนเตอร์แบ็กอาชีพระดับซีเนียร์เพียง 3 คน
2. แบ็กซ้ายธรรมชาติที่มีระดับสักคน เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องการจริงๆ ยังคงอยู่ที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม นั่นคือ เบน ชิลเวลล์
แต่ความล้มเหลวในการพยายามขาย เบนฌาแม็ง เมนดี้ ออกไป เพราะดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสมีประวัติอาการบาดเจ็บเรื้อรังจนไม่มีใครกล้าซื้อ ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้งบประมาณที่ต้องการสำหรับการเสริมผู้เล่นตำแหน่งนี้
สุดท้ายพวกเขาทำได้ดีที่สุดคือใช้ออปชั่นซื้อตัว อังเคลีโญ่ กลับจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ด้วยค่าตัวเพียง 5.3 ล้านปอนด์ แต่ก็เอามาใช้แค่เป็นตัวสำรองของทีม
แม้จะได้ตัว ชูเอา คานเซโล่ มาจากยูเวนตุส แต่ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสก็ถนัดในการเล่นแบ็กขวามากกว่า แถมต้องแลกด้วยการเสีย ดานิโล่ สลับฝั่งไปอยู่ทีมม้าลาย เป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอด้วย
3. กองกลางเชิงรับ ที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนระยะยาวของ แฟร์นันดินโญ่
ถึงแม้จะเป็นกองกลางตัวรับที่ฝีเท้าดีที่สุดคนหนึ่งของลีก แต่ แฟร์นันดินโญ่ ก็อายุปาเข้าไปแล้ว 34 ปี ไม่ว่ายังไงก็ต้องหาตัวแทนดีๆ เข้ามาโดยเร็ว
เฟรงกี้ เดอ ยอง ตกลงปลงใจกับบาร์เซโลน่าไปแล้ว เรือใบสีฟ้าจึงต้องเล็งไปที่เป้าหมายเบอร์สองอย่าง โรดรี้ ของ แอตเลติโก มาดริด
คราวนี้ แมนฯ ซิตี้ สมหวัง แต่ต้องแลกมาด้วยการยอมจ่ายค่าฉีกสัญญาถึง 70 ล้านยูโร
สรุปช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้นักเตะเข้าสู่ทีมชุดใหญ่เพิ่มขึ้นแค่ 3 คนคือ โรดรี้, ชูเอา คานเซโล่ และ อังเคลีโญ่
แต่จากการที่ แว็งซ็องต์ ก็องปานี อำลา, ฟาเบียน เดลฟ์ โดนขายให้ เอฟเวอร์ตัน, ดานิโล่ โดนแถมไปให้ ยูเวนตุส ยังไม่รวมกับ ดั๊กลาส ลุยซ์ ที่ย้ายไปเป็นตัวหลักที่ แอสตัน วิลล่า ทำให้ขนาดทีมของแชมป์เก่า ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าเดิม
เมื่อบวกกับการเจ็บยาวของ ลีรอย ซาเน่ และ อายเมอริค ลาป๊อร์กต์ และความโรยราลงของ ดาบิด ซิลบา และ แฟร์นันดินโญ่ ต้องบอกว่า แมนฯ ซิตี้ ปีนี้ คุณภาพตกลงจากเดิมอย่างชัดเจน
ใครๆ ต่างเคยบอกว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีขุมกำลังที่ดีพอ และใหญ่พอที่จะแบ่งออกเป็น 2 ชุดได้สบายๆ
แต่ความเป็นจริงมันไม่เป็นแบบนั้น สาเหตุสำคัญก็เพราะพวกเขาเหลือเซนเตอร์แบ็กอาชีพแค่ 3 คนนี่แหละ ความสมดุลจึงหายไป
จอห์น สโตนส์ กับ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ไม่ได้อยู่ในช่วงทำผลงานได้ดีเหมือนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา นั่นทำให้การขาด ลาป๊อร์กต์ ยิ่งเป็นปัญหาใหญ่มากขึ้นไปอีก
ส่วนตำแหน่งนายประตู เคลาดิโอ บราโว่ ไม่ใช่คนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไว้ใจมากนัก
ฤดูกาล 2018-19 ที่ทีมกวาดทุกแชมป์ในประเทศ เขาไม่ได้ลงเฝ้าเสาเลยสักเกม เอแดร์ซอน ลงตลอดใน เอฟเอ คัพ ส่วนถ้วย คาราบาว คัพ ก่อนจะถึงนัดชิง คนที่ได้ลงสนามคือ อาริยาเน็ต มูริช
ถ้าหากฤดูกาลนี้ สโมสรไม่ได้มองการณ์ไกล ด้วยการปล่อย มูริช ให้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ยืมตัวเพื่อเก็บประสบการณ์ลงสนามเพิ่มซะก่อน บางที บราโว่ อาจไม่ใช่คนที่ถูกส่งลงเฝ้าเสาในเกมที่แอนฟิลด์ก็เป็นได้
12 นัดแรกของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-20 ผ่านไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บได้แค่ 25 แต้ม น้อยกว่าซีซั่น 2016-17 ซึ่งเป็นปีแรกที่กุนซือชาวสแปนิชเข้ามาคุมทีมเสียอีก
แล้วต้องไม่ลืมด้วยว่า ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสปีนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังต้องพาทีมเจองานหนักๆ อย่าง เชลซี, แมนฯ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และ เลสเตอร์ ขณะที่ทีมจ่าฝูงเจอทีมเหล่านี้ไปครบแล้ว
หลายคนอาจบอกว่า ฤดูกาลยังอีกยาวไกล การตามหลัง ลิเวอร์พูล ห่าง 9 แต้ม ไม่ได้หมายความว่า แมนฯ ซิตี้ จะแซงกลับคืนไม่ได้
ประเด็นก็คือ ถ้าหากคุณภาพของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มันยังเท่ากับซีซั่นที่แล้ว มันยังพอลุ้นได้มากกว่านี้น่ะสิ
แต่ซีซั่นนี้ นอกจากอะไรยังไม่เข้าทาง นักเตะมาตรฐานตกลง ยังดูเหมือนว่า ลิเวอร์พูล จะตายยากตายเย็นยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย...
#เสียบสามเหลี่ยม #ManCity #Liverpool #PremierLeague
ชอบกดไลค์ ถูกใจกดแชร์ และเพื่อไม่พลาดบทความคุณภาพจากเราทุกวัน กดไลค์เพจ และติดตามเพจแบบ See First ไว้เลยนะครับ
..สนใจติดต่อลงโฆษณา, สนับสนุนเพจ ติดต่อจ้างงานเขียนบทความฟุตบอล งานแปลข่าว หรือหนังสือฟุตบอล ทักอินบ็อกซ์ได้ตลอดเวลาครับ (ไม่รับโฆษณาเว็บพนันครับ)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
