12 พ.ย. 2019 เวลา 15:16 • การเมือง
ญวนเดินเกมเก่ง
1
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
เวียดนามเดินนโยบายต่างประเทศได้อย่างชาญฉลาดมากครับ คบกับมหาอำนาจได้อย่างราบรื่นทุกประเทศ ทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรป รัสเซีย จีน และอินเดีย
เวียดนามเอาอินเดียมาถ่วงอำนาจจีนด้วยการรับการเยือนจากกองทัพเรืออินเดียบ่อยครั้ง
เวียดนามมีเขตการค้าเสรีกับยุโรป ส่งสินค้าไปขายใน 28 ประเทศด้วยภาษีเป็นศูนย์
ซื้อเรือดำน้ำและรับเทคโนโลยีชั้นสูงจากรัสเซียโดยแลกกับสินค้าโภคภัณฑ์ที่เวียดนามผลิตได้
แม้เมื่อก่อนจะมีสงครามกับสหรัฐ แต่เดี๋ยวนี้ เวียดนามกลายเป็นประเทศที่ได้ดุลการค้าสหรัฐ จนประธานาธิบดีทรัมป์ฮึ่มหลายครั้ง ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนาม
เวียดนามไม่ได้โวยวายตีโพยตีพายด่าทรัมป์ สื่อเวียดนามก็สุภาพเรียบร้อยกับทรัมป์ รัฐบาลเองก็หาทางซื้อสินค้าอเมริกันเพื่อลดความได้เปรียบทางการค้า
ช่วงที่ผมอยู่กับลูกชายที่เมืองกุ้ยหลิน เพื่อนชาวเวียดนามเล่าว่า ก่อนหน้านี้ บริษัทอเมริกันที่ชื่อว่า AES เข้ามาลงนามเพื่อก่อสร้างสถานีก๊าซธรรมชาติเหลวมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ ได้โรงไฟฟ้าในจังหวัดบิ่งทวน
8 พฤศจิกายน 2562 บริษัทอเมริกัน AES ก็เข้ามาลงนามบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลเวียดนามมูลค่า 1.7 พันล้านดอลลาร์
วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ. -- Reuters.
วันที่ 8 ที่ผ่านมานี่เองครับ ที่สถานทูตสหรัฐในกรุงฮานอย ก็ยังมีพิธีลงนามข้อตกลงการบริการด้านเครื่องยนต์มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างบริษัทอเมริกันและสายการบินเวียดนาม
วันเดียวกันก็ยังมีการลงนามข้อตกลงแบ่งการผลิตระหว่างบริษัทอเมริกันกับกลุ่มบริษัทน้ำมันและก๊าซของเวียดนามในแหล่งน้ำมันนอกชายฝั่งเวียดนาม บล็อก 15-2/17
เวียดนามเอาใจสหรัฐถึงขนาดต้น พ.ศ.2562 ยอมนำเข้าน้ำมันดิบดับบลิวทีไอและตอนนี้ก็ติดต่อกับสหรัฐว่าจะนำเข้าถ่านหินเพื่อมาใช้ผลิตพลังงานอีก
เห็นการลงนามบานเบอะเยอะแยะระหว่างสหรัฐกับเวียดนาม เราก็พอมองออกครับ ว่านอกจากต้องการจะเอาใจทรัมป์แล้ว เวียดนามยังใช้การค้ากับสหรัฐมาถ่วงดุลการเมืองระหว่างประเทศกับจีน ซึ่งเป็นการเดินเกมที่ฉลาดมาก
แม้ว่าจะมีปัญหาความขัดแย้งกันในทะเลจีนใต้ แต่เวียดนามพยายามลดปัญหาให้น้อยลงด้วยการส่งเสริมการค้าชายแดนจีน-เวียดนามที่ติดกับเขตปกครองตนเองกว่างสี ทั้งที่ด่านม่องก๋าย - ตงชิง และด่านด่งด่าง - ผิงเสียง
สีจิ้นผิงเป็นผู้นำจีนที่ใช้นโยบายน้ำขุ่นอยู่ใน น้ำใสอยู่นอก
สี จิ้นผิง เลขาธิการ คณะกรรมาธิการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือซีพีพีซี ณ มหาศาลาประชาคม กรุงปักกิ่ง (ภาพ ซินหวา)
ตั้งแต่เป็นผู้นำเมื่อ พ.ศ. 2556 นายสีไปเยือนเวียดนามหลายครั้ง โดยใช้สะพานเชื่อมว่าต่างก็ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์เหมือนกัน
ทุกครั้งที่เจรจากัน ทั้งจีนและเวียดนามไม่ยกเรื่องทะเลจีนใต้มาพูดถึง
พ.ศ. 2559 มีการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามครั้งที่ 12 เพื่อเลือกประธานาธิบดีที่จะมาดำรงตำแหน่งใน พ.ศ.2561 และคณะผู้นำชุดใหม่
ผู้ใหญ่ของเวียดนามตอนนั้นมี 2 กลุ่ม มีนโยบายค่อนข้างแตกต่างกันโดยชัดเจน
กลุ่มหนึ่งนิยมสหรัฐ นำโดยนายเหงียน เติน สุง ที่มีนโยบายสุดลิ่มทิ่มประตูเอียงไปทางสหรัฐ
นายเหงียน เติน สุง
อีกกลุ่มหนึ่งมีนโยบายเอียงไปทางจีน คือ นายเหงียน ฝู จ็อง ท่านผู้นี้ที่จบสถาบันการบริหารรัฐกิจชั้นสูงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย
นายเหงียน ฝู จ็อง
นักวิเคราะห์ต่างฟันธงว่า ฝ่ายของนายเหงียน เติน สุง ต้องชนะแน่
แต่ก็ปากกาหักกันทั้งโลก เพราะฝ่ายของนายเหงียน ฝู จ็อง ชนะ
พอถึงต้นปี พ.ศ. 2560 เหงียน ฝู จ็องก็ไปเยือนจีน สร้างความอบอุ่นขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างจีน-เวียดนามมากขึ้น
พ.ศ.2561 วันที่ 23 ตุลาคม นายเหงียน ฝู จ็อง ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคน 9 ของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามและจีนก็ราบรื่นเรียบร้อย
เกมนี้ของเวียดนามเป็นการยิงปืนนัดเดียว นกตกลงมาทั้งฝูง
ปัญหาทะเลจีนใต้ลดลง
เป็นการบอกกับสหรัฐว่า ถ้าคุณขู่ฉันมาก ฉันก็ไปคบกับจีนได้นะ
นายเหงียน ฝู จ็อง
การค้าขายกับจีนก็ดีขึ้น พรมแดนประชิดติดกันส่งสินค้าได้ง่าย แถมยังเงินเข้าเวียดนามจากการลงทุนจีน จนจีนกลายเป็นนักลงทุนอันดับ 3 รองจากฮ่องกงและเกาหลีใต้
จีนกำลังเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยี การที่นักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนในเวียดนาม ก็ทำให้คนเวียดนามได้เรียนรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ของจีนด้วย
เวียดนามผลิตสินค้าได้มาก เมื่อก่อนตอนที่มีปัญหากับจีนเข้มข้น เวียดนามส่งเข้าไปจีนได้น้อย พอความสัมพันธ์ดีขึ้น วันนี้สินค้าทางการเกษตรจากเวียดนามก็เต็มกว่างสีจ้วง
การเดินเกมการเมืองระหว่างประเทศต้องถือคติของช่างตัดผมครับ หลายหัวเดียวกว่าหัวเดียว
ส่วนประเทศที่สั่งการมาจากผู้นำรัฐบาลเพียงคนเดียว มักเดินเกมสะเปสะปะ
เดินไปเดินมา ประเทศกลายเป็นมดก็มี.
โฆษณา