14 พ.ย. 2019 เวลา 01:35 • บันเทิง
จาก10 ล้าน สู่ 7.4 พันล้าน
Steve Jobs กับการก่อตั้ง Pixar Studio
ปี 1976 สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs)และ สตีฟ วอซเนียก (Steve Wozniak)ร่วมกันก่อตั้งบริษัทแอปเปิ้ลขึ้นในโรงรถบ้านพ่อบุญธรรม ใครจะคิดว่าจากจุดเริ่มต้นเล็กๆนั้นจะขยายกลายมาเป็นบริษัทระดับโลกที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐในปัจจุบัน
3
9 ปี ต่อมา(1985)หลังก่อตั้งบริษัท...
สตีฟ จอบส์ ถูกกดดันอย่างหนักด้วยข้อหาเรื่องความไร้ประสิทธิภาพเพราะเครื่อง Macintoshรุ่นแรกไม่ประสบความสำเร็จ ประกอบกับบุคลิกส่วนตัวของเขาที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความเกรี้ยวกราด โมโหร้าย ทำงานร่วมกับคนอื่นได้ยาก ทำให้เขาต้องออกจากบริษัทที่ก่อตั้งมากับมือ
สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นจุดตกต่ำของชายชื่อสตีฟ จอบส์
แต่ไม่เลย...มันกลับเป็นจุดเริ่มต้นตำนานบทใหม่ของเขา
สตีฟ จอบส์ มีเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทผลิตภาพยนตร์ชื่อ Lucusfilm เพื่อนคนนั้นคือ จอร์จ ลูคัส (Josh Lucas)ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Star Wars นั่นเอง
เขาได้ซื้อทีมคอมพิวเตอร์กราฟฟิคและแอนิเมชั่นจาก Lucusfilm ในราคา 10 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และแยกมาก่อตั้งบริษัทPixar Studio ในปี 1986
แม้ Pixar Studio จะก่อตั้งขึ้นมาแล้ว แต่การจะสร้าง
แอนิเมชั่นสักเรื่องโดยใช้คอมพิวเตอร์แทนการวาดมือไม่ใช่เรื่องง่าย แถมยังมีต้นทุนที่สูงมาก
แต่นั่นคือความฝันของจอห์น แลสซีเตอร์ (John Lasseter)หนึ่งในทีมPixarที่เป็นอดีตพนักงานของ Disney
จอห์น แลสซีเตอร์ ถูกไล่ออกจากDisneyเพราะพยายามผลักดันแอนิเมชั่นจากคอมพิวเตอร์ เนื่องจากต้นทุนที่สูงมาก Disneyจึงไม่สนใจและเขาก็ถูกไล่ออกในเวลาต่อมา
1
เมื่อคนมีฝันอย่างจอห์น แลสซีเตอร์ได้มาพบกับมนุษย์มหัศจรรย์อย่างสตีฟ จอบส์ เราจึงได้เห็นสิ่งใหม่ๆเกิดขึ้นในวงการแอนิเมชั่น
สามก่อตั้ง Pixar Studio (1986) เอ็ดวิน แค็ตมัล (ซ้าย) : สตีฟ จอบส์ (กลาง) : จอห์น แลสซีเตอร์ (ขวา)
ถึงตอนนี้ Pixarมีเทคโนโลยีที่ช่วยทำให้ต้นทุนในการผลิตแอนิเมชั่นด้วยคอมพิวเตอร์ลดลงแล้ว สตีฟ จอบส์ จึงเข้าไปเจรจากับ เจฟฟรีย์ แคตเซนเบิร์ก (Jeffrey Katzenberg)ประธานบริษัทDisney Pictures เพื่อขอเงินทุนมาผลิตแอนิเมชั่นเรื่องแรกของ Pixar
และเมื่อการเจรจาบรรลุผลโปรเจคแรกของ Pixarจึงเริ่มขึ้น
1
ในส่วนของงานสร้างนั้น สตีฟ จอบส์ ไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆเลย เขาเป็นเพียงแต่คนดูผู้ให้คำวิจารณ์ในฐานะของผู้ชมเท่านั้น
หลังจากนั้น4 ปี Toy Story(1995)แอนิเมชั่นเรื่องแรกของสตูดิโอ Pixarจึงเสร็จสมบูรณ์และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
จากทุนสร้าง 30 ล้านเหรียญ สามารถทำรายได้ในอเมริกาถึง 191 ล้านเหรียญ และรายได้รวมทั่วโลกกว่า 373 ล้านเหรียญ
2
จากความสำเร็จของ Toy Story ทำให้ Pixarผลิตผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ A Bug's Life(1998) , Toy Story 2(1999) , Monsters, Inc.(2001) , Finding Nemo(2003) , The Incredibles(2004) จนมาถึงเรื่อง Cars(2006)
2
จะเห็นว่าแอนิเมชั่นที่กล่าวถึงนี้ล้วนแต่ประสบความสำเร็จในเรื่องรายได้
จุดเด่นของแอนิเมชั่น Pixar คือ เป็นแอนิเมชั่นที่ดูสนุก ดูได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีคาแรคเตอร์ตัวละครที่ชัดเจน และเนื้อหาที่สนุก มีความขี้เล่นแบบเด็กแต่ก็เปี่ยมไปด้วยประเด็นและแง่คิดแบบผู้ใหญ่หลายเรื่องมีแก่นที่ลุ่มลึกและตีความได้หลายระดับ
เป็นแอนิเมชั่นในสไตล์เฉพาะตัวของ Pixar
ซึ่งจุดแข็งเหล่านี้แลกมาด้วยการทำงานที่ละเอียดทุกขั้นตอนในการทำงานด้านภาพและบทภาพยนตร์
เมื่อใกล้ครบกำหนดสัญญาที่ทางDisney Picturesทำไว้กับPixar Studio(ทั้งหมด 7 เรื่อง) ทาง Disney เล็งเห็นในศักยภาพของ Pixarจึงทำการซื้อ Pixarโดยแลกหุ้นของ Disney มูลค่ากว่า 7.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7 เปอร์เชนต์ของมูลค่าหุ้นDisneyทั้งหมดให้กับสตีฟ จอบส์
เป็นอันว่าจากเงินทุน 10 ล้านเหรียญที่จอบส์ลงทุนไปในตอนแรกได้งอกเงยเป็น 7.4 พันล้านเหรียญในเวลา 20 ปี
นอกจากตัวเงินแล้ว...สิ่งที่สตีฟจอบส์ได้จาก Pixarก็คือ วิธีการทำงานที่เปลี่ยนไป ว่ากันว่าการที่สตีฟ จอบส์ ได้เข้ามาร่วมงานกับ Pixarทำให้เขาได้เปลี่ยนตัวเองจากชายขี้โมโห ไม่ยอมรับความคิดเห็นผู้อื่น มาเป็นคนที่เปิดใจรับฟัผู้อื่นมากขึ้น เพราะการทำงานใน Pixarนั้น สตีฟ จอบส์ ไม่ได้มีส่วนในขั้นตอนการผลิตเลย เป็นแต่เพียงผู้ให้ความเห็นในฐานะผู้ชม
และนี่คือส่วนหนึ่งในช่วงชีวิตของสตีฟ จอบส์ ที่เขาได้มีส่วนร่วมในบริษัทแอนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Pixar Studio
1
จนถึงปัจจุบันPixar Studio ผลิตแอนิเมชั่นออกมาแล้วรวม 21 เรื่อง และกำลังจะมีผลงานรอเข้าฉายในปี 2020 อีก 2 เรื่องคือ Onward และ Soul
1
Onward และ Soul แอนิเมชั่นของ Pixar ที่เตรียมเข้าฉายปี 2020
จากจุดเริ่มต้นในแผนกหนึ่งของ Lucusfilm มาวันนี้ Pixar Studio ได้กลายมาเป็นบริษัทผู้ผลิตแอนิเมชั่นคุณภาพอันดับต้นของโลกไปเรียบร้อยแล้ว
และพวกเขายังคงยึดถือในปรัชญาการทำงานที่สตีฟ จอบส์ บอกกับพวกเขาเสมอมาว่า " Make it great "
" สตีฟให้โอกาสและเชื่อในความฝันบ้าๆของพวกเราในการสร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นจากคอมพิวเตอร์ สิ่งหนึ่งที่เขามักจะบอกกับพวกเราเสมอ คือ ' ทำมันให้ยอดเยี่ยม 'และเขาคือเหตุผลที่เรายังคงอยู่บนเส้นทางนี้
ความแข็งแกร่ง ความซื่อสัตย์และความรักที่เกิดขึ้นตลอดชีวิตของเขาทำให้พวกเราทุกคนดีขึ้นเขาจะเป็นส่วนหนึ่งในดีเอ็นเอของ Pixarไปตลอดกาล "
จากถ้อยคำแถลงของจอห์น แลสซีเตอร์ และ เอ็ดวิน แค็ตมัล สองผู้ร่วมก่อตั้ง Pixar Studio ที่ได้แถลงไว้หลังการเสียชีวิตของสตีฟ จอบส์ ในปี 2011
สามารถติดตามบทความเของหนังหลายมิติเพิ่มเติมได้ที่ :
Website : www.movie8d.com
โฆษณา