14 พ.ย. 2019 เวลา 05:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เกล็ดแก้ว(Pearlscale)
สายพันธุ์ปลาทอง
ปลาทองสายพันธุ์เกล็ดแก้วอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงกันเป็นอย่างมาก ด้วยรูปร่างลักษณะที่แปลกตากว่าปลาทองสายพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งจะมีเกล็ดที่ปูดนูนออกมาจากลำตัว จึงได้ฉายาว่า "เกล็ดแก้ว" นั้นเอง
ปลาทองสายพันธุ์นี้เป็นที่น่ายินดีสำหรับคนไทยเป็นอย่างมาก เพราะจุดกำเนิดสายพันธุ์นี้มาจาก "ประเทศไทย" เป็นผู้เพาะพันธุ์เลี้ยงและขยายพันธุ์ขึ้นมาเป็นที่แรกของโลก
ลักษณะทั่วไป :
ปลาทองสายพันธุ์เกล็ดแก้วนี้มีลักษณะเด่นที่ชัดเจนเป็นอย่างมาก ทั้งในส่วนของหัวไปจนถึงหาง และที่สำคัญที่ชัดเจนมากที่สุดคือ
"ส่วนของเกล็ดที่แปลกไม่เหมือนใคร"
ปลาทองสายพันธุ์เกล็ดแก้วโด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ ได้สร้างชื่อให้แก่ประเทศไทย จนเป็นที่รู้จักและยอมรับของทั่วโลกว่า
"ปลาทองที่แปลก ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน"
ลักษณะโครงสร้าง :
ลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดเจน คือ "เกล็ดทุกเกล็ดจะปูดนูนออกมา" จึงเป็นที่มาของชื่อ "เกล็ดแก้ว"
ส่วนหัวมีทั้งหัววุ้นและหัวมงกุฎซึ่งจะมีขนาดเล็กมาก จนถูกนับได้ว่าเป็นปลาทองสายพันธุ์ที่มีหัวเล็กที่สุดในบรรดาทุกสายพันธุ์ปลาทองทั้งหมด
ส่วนของครีบหางจะแผ่กางออกแลดูสวยงาม อลังการ
ส่วนสีสันของลำตัวมีทั้งสีเดี่ยวและสีผสมในตัวเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น สีขาว ,สีน้ำตาล ,สีเหลืองหรือสีส้ม ส่วนสีดำทั้งตัวจะหาได้ยากมาก ๆ
อายุไขโดยเฉลี่ยอยู่ประมาณ 5-6 ปี
สถานที่เลี้ยงปลา :
โดยส่วนใหญ่สามารถเลี้ยงได้เหมือนปลาทองสายพันธุ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเลี้ยงในบ่อปลาหรือจะเลี้ยงในตู้ปลาก็ได้ทั้งสองอย่าง
แต่สิ่งสำคัญคือ "ควรดูแลรักษาน้ำให้สะอาดอยู่เสมอและไม่ควรนำปลามาเลี้ยงจนแออัดจนเกินไป"
อาหารปลา :
อาหารปลาสามารถให้ได้ทั้งสองอย่างไม่ว่าจะเป็นอาหารสดหรืออาหารเม็ด แต่ในทางที่ดีควรให้สลับกันทั้งสองอย่าง อาจจะเป็นให้อาหารสด 4 วัน อาหารเม็ด 3 วัน/สัปดาห์
จะช่วยให้ปลาที่เราเลี้ยงไม่เบื่ออาหารได้ง่าย
ที่สำคัญยังช่วยให้การขับถ่ายของปลาดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ข้อควรระวัง :
ทุกครั้งที่เราให้อาหารสดกับปลาทอง ควรเช็คให้เรียบร้อยว่าปลาทานหมด หลังจากให้อาหารไปสัก 15-30 นาที ถ้าหากปลาทานไม่หมดให้ตักออกเลยทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ไม่อย่างนั้นน้ำจะเน่าเสียเร็วมาก ๆๆๆๆๆๆๆ
ส่งผลให้ปลาติดเชื้อและเป็นโรคต่าง ๆ ตามมา
ในปัจจุบันได้มีการทดลองเพาะพันธุ์กันเพิ่มมากยิ่งขึ้น ให้มีรูปทรงแตกต่างกันออกไปเป็นอย่างมาก เช่น ปลาทองเกล็ดแก้วชนิดหางสั้นและหางยาว ,ชนิดหัววุ้นและชนิดหัวมุก บางคนก็ไปเน้นทางด้านสีสันให้ดูแปลกตามากกว่าเดิม ฯลฯ เป็นต้น
แต่สิ่งสำคัญในการเพาะพันธุ์ก็คือ
"การคงไว้ซึ่งเกล็ดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ได้"
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำออนไลน์
fishway
Website : ...coming soon...
Youtube : ...coming soon...
Tiktok : ...coming soon...
Line VOOM : ...coming soon...
โฆษณา