14 พ.ย. 2019 เวลา 15:14 • ประวัติศาสตร์
เปิดกล่องดำเผยวีรกรรมการต่อสู้ระหว่างพลเรือน กับสลัดอากาศบนเที่ยวบิน United 93...(EP.1)
มั น เ กิ ด ขึ้ น ไ ด้ อ ย่ า ง ไ ร ... ?
7.15 น. United Airlines Flight 93 เป็นเที่ยวบินที่กำลังจะบินขึ้นจากสนามบินนิวอาร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ เพื่อมุ่งหน้าไปยังซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย พร้อมผู้โดยสาร 37 คน (รวมสลัดอากาศ 4 คน) และลูกเรืออีก 7 คน รวมเป็น 44 ชีวิต
Flight 93 Seating Chart (credit photo: 911 memorial)
9.02 น. ในช่วงสายของวันที่ 11 กันยายน 2001 สำนักข่าวต่างๆได้เริ่มรายงานสดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังเที่ยวบิน American 11 พุ่งชนตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์ด้านเหนือไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว
3
และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาทีเที่ยวบิน United 175 ก็พุ่งชนตึกด้านใต้ได้ มันทำให้ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ และชมรายงานสด ต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
9.04 น. ที่ศูนย์บัญชาการของ FAA ...Ben Sliney ที่เข้ามาเป็นผู้จัดการระบบการบินเป็นวันแรก ถูกรับน้องด้วยเหตุการณ์ที่ไม่เคยจินตนาการมาก่อน ในตอนนั้นเครื่องบินทุกลำที่บินอยู่บนน่านฟ้าได้กลายเป็นผู้ต้องสงสัยสำหรับเขา
1
Ben Sliney ไม่สนใจอะไรแล้วในตอนนั้น เขาสั่งให้หยุดบินทั่วประเทศทันที นั่นหมายความว่าจะไม่มีเครื่องบินลำใดบินขึ้นไปบนน่านฟ้าสหรัฐอเมริกาโดยเด็ดขาด
09:19 น. หลังจากเที่ยวบิน American 11 และ United 175 โดนยึดโดยสลัดอากาศเพื่อนำไปก่อวินาศกรรม ด้วยการบินพุ่งชนอาคารเวิลด์เทรดเซนเตอร์ทั้ง 2 ตึก จนสร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก
Ed Ballinger เจ้าหน้าที่อาวุโสของสายการบิน United Airlines ได้ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในนิวยอร์ก และเฝ้าติดตามเหตุการณ์อย่างจดจ่อ เขาพยายามเตือนเครื่องบินลำอื่นๆถึงการบุกรุกห้องนักบินของสลัดอากาศ
Ed Ballinger รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กัปตัน Jason Dahl ซึ่งเป็นกัปตันเที่ยวบิน United 93 ทราบ เพื่อให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
1
หลังมีสลัดอากาศบุกยึดเที่ยวบิน United 175 และ American 11 แล้วนำไปก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ โดยโจมตีไปที่ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนิวยอร์ก ซึ่งมันเกิดขึ้นก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่นาที และกัปตัน Jason Dahl ก็ได้รับข้อความนี้เมื่อเวลา 9:26 น.
กัปตันเที่ยวบิน United 93 Jason Dahl (credit photo: www.nps.gov)
09.28 น. เที่ยวบิน United 93 บินขึ้นจากสนามบินนิวอาร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ได้เพียงไม่กี่นาที
ลูกเรือบนเครื่อง United 93 ชื่อ LeRoy Homer ได้แจ้งเข้ามาในวิทยุ “Mayday Mayday Mayday” โดยมีเสียงของการต่อสู่กันแทรกเข้ามาด้วย
LeRoy Homer (credit photo: leroywhomerjr.org)
09:28 น. สลัดอากาศทั้ง 4 คน ประกอบด้วย
- Ahmed Alhaznawi (สัญชาติซาอุดีอาระเบีย) คนซ้าย
- Ahmed Alnami (สัญชาติซาอุดีอาระเบีย) คนขวาบน
- Saeed al-Ghamdi (สัญชาติซาอุดีอาระเบีย) คนขวากลาง
- Ziad Jarrah (สัญชาติเลบานอน) คนขวาล่าง
(credit photo: www.flight93friends.org)
สลัดอากาศทั้ง 4 คน เริ่มแสดงตัว และบุกเข้าไปในห้องนักบินได้สำเร็จ แล้วทำร้าย พร้อมกับจับตัวกัปตัน Jason Dahl ให้นั่งอยู่กับพื้น
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศบนภาคพื้นได้ยินเสียง สิ่งที่คาดว่าเป็นการต่อสู้กันระหว่างกัปตัน และสลัดอากาศที่บุกเข้าไปในห้องนักบิน
09:32 น. หนึ่งในสลัดอากาศที่ต่อมาถูกระบุว่าเป็น Ziad Jarrah เขาเคยผ่านการฝึกอบรมการเป็นนักบินมาแล้ว
เมื่อเข้าไปในห้องนักบินได้ Jarrah ก็ประกาศว่า “ท่านสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรีโปรดนั่งประจำอยู่กับที่ เรามีข้อเรียกร้องของเรา ดังนั้นจงนั่งลงโปรดอยู่เงียบ ๆ ”
หลักฐานจากเครื่องบันทึกข้อมูลการบินยังแสดงให้เห็นอีกว่า Jarrah ได้รีเซ็ตระบบการทำงานของเครื่องบินให้เป็นระบบ Autopilot แล้วมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก และลดระดับเพดานบินลง 685 ฟุต (209 เมตร)
Sandy Dahl ภรรยาของกัปตัน Jason Dahl ได้ฟังเครื่องบันทึกเสียงของห้องนักบินในภายหลัง
สิ่งที่ Sandy Dahl ได้ยินคือ Jarrah กำลังยุ่งกับสามีของฉัน ... เขากำลังพูดภาษาอังกฤษกับสามีฉัน และเขาพูดภาษาอาหรับทุกครั้งเวลาที่คุยกับสลัดอากาศคนอื่น ๆ
ฉันได้ยิน Jason ทำเสียงคร่ำครวญ ฟังดูเหมือนว่าเขากำลังพยายามทำอะไรสักอย่าง หรือ พยายามขัดขืนต่อสู้
นอกจากนี้บันทึกการบินยังแสดงให้เห็นถึงข้อมูลบางอย่างของสลัดอากาศอีกคน Saeed al-Ghamdi เขาได้รับการฝึกฝนในด้านการบินมาเป็นอย่างดี เขากำลังช่วย Jarrah ควบคุมเที่ยวบินนี้ ไปยังเป้าหมายจู่โจม
ผู้โดยสาร และลูกเรือถูกข่มขู่จนต้องไปรวมกันอยู่ที่ท้ายเครื่องบิน ผู้โดยสารหลายคนได้โทรศัพท์ผ่าน Airphone 35 สาย และโทรศัพท์มือถือ 2 สาย เพื่อแจ้งให้สมาชิกในครอบครัว และเจ้าหน้าที่การบินบนภาคพื้นให้ทราบถึงเหตุการณ์จี้เครื่องบินที่เกิดขึ้น
ท่ามกลางความสับสนที่กำลังเกิดขึ้น ผู้โดยสารบนเที่ยวบิน United 93 ก็ได้รับรู้ข่าวสาร และชะตากรรมของอีก 3 เที่ยวบินที่ถูกสลัดอากาศบุกยึด แล้วนำไปก่อวินาศกรรมด้วยการบินชนตึกแฝดเวิลด์เทรดเซนเตอร์ในนิวยอร์ก และตึกเพนตากอน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ผู้โดยสารเริ่มใจเสีย และตระหนักแล้วว่าเครื่องบินของพวกเขา อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนก่อการร้ายเพื่อโจมตีสหรัฐอเมริกา
2
09:30 น. Tom Burnett โทรหาภรรยาของเขา และอธิบายว่าเครื่องบินถูกจี้โดยกลุ่มชายที่อ้างว่ามีระเบิด นอกจากนี้เขายังกล่าวว่ามีผู้โดยสารถูกแทงด้วยมีด
Tom Burnett กับลูกสาว (credit photo: www.minnesota.cbslocal.com)
ในช่วงหนึ่งของการสนทนา ภรรยาของเขาได้บอกเขาถึงการโจมตีตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ด้วยเครื่องบิน
Tom Burnett ตื่นตระหนกแล้วกล่าวกับภรรยาว่า
“ เมื่อกี้คุณพูดถึงเรื่องการชน แล้วเครื่องบินลำนี้ล่ะ ... โอ้พระเจ้ามันเป็นภารกิจพลีชีพ ”
Tom Burnett เริ่มถามข้อมูลเกี่ยวกับการก่อวินาศกรรมจากภรรยา พร้อมๆกับขัดจังหวะเธอเป็นครั้งคราวเพื่อบอกคนอื่น ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นด้วยการจี้เครื่องบิน แล้วนำไปก่อวินาศกรรมด้วยการบินพุ่งชนตึกในนิวยอร์ก
จากนั้นทั้งคู่ก็วางหู แต่ก่อนจะวางสาย Tom Burnett พูดประโยคสุดท้ายว่า “ไม่ต้องห่วง เราจะทำอะไรบางอย่าง"
09:37 น. Mark Bingham ติดต่อหาแม่ของเขาจากที่นั่งแถวที่ 25
Bingham บอกกับแม่ว่าเครื่องบินถูกชาย 3-4 บุกยึด และขู่ว่าจะวางระเบิด
09:37 น. Jeremy Glick โทรหาภรรยาของเขาจากที่นั่งแถวที่ 27
Glick บอกภรรยาว่าเที่ยวบินนี้ถูกจี้โดยชายผิวดำสามคนที่ดูคล้ายกับชาว "อิหร่าน" สวม Bandanas (ผ้าโพกหัว) สีแดง พวกเขามีอาวุธมีด และระเบิด
Jeremy Glick (credit photo: www.dailymail.co.uk)
Glick ยังคงสนทนากับภรรยาต่อ เขาบอกว่าผู้โดยสารได้รวมตัวกัน แล้วลงความเห็นกันว่าจะบุกโจมตีพวกสลัดอากาศเพื่อยึดเครื่องคืน
09:43 น. Joseph DeLuca ได้โทรหาพ่อของเขาจากที่นั่งแถวที่ 26 เพื่อแจ้งให้ทราบว่าเที่ยวบินของเขาถูกจี้โดยสลัดอากาศ
09:43 น. Todd Beamer พยายามโทรหาภรรยาของเขาจากที่นั่งแถวที่ 32 แต่สัญญาณถูกส่งไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์ GTE แทน
Beamer บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเครื่องบินถูกจี้ และคนสองคน ที่เขาคิดว่าเป็นนักบิน และผู้ช่วยนักบินอาจถูกทำร้ายจนเสียชีวิต
นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าสลัดอากาศคนหนึ่งมีเข็มขัดสีแดง ที่ดูเหมือนจะเป็นสายสะพายระเบิดแบบผูกติดเอว ติดอยู่ที่เอวของเขาด้วย
และในวินาทีนั้นเอง สลัดอากาศที่อยู่ภายในห้องนักบินได้บังคับเครื่องบินเลี้ยวไปทางทิศใต้อย่างรวดเร็ว Beamer ตื่นตระหนกร้องอย่างเสียขวัญ พร้อมตะโกนออกไปว่า "เราจะลงไป! เราจะลงไป!"
ที่ห้องนักบิน กัปตัน Jason Dahl (ผู้โดยสารหลายคนคิดว่ากัปตันเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว)ได้ทราบถึงเป้าหมายของแผนการโจมตีจากสลัดอากาศ
มันทำให้เขายังคงพยายามต่อสู้แม้จะได้รับบาดเจ็บ เพื่อขัดขวางไม่ให้สลัดอากาศนำเครื่องมุ่งไปที่เป้าหมายจู่โจมก็คือเมืองหลวง วอชิงตัน ดี.ซี.
ตอนต่อไปใน EP.2 การต่อสู้ระหว่างพลเรือนกับสลัดอากาศบนเที่ยวบิน United 93 จะจบลงเช่นใดนั้น ...อย่าพลาดติดตามกันนะครับ
อ้างอิงโดย :
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ถ้าหากมีประเด็นใดที่ตกหล่น ขาดตก บกพร่อง ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เนื่องจากเป็นข้อมูลที่แปลมา และเรียบเรียงใหม่ จึงอาจไม่ตรงตามต้นฉบับเดิม 100%
ถ้าหากเรื่องราวนี้ ช่วยสร้างแรงบัลดาลใจ หรือ สร้างความน่าสนใจให้กับท่านผู้อ่าน สามารถกดแชร์ และติดตาม Inspire Story เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะครับ
โฆษณา