17 พ.ย. 2019 เวลา 08:18 • ปรัชญา
# จากศูนย์เป็นหนึ่ง
จุดเริ่มต้นในการสร้างธุรกิจที่ยิ่งใหญ่มักเกิดขึ้นจากคำว่า "ทำไม" เหมือนดังเรื่องราวต่อไปนี้
เพราะความไม่มีเป็นเหตุ
Jeffrey Raider, Andrew Hunt, Neil Blumenthal และ Dave Gilboa เด็กหนุ่มทั้ง 4 คน เพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัย ด้วยภาระหนี้สินที่กู้ยืมมาจ่ายค่าเล่าเรียนประกอบกับความรู้สึกโกรธแค้น
ที่ต้องจ่ายเงินแพง ๆ เพื่อซื้อแว่นตาใหม่ แทนของเก่าที่พัง หรือ หายไป
ด้วยเหตุที่ไม่มีเงิน เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มถึงขนาดยอมทนใส่แว่นที่พัง ๆ อยู่นานถึง 5 ปี ส่วนอีกคนก็ต้องยอมใส่เลนส์แว่นเก่าทั้ง ๆ ที่ค่าสายตาเปลี่ยนไปแล้ว
ข้อสงสัยว่า "ทำไม"
Dave จึงตั้งข้อสังเกตว่า "ทำไมของรุ่นเก่าที่ไม่ได้มีเทคโนโลยีอะไรซับซ้อนในการผลิตอย่างแว่นตา ถึงมีราคาแพงกว่าของที่ดูจะทำยากยิ่งกว่าอย่าง iPhone"
พวกเขาจึงค้นหาคำตอบเกี่ยวกับธุรกิจแว่นตา จนพบว่า ธุรกิจแว่นตานั้น ถูกครอบงำโดยกลุ่มบริษัท Luxottica ของยุโรปซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีมูลค่ากว่า 7 พันล้านเหรียญ
อีกทั้งยังครอบครองการตลาดอีก 80 เปอร์เซ็นต์ของอุตสาหกรรมแว่นตาโลก จึงทำให้สามารถตั้งราคาแว่นตาได้ตามอำเภอใจ
ไอเดียจากความเป็นไปได้
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พวกเขาเกิดไอเดียขึ้นมาว่า "จะเป็นไปได้ไหม ถ้าหากเราจะทำให้อุตสาหกรรมแว่นตา ขึ้นมาขายบนโลกออนไลน์ เพื่อหลีกเลี่ยงช่องทางการขายในรูปแบบเดิม ๆ"
ด้วยความตื่นเต้นกับไอเดีย ทั้งสี่คนจึงรีบออกไปเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนคนอื่น ๆ ได้ฟัง แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับมา กลับกลายเป็นว่า มีแต่คำวิพากษ์วิจารณ์ และคำสบประมาท
ในทางที่ว่า "ไม่มีใครซื้อแว่นตาทางอินเทอร์เน็ตหรอก ใคร ๆ ก็รู้ ว่าการซื้อแว่นตามันต้องไปลองที่ร้านอยู่แล้ว นี่เป็นไอเดียที่ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย และถ้าหากไอเดียการขายแว่นตาทางอินเตอร์เน็ตมันได้ผลดีนะ เราคงเห็นคนทำไปนานแล้ว"
คุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับ
ถึงจะโดนก่นด่ามากขนาดนั้น แต่ด้วยความปราถนา และความตั้งใจที่เปี่ยมล้นพวกเขาจึง ตัดสินใจ ทำในสิ่งที่คนอื่นบอกว่าเป็นไปไม่ได้ โดยการสร้างเว็บไซต์ขายแว่นตาขึ้นมาพร้อมทั้งตั้งราคาขายไว้ที่ 95 เหรียญตามราคาโรงงาน (ซึ่งโดยปกติ ร้านทั่วไป จะขายอยู่ที่ 500 เหรียญ)
เท่านั้นยังไม่พอ ทุกครั้งที่มีการสั่งซื้อผ่านทางเว็บไซต์ พวกเขาจะนำแว่นตาอีกหนึ่งอัน ไปบริจาคให้กับผู้ที่ขาดแคลนอีกด้วย และนี่คือจุดเริ่มต้นอันแสนเรียบง่ายของ เว็บไซต์ที่มีชื่อว่า Warby Parker
เกิดคาดหมาย
ทั้งสี่คนออกมาให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า "
ในช่วงแรกเรา ไม่เคยคิดเลยว่า จะขายได้มากมายอะไรอย่างน้อย ๆ แค่วันละอันสองอันก็เก่งแล้ว"
แต่แล้ววันหนึ่ง นิตยสาร GQ ก็ได้นำเรื่องราวของพวกเขาไปตีพิมพ์ พร้อมทั้งขนานนามธุรกิจนี้ว่า "The netflix of eyewear" จึงส่งผลให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แว่นตาของพวกเขา ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ถึงขนาดมีคนกดสั่งจองสินค้าล่วงหน้่า มากถึง 20,000 คน จนสามารถทำให้ยอดขายของทั้งปี บรรลุได้ภายในระยะเวลาไม่ถึงเดือน
ความสำเร็จที่สร้างขึ้นจากความไม่มี
นอกจากนี้แบรนด์ Warby Parker ก็กลายเป็นหนึ่งในบริษัทแฟชั่นที่เท่ที่สุดในโลกในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี อีกทั้งยังบริจาคแว่นตาไปแล้ว กว่าล้าน ๆ อัน ซึ่งในปัจจุบัน Warby Parker มีมูลค่าทางธุรกิจมากถึง 1 พันล้านเหรียญเลยทีเดียว
แน่นอนว่าในทุก ๆ โอกาสมักมีความเสี่ยงเสมอ แต่ถ้่าหากเรายอมที่จะเสี่ยงอย่างน้อยเรายังมีโอกาสแพ้ หรือชนะ แต่ถ้าไม่ลอง เราคงต้องยอมรับว่าแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่ม
ฉะนั้นหากคุณเชื่อว่าคุณทำได้ และได้ศึกษาสิ่งนั้นมาก่อนแล้ว ขอจงมองโลกในแง่ดี แล้วรับโอกาสนั้นไว้ ถึงแม้จะมีคนที่ไม่เห็นด้วย และมีความยากลำบากรอเราอยู่ข้างหน้า แต่ขอให้เชื่อเถอะว่าทุกปัญหาที่เกิดขึ้นมามักมีทางออกที่เราสามารถแก้ไขมันได้เสมอ
ดังที่ คุณขุนเขา กล่าวไว้ว่า "มุ่งมั่นปีนเขาด้วยตัวเองจน “เมื่อยขา” ดีกว่าเอาแต่เฝ้าแหงนหน้าวิจารณ์คนอื่นจน “เมื่อยคอ”
2
แปลและเรียบเรียงโดยเรื่องเล่าจากดาวนี้
ที่มา:
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄
โฆษณา