ในบันทึกทางประวัติศาสตร์ ได้ปรากฎว่ามีความคิดเห็นจากบุคคลต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความหยาบช้าของม้าเฉียวดังนี้
ตันชิ่ว (เฉินโซว่) บันทึกไว้ในประวัติม้าเฉียวว่า “ม้าเฉียวหยิ่งทะนง และประเมินขีดความสามารถของตนเองสูงเกินไป จนเป็นเหตุให้ตระกูลของเขาล่มสลาย ช่างน่าละอายยิ่งนัก นั่นเป็นเพราะเขาแสวงหาเกียรติยศ รั้งจะชิงดีชิงเด่นกับผู้อื่น จนตัวเองยังแทบเอาตัวไม่รอด”
"ม้าเฉียวเก่งกล้า แต่ไร้มนุษยธรรม เป็นที่รู้กันว่าเขาไม่มีความจงรักภักดี จึงไม่อาจเชื่อได้อย่างสนิทใจว่าความสัมพันธ์นี้จะสามารถพึ่งพาอาศัยเขาได้” อองซาง กล่าวเตือนสติเล่าเจี้ยง ที่คิดจะยกลูกสาวให้แต่งงานกับม้าเฉียว
"ม้าเฉียวมีฝีมือกล้าแข็งก็จริง แต่ไร้สติปัญญา ไม่มีทำนองคลองธรรม เขาจึงถูกล่อลวงจากกลอุบายได้โดยง่าย” เอียวหู นายทหารรองในสังกัดของอุยของเจ้าเมืองกิจิ๋ว กล่าวเพื่อแนะนำให้เกียงขิมกำจัดม้าเฉียว
"ไอ้ลูกชั่วทรยศบิดา ไอ้ทหารเลวฆ่านาย” มารดาของเกียงขิมด่าม้าเฉียว ก่อนที่ม้าเฉียวจะเอากระบี่ฟันจนตาย
"คนที่แม้แต่ครอบครัวยังไม่รักไม่ห่วงใย แล้วคนเช่นนี้จะรักใครได้อีกเล่า?" เตียวฬ่อเปรียบเปรยถึงม้าเฉียว เนื่องจากกรณีเขาทำการกบฏต่อราชวงศ์ฮั่น จนทำให้ครอบครัวของเขาถูกตัดสินประหารชีวิต
" ม้าเฉียว ก่อการ และสร้างอำนาจในดินแดนจิ๋นสามแห่ง (เขตกวนจง) ยึดครองอาณาบริเวณลุ่มแม่น้ำและด่านตงก๋วน กระทำการอุกอาจต่อต้านราชสำนัก โดยไม่สนใจใยดีต่อความคิดเห็นของสมัครพรรคพวก จนเกิดความขัดแย้ง เป็นผลให้ครอบครัวและกองทัพของเขาต้องพินาศย่อยยับ เพราะไม่รู้ผิดแลชอบ สุดท้ายจึงหันไปพึ่งบารมีของมังกรและหงส์ (หมายถึงผู้มีอำนาจและความมั่นคง)” เอียวยี่
มีตัวอย่างของความล้มเหลวอยู่สองสามเรื่อง นั่นคือเรื่อง ความสัมพันธ์ทางการทูตของโจว และเจิ้ง (แลกเปลี่ยนสมาชิกในครอบครัวกัน แต่สุดท้ายต้องมาทำสงครามกัน), ฮั่นเกาจูขอน้ำแกงฉันท์พี่น้อง (เซียงอวี่จับบิดาของเล่าปัง(ฮั่นเกาจู่) ได้และขู่ว่าหากเล่าปังไม่ยอมแพ้ จะสังหารบิดาเล่าปังโดยการนำไปต้มยำทำแกงทั้งเป็น แต่เล่าปังกลับตอบว่า “เราทั้งคู่เป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน บิดาข้าจึงเป็นเหมือนบิดาท่าน หากท่านนำบิดาไปทำเป็นอาหาร ก็ได้โปรดแบ่งน้ำแกงนั้นให้ข้าพเจ้าด้วย”) และขุยเสี่ยวส่งลูกชายเป็นตัวประกัน (เรื่องสมัยฮั่นตะวันออก) และม้าเฉียวเนรคุณบิดา” ซุนเซง