19 พ.ย. 2019 เวลา 12:19 • บันเทิง
31...
กระบี่ไร้เทียมทาน 31...
ถ้าว่ากันตามฝีมือ ไม่นับสมอง...ฝั่งหุบเขา นับตั้งแต่เทียนตี่ลงมาองครักษ์ทั้งสี่...ไม่มีใครสู้อี้ชงเทียนได้ซักคน...
เลยต้องใช้วิธี สุนัขสามัคคี...หมาหมู่ รุมแม่งภายใต้ชื่อค่ายกล เล้งแซ่บ...(คือวันนี้อยากกินเล้งแซ่บขึ้นมาอ้ะ...)
อี้ชงเทียนคนเดียวอยู่ในค่ายกลเล้งแซ่บ...ส่วนโป่วเง็กจือก็แยกตัวไป รับมือกับระดับรองๆ...
โป่วเง็กจือ...แหม ก็รู้ๆอยู่ พวกเดียวกัน...ก็สู้กันกระหนุงกระหนิง น่ารักๆกันไป...
แต่อี้ชงเทียนนั่น...เอาเป็นเอาตาย...
พอโดนรุมสี่ต่อหนึ่ง...อี้ชงเทียนก็ชักไม่ค่อยได้เปรียบเอาชนะก็ไม่ได้ จะแหกวงล้อมหนีไปเมื่อไหร่...เทียนตี่ก็เติมเข้ามาอุดช่องนั้นทุกที...
สักพัก...โป่วเง็กจือก็ทำทีว่าเสียท่า โดนฟันเข้าที่ไหล่แผลนึงเบาๆ เลยถูกต้อนเข้ามารวมกับอี้ชงเทียน...
ฉากนี้ก็เป็นที่ฮิตในหนังจีนไม่น้อย...สองคนยืนหันหลังชนกัน คอยรับมือศัตรูที่ล้อมอยู่ทุกด้าน...
มุมกล้องก็ต้องกวาดครึ่งวงกลม 180 องศา...มาซียูที่แววตาของอี้ชงเทียน...
มึงก็ช่างไม่รู้ตัวเลยนะเฒ่าอี้...ไอ้คนที่หันหลังชนกับมึงน่ะแหละ...ตัวร้าย...
สู้ไปซักพักโรคเก่าของอี้ชงเทียนก็กำเริบ...กำลังภายในแม่งดับไปซะดื้อๆ...
โป่วเง็กจือเริ่มเห็นความผิดปกติ...”เป็นไรท่านซือแป๊ะ”...
“เอ่อออ...คือ ไวฟายกูหายไปเฉยๆว่ะตอนนี้”...
“ลุงใช้ของค่ายไรอ้ะ”...
“กูใช้แม่งมาแล้วทั้งสามค่าย...ไม่รู้เป็นไร ตั้งแต่ฝึกลมปราณไหมฟ้ามาเนี่ย ลมปราณมันติดๆดับๆว่ะ”...
“แล้วตอนนี้?”...
“ตอนนี้ดับสนิท...มึงช่วยต้านแทนกูซักพัก ขอกูรีสตาร์ทแพร๊พ”...
พอรู้แน่นอนแล้วว่า ตอนนี้อี้ชงเทียนไม่ต่างจากคนธรรมดาสามัญ...โป่วเง็กจือก็หันกลับ ประทับฝ่ามืออัสนีบาตด้วยกำลังสิบส่วน เข้าใส่กลางหลังอี้ชงเทียนเต็มเปา...
ลอยลิ่วไปตกอยู่แทบเท้าเทียนตี่...โป่วเง็กจือรีบตามไปจี้สกัดจุดอี้ชงเทียนจนขยับเขยื้อนไม่ได้...พูดได้อย่างเดียว...
“มึงเป็นเชี่ยไรวะ”...อี้ชงเทียนยังโง่ๆงงๆอยู่...
“มันไม่ได้เป็นเชี่ยไรหรอก มันเป็นหลานชายกูเอง”...เทียนตี่ช่วยแก้โง่ให้...
แล้วทั้งหกคนก็ตั้งวงตะกร้อ...วาดลวดลายกันใหญ่ ตีนมั่งมือมั่ง ด้ามดาบมั่ง...โดยมีอี้ชงเทียนเป็นลูกตะกร้อ...
“พอๆๆ เดี๋ยวมันตายเร็วไป ข้าต้องการให้มันรับความทรมานเหมือนที่ข้าโดน”...
อี้ชงเทียนฟื้นมา ก็รู้ตัวว่าถูกตัดเส้นเอ็นแขนขา...ครึ่งตัวจมอยู่ในบึงน้ำ สภาพเหมือนบึงน้ำเย็นหลังเขาบู๊ตึงไม่มีผิด...เทียนตี่ลงทุนสร้างสถานที่นี้ไว้ เพื่อการแก้แค้นอี้ชงเทียนโดยเฉพาะ...
...โป่วเง็กจือได้รับคำสั่งจากเทียนตี่ ให้มาฆ่าลุ้นอ้วงยี้...ซึ่งก็หมายถึงฆ่าลูกในท้องของตัวเองด้วย...
โป่วเง็กจือถึงจะชั่วช้าสามานย์ยังไง แม่งก็คนวะ...จะให้ถึงกะฆ่าลูกตัวเอง มันก็เกินไป...เลยวางแผนจะลอบพาลุ้นอ้วงยี้ไปหลบภัยที่ไหนซักแห่ง...ก็กลับไปที่สำนักคุ้มภัย...
อ้าว ลุ้นอ้วงยี้ไม่อยู่ซะแล้ว...จากจดหมายที่วางบนโต๊ะ...โป่วเง็กจือเลยทราบว่า ลุ้นอ้วงยี้รู้เรื่องทั้งหมด และหนีจากไปแล้ว...
เปลี่ยนฉากมาดูฝั่งพระเอกนางเอกกันมั่ง...ต๊กโกวหงส์พาเอี้ยงน้อย(ฮุ้นปวยเอี๊ยง) กลับสำนักบ้อเต๊กไปด้วยกัน...
ต๊กโกวบ้อเต๊ก...ในบทบาทพ่อนั้น ต้องถือว่าน่ารักมาก...ไม่ดุด่าลูกสาว(ของคนอื่น)ซักคำ...มีแต่หน้าหมองคล้ำแก่ลงไปหลายปี เพราะคิดถึงลูกสาว...ฝ่ายต๊กโกวหงส์เองเห็นพ่อต๊อแต๊ขนาดนี้ ก็เลยอ่อนเข้าหา...
ต๊กโกวหงส์ก็เล่าถึงเรื่องที่ตามที่เอี้ยงน้อยปั้นขึ้นมาให้...ถูกก้วงตงลิ้วทำร้าย ตนเองสลบ มีหลวงจีนมาช่วย แล้วก็จากไป...แล้วก็มีชายหนุ่มบ้านๆ แต่รู้เรื่องหยูกยา...เอายารักษาอาการบอบช้ำมาให้กิน...จนกลับบ้านมาได้...ชายหนุ่มนั้นเรียกว่า เอี้ยงน้อย...
อ้อ...ต้องบอกว่าที่เอี้ยงน้อยหรือฮู้นปวยเอี๊ยง เกิดเป็นเภสัชขึ้นมาได้...เพราะไปรักษาตัวกับผู้เฒ่ามังกรสมุทร ผู้มีพีเอชดีทางฟาร์มาซีอยู่พักนึงไง
เมื่อทราบว่าเอี้ยงน้อย ต้องการเป็นศิษย์ของบ้อเต๊ก...ก็ต้องมีการทำประวัติกันหน่อย...
เอี้ยงน้อยต้องมาพบหน้ากงซุนฮ้ง การสอบสวนเริ่มขึ้นอย่างเคร่งเครียด...หลวงจีนที่ว่าเข้ามาช่วยต๊กโกวหงส์ คือใคร มีรูปลักษณ์ยังไง...
เอี้ยงน้อยที่โกหกไม่ค่อยเก่ง...ก็พยายามด้นไปเรื่อย ยิ่งพูดถึงหลวงจีนที่ไม่มีตัวตนจริง ก็ยิ่งน่าสงสัย
แล้วที่น่าสงสัยหนักขึ้นไปอีก...กงซุนฮ้งรู้สึกว่า ไอ้คนนี้เสียงมันคุ้นหูมาก...เคยได้ยินจากที่ไหนหว่า...
ปล.
ถ้ารักกันชอบกัน ก็ช่วยมาสู่ขอ...เฮ้ย ไม่ใช่...ช่วย like & share ด้วยนะครับ
บิ๊กแต๊งส์
โฆษณา