21 พ.ย. 2019 เวลา 10:32 • ข่าว
สมเด็จพระสันตะปาปา เข้าเฝ้า สมเด็จพระสังฆราช
(อีกหนึ่งเรื่องที่จะต้องจารึกเป็นประวัติศาสตร์)
วันนี้ (21 พ.ย.62) สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงรับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก และนครรัฐวาติกันซึ่งเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทย อย่างเป็นทางการ โอกาสนี้เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชมีพระดำรัสรับเสด็จ ความว่า
"ขอถวายพระพรมหาบพิตรสมเด็จพระสันตะปาปา ผู้ทรงสมณคุณอันประเสริฐ อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ไทย ขอถวายอนุโมทนา สาธุการ ในโอกาสที่มหาบพิตร เสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยและเสด็จมาทรงเยี่ยมอาตมภาพ ในวาระนี้
นับเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพึงจดจารึกไว้เป็นศุภนิมิตแห่งน้ำใจไมตรีที่ศาสนจักรโรมันคาทอลิกกับพุทธจักรไทย มีสืบเนื่องกันมาอย่างแน่นแฟ้น ราบรื่น และงดงาม เป็นเวลาเนิ่นนานนับแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา
เมื่อ 35 ปี ล่วงมาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เฉพาะพระพักตร์พระพุทธอังคีรส ประธานพระอุโบสถแห่งนี้ สมเด็จพระอุปัชมายะของอาตมภาพ คือสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ได้เสด็จลงทรงรับสมเด็จพระส้นตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลก ทีประมุขแห่งศาสนจักรโรมัน คาทอลิก เสด็จมาทรงเยี่ยมประมุขแห่งพุทธจักรไทย ณ ราชอาณาจักรไทย
ภาพเหตุการณ์ในวันนั้น ยังคงประทับอยู่ในความทรงจำของอาตมภาพ ผู้มีโอกาสได้เฝ้าอยู่ในการดังกล่าวด้วย ทั้งสองพระองค์ทรงปราศรัยกัน ทรงแสดงพระอัธยาศัยอันงามต่อกันบนพื้นฐานแห่งพระเมตตาจิตอย่างแท้จริง ในฐานะนักบุญผู้ประเสริฐแห่งสองศาสนา ซึ่งมุ่งหมายจะแผ่ความปรารถนาดีอย่างจริงใจ ไปสู่ทุกชีวิตอย่างไม่มีประมาณ เป็นอุดมการณ์ร่วมกัน
ขอถวายพระพรให้ทรงทราบว่า ใต้ฐานพระพุทธอังคีรส ยังเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้เคยเสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้า สมเด็จพระสันตะปาปา เลโอที่ 13 เมื่อพุทธศักราช 2440
เป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระราชสรีรางคาร สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ผู้เคยเสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าสมเด็จพระสั้นตะป่าปา ปีโอที่ 11 เมื่อพุทธศักราช 2477
อีกทั้งเป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระบรมชนการิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ผู้เคยเสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์นที่ 23 เมื่อพุทธศักราช 2503 และทรงเคยรับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปา พุทธศักราช 2503 และทรงเคยรับเสด็จสมเด็จพระสั้นตะปาปา ยอห์น ปอลที่ 2 ซึ่งเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยเมื่อพุทธศักราช
2527 ณ สถานที่แห่งนี้ จึงเป็นมงคล
สถานสำหรับการพบกันของเราทั้ง
สอง ด้วยส่วนแห่งพระวรกายของ
ทุกๆ พระองค์ ยังคงประดิษฐาน
เป็นสักขีพยานแห่งมิตรภาพ ซึ่งได้
ทรงสร้างสรรค์ไว้นับแต่อดีตสมัย
หากแต่ละพระองค์มีพระญาณวิธี
ใดที่จะทรงหยั่งทราบ คงจะทรง
โสมนัสพระราชหฤทัยไม่น้อย ที่ได้
ทอดพระเนตรเห็นความเจริญ งอกงามแห่งทางพระราชไมตรี เป็นภาพอันน่าประทับใจอีกครั้งในวันนี้ี้
1
การเสด็จมาครั้งนี้ของมหาบพิตร
จึงไม่ใช่การมาของมิตรใหม่ หาก
แต่เป็นการมาเยือนของมิตรแท้อัน
เก่าแก่ของคนไทย ระยะทางที่ห่างไกลกันหาใช่อุปสรรคของความสนิทสนมกลมเกลียวกัน
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรง
สั่งสอนไว้ว่า "ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร
ย่อมมีผู้บูชาในที่ทั้งปวง" "ผู้ไม่
ประบุษร้ายมิตร ย่อมผ่านพ้นศัตรู
ทั้งปวง." บัดนี้ มหาบพิตร ทรงพระ
อุตสาหะตรากตรำพระวรกายบน
หนทางแสนไกล เสด็จเยือนราช
อาณาจักรไทย และมาทรงเยี่ยมอาตมภาพด้วยน้ำพระทัยอันเปี่ยมด้วยมิตรภาพถึงที่นี้ อาตมภาพขอสนองน้ำพระทัยอันเปี่ยมด้วยมิตรภาพถึงที่นี้ อาตมภาพขอสนองน้ำพระทัยอันเปี่ยมด้วยมิตรภาพนั้นๆ ตอบถวาย เป็นหลายเท่าทวีคูณ
ด้วยอานุภาพแห่งพระเมตตาธรรมซึ่งมหาบพิตรทรงเจริญมั่นอยู่ในพระหฤทัย และด้วยศุภผลแห่งกุศลเหตุ คือความไม่ประทุษร้ายมิตร ขอมหาบพิตร ทรงสถิตสถาพร เป็นปูชนียฐานอันประเสริฐของศาสนิกบริษัท และทรงพระเจริญในสมณคุณ ค้ำจุนให้ทรงผ่องแผ้วผ่านพ้นภัยพิบัติทั้งปวงสมตามพระพุทธานุศาสนีดังอาตมภาพอัญเชิญมาอ้าง เป็นสัจจ ผ่องแผ้วผ่านพ้นภัยพิบัติทั้งปวง สมตามพระพุทธานุศาสนีดังอาตมภาพอัญเชิญมาอ้าง เป็นสัจจวาจาข้างต้นนี้ทุกประการ
ขอถวายพระพร"
ขอเก็บบันทึกไว้
ขอขอบคุณ Line Today
"พระสันตะปาปาฟรานซิส" เข้าเฝ้า "สมเด็จพระสังฆราช" รับคำถวายพระพรอบอุ่น #LINETODAY
ขอบคุณ และอิ่มใจ ครับ
โฆษณา