22 พ.ย. 2019 เวลา 16:22 • บันเทิง
คิดว่าเป็นพรายกุมาร
เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณเติ้ลครับ
คุณเติ้ลเล่าว่า..
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ที่บ้านของผมในจังหวัดปราจีนบุรี ก่อนอื่นต้องขอเท้าความก่อนนะครับว่า บ้านผมตั้งอยู่ใกล้กับวัดมาก ใกล้ในลักษณะที่ว่า ห่างจากวัดเพียงแค่หนึ่งเลนถนน (ประมาณ 4-5 เมตร) และทางเข้าวัดมีต้นโพธิ์ต้นใหญ่มาก เป็นลักษณะทาง 3 แพร่ง บ้านที่ผมอยู่เป็นบ้านปูนชั้นเดียว.. ในสมัยนั้น ผมมีความสนใจในเรื่องของ ขุนแผนพรายกุมาร มาก ได้คุยกับเพื่อนในเรื่องดังกล่าวอยู่หลายหน และสุดท้ายผมก็เช่ามาบูชาจนได้ครับ
ในคืนนั้นเอง ผมก็คุยโทรศัพท์กับเพื่อนคนหนึ่ง ชื่อนนทร์ เป็นคนที่มีความสนใจขุนแผนพรายกุมารเหมือนกันกับผม ผมก็ถามนะครับว่า ‘เฮ้ย จะได้ผลจริงเหรอวะ..’ คือช่วงนั้นกำลังวัยรุ่นครับ ก็จะมีสาวๆ ที่แอบชอบตามประสาวัยรุ่น นนทร์เพื่อนผมก็บอกว่า ‘ใช้ได้จริง คาถาก็มี ปฏิบัติทุกวันรับรองได้ผล สาวติดตรึม กูลองมาแล้ว!’ ..จากนั้นผมก็ไหว้ และท่องไปหนึ่งบทคาถา และขออะไรอีกเล็กน้อยกับขุนแผนพรายกุมารของผม แล้วผมก็วางไว้บริเวณหัวเตียงครับ..
พอเวลาสักประมาณเที่ยงคืน ก็มีเสียงกบร้อง ‘อ๊บ อ๊บ’ เพราะฝนเพิ่งหยุดตกไปหมาดๆ ในระหว่างที่ผมกำลังคุยกับนนทร์ พร้อมกับฟังเสียงกบอยู่นั้นเอง ‘อ๊บ.. พ่อ! อ๊บ..’ ผมกลับได้ยินเสียงปริศนา ดังแทรกขึ้นมากับเสียงกบร้อง ที่ผ่านเข้ามาทางหน้าต่างครับ
‘อ๊บ.. พ่อ!! อ๊บ..’ ผมเริ่มเอะใจ ว่าทำไมเสียงกบถึงร้องแปลกๆ? ผมลองเงี่ยหูฟังดีๆ ในมือก็ยังถือโทรศัพท์คุยอยู่กับนนทร์ ‘พ่อ.. พ่อ..’ ผมเริ่มไม่มั่นใจกับเสียงที่ผมได้ยิน ผมจึงถาม
นนทร์ที่อยู่ในสายว่า ‘เฮ้ยนนทร์ มึงได้ยินเหมือนกูไหมวะ?’ นนทร์เงียบฟังสักครู่ และตอบว่า ‘..เออ กูได้ยิน!’
ในใจตอนนั้นผมคิดได้อย่างเดียวคือ ‘เอ..หรือว่าขุนแผนพรายกุมาร จะแผลงฤทธิ์ สงสัยจะของจริงเว้ย!’ แต่เสียงที่เรียกนั้นดังอยู่เป็นระยะๆ จนผมชักเริ่มจะรำคาญ เรียกพ่ออยู่ได้ ผมจึงตั้งสติแล้วพูดในใจว่า ‘กูไม่ใช่พ่อมึง พ่อมึงคือขุนแผนไม่ต้องมาเรียกกู..’ แล้วผมก็นำขุนแผนพรายกุมารออกไปวางไว้บนตู้นอกห้องนอนของผม..
จากนั้นผมกลับมานอนคุยกับนนทร์ต่อ ซึ่งต้องบอกเลยว่า เสียงเรียก ‘พ่อ.. พ่อ.. พ่อ..’ ในตอนนั้น ทั้งผม และนนทร์ที่อยู่ในสายยังคงได้ยินอยู่ตลอดเวลา แต่ผมก็ไม่ได้ลุกขึ้นไปมองหาที่มาของเสียง เพราะมั่นใจว่าเป็นพรายกุมารนั่นล่ะ
ผมคุยกับเพื่อนจนคล้อยหลับไป แม้ว่าเสียงเรียก ‘พ่อ.. พ่อ..’ ยังคงดังก้องอยู่ตลอดคืน.. เช้าวันต่อมา ผมมองออกนอกหน้าต่างไปที่วัด เห็นว่ามีคนมามุงกันที่หน้าวัดแน่นไปหมด ผมจึงลงไปถามแม่ ‘แม่ครับ ที่วัดมีอะไรกันเหรอ?’
แม่ผมตอบว่า ‘อ้าวเติ้ล ไม่รู้เหรอ ว่ามีพ่อลูกถูกรถบรรทุกชนตาย แล้วเอาศพมาทิ้งไว้ที่วัดตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว..’ สิ้นเสียงแม่ผมพูดจบ ผมอุทานขึ้นมาทันทีเลย ‘ฉิบหายละ..’ แม่ผมถามว่า ‘มีอะไรเหรอ?’ ผมก็ได้แต่เก็บความหลอนไว้ในใจ และตอบแม่ไปว่า ‘ไม่มีอะไรครับแม่..’ และผมก็ยังไม่เคยได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังอีกเลยจนถึงตอนนี้ล่ะครับ
เครดิตแหล่งข้อมูล : thehouse.online
ภาพ: อินเตอร์เน็ต
ร่วมส่งเรื่องขนหัวลุกมาที่
โฆษณา