นั่งฟัง Podcast ของพี่ "นิ้วกลม" เรื่องความสุข ด้วยการตั้งคำถามกับคนทั่วไป ว่า ถ้าคุณเจอยักษ์จินนี่ในตะเกียงแล้วสามารถขอพรได้ 3 ข้อ คุณจะขออะไร...???
ผลสำรวจและวิจัยจากผู้ตอบคำถาม หลักๆ พวกเขาจะขอพร 3 ข้อ คือ ขอให้มีเงินเยอะๆ ขอให้ประสบความสำเร็จเรื่องงาน และขอให้มีความรักที่ดี
พอนักวิจัยถามว่า ทำไมเลือกขอพรเหล่านี้ พวกเขาตอบเหมือนกัน "เพราะชีวิตฉันจะได้มีความสุข...!!!"
"อืม แล้วทำไมพวกคุณไม่ขอพรให้ตัวเองมีความสุขเลยล่ะ...???" นักวิจัยถาม แล้วทุกคนก็เงิบไป
ผมด้วย
เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ทุนนิยม มนุษย์ถูกผลักดันให้วัดความสุขเป็นตัวเลข และความสุขหนึ่งที่ถูกใช้เป็นเกณฑ์มากที่สุด ก็คือ มูลค่าทรัพย์สิน...!!!
นักวิจัยยังทำการทดลองต่อไปอีกว่า ถ้าคุณมีโอกาสได้ทานบุฟเฟ่ต์ แล้วมีของให้คุณทาน 2 อย่าง คือ เห็ดที่ราคาแพงมากๆ แต่รสชาติงั้นๆ กับถั่วที่อร่อยแบบสุดๆ แต่ราคาถูก คุณจะเลือกตักอะไรมากกว่ากัน
70% ของผู้เข้าร่วมเลือกรับประทานถั่ว ส่วน 30% เลือกรับประทานเห็ด เพราะรู้สึกว่ามันคุ้มค่ากว่า
ยังมีต่อ
แน่นอน ถ้าคุณไปทานบุฟเฟ่ต์แล้วเนื้อสัตว์มันดันอร่อยมาก คุณจะยอมกินมากขนาดไหน ผลลัพธ์ก็คือ คนส่วนใหญ่เลือกกินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ กินจนอึดอัด อืดท้อง โดยเชื่อว่านั่นคือความสุข แต่ข้อเท็จจริงก็คือ มันสุขจริง แต่เมื่อมันเลยจุดอิ่มแล้วยังฝืนทานต่อจนอึดอัดมันจะเปลี่ยนเป็นทุกข์ทันที
ทั้งๆที่ทานอาหารแต่พอดีนั้นดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ แต่ทำไมยังเลือกทานเยอะจนล้น คำตอบง่ายนิดเดียว เพราะกลัวจะไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป จึงต้องตักตวงของอร่อยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
บทสรุปจากเรื่องนี้ จึงได้ข้อสรุปว่า มนุษย์มักทำในสิ่งย้อนแย้งเป็นอย่างยิ่ง
เช่น รู้มั้ยว่ามีงานวิจัยออกมาแล้ว ว่าถ้าเราเอาตัวเองออกห่างจาก Social Media เราจะมีความสุขมากยิ่งขึ้นที่ไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
ถ้าเราออกกำลังกายเป็นประจำให้ได้อย่างน้อยวันละ 20 นาที สมองของเราจะหลั่งสารแห่งความสุขออกมาและจะทำให้เรามีความสุขไปด้วย
ถ้าเราทานอาหารที่เป็นโทษน้อยลงแล้วทานผักมากขึ้น เราจะมีความสุขเพราะร่างกายจะลดภาระจากการทำงานหนักลงจนทำให้เรามีสุขภาพที่ดีและมีความสุข
ถ้าเราฝึกสมาธิและจัดเวลาให้ตัวเองอยู่เงียบๆวันละเล็กน้อยก็จะมีความสุขมากขึ้น...!!!
การพูดจาดีๆกับแฟน ไม่พยายามเอาชนะแฟน ชมเเฟนเยอะๆ จะทำให้ชีวิตคู่ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น
รวมไปถึง ถ้าเราไม่เป็นหนี้หนักๆ ใช้เงินอย่างรู้คุณค่า มีเงินเหลือเก็บเหลือกินทุกเดือน มีความสบายใจทางการเงิน เราก็จะมีความสุขด้วย
ทั้งหมดที่เขียนมานี้ ผมไม่ได้มีเจตนาจะสั่งสอนใครหรือว่าอวดตัวว่าผมเป็นผู้บรรลุอะไร แค่รู้สึกเสียดายที่พึ่งมาตัดสินใจศึกษาและค้นหาเรื่องวิชาความสุขช้ามากๆ ตอนอายุ 33 ปี
สมัยก่อนผมเชื่อว่าถ้ามีงาน มีเงิน มีชื่อเสียง มีทุกอย่างที่อยากจะได้ ผมจะมีความสุข แต่พอล่วงเลยมาถึงวัย 33 ปี นิยามความสุขมันก็เปลี่ยนไปเยอะเลย
การวิ่งเข้าเส้นชัยไม่ว่าเรื่องใดๆก็ตามมันมีความสุขอยู่แล้วครับ แต่สิ่งที่เป็นความทรงจำคอยหล่อเลี้ยงเราให้มีความสุขกับไม่ใช่ช่วงเวลาแห่งการเข้าเส้นชัย มันกลับกลายเป็นช่วงเวลาที่เราฟันฝ่าระหว่างทางต่างหาก
ไม่ว่าคุณจะมีเป้าหมายอะไรในชีวิต ผมเป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ แต่อย่าลืมค้นหาความสุขระหว่างทางด้วย เพราะเอาจริงๆ ความสุขระหว่างการเดินทางนั้นทำได้ทันที และได้รับผลลัพธ์ทันทีเช่นกัน สุดท้าย สิ่งที่คุณทำระหว่างทางมากมาย มันก็จะกลายเป็นความทรงจำคุณตลอดไปนั่นเเหละครับ : )
อย่าเครียดกับเป้าหมายเกินไป หาความสุขเสียบ้าง แล้วชีวิตก็จะมีความสุขขึ้นเยอะเลย
- 66
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
