28 พ.ย. 2019 เวลา 09:11 • ธุรกิจ
Changing คุณพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงหรือยัง ?
หลังจากที่ได้พูดเรื่องกระบวนการทางความคิด (Thinking) ไปแล้ว ในบทความที่แล้ว และเราเชื่อได้ว่า
ref: Pixabay
ข้อมูลใหม่ๆจะทำให้เรามีความคิดที่เปลี่ยนไป และจะนำสู่การปฏิบัติ
คราวนี้เราจะมาพูดถึง การที่เราจะเปลี่ยนแปลง อะไรสักอย่าง มันก็ไม่ง่ายเพราะมีอุปสรรคที่ซ่อนอยู่ โดยที่เราก็ไม่รู้ว่า มันอยู่ตรงไหน หรือมันคืออะไร สะด้วยซ้ำ!
สำหรับคนธรรมดาแบบเราๆ ถ้าเราคิดที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง เพื่ออาชีพ เพื่อการงาน เพื่อชีวิต ที่ดีขึ้น !!
คุณว่า คุณสามารถจะควบคุม หรือบังคับตัวเองให้ไปสู่เป้าหมายได้ ในทุกกรณีหรือไม่ ?
คำถามนี้ก็คงตอบยาก เพราะ มีหลายๆคนที่ตั้งเป้าหมายแล้ว แต่ก็ไปไม่ถึงก็เยอะแยะไป แต่มันก็ไม่ได้ผิดอะไรน่ะครับ
แต่ถ้าคุณอยากจะบรรลุเป้าหมายให้ได้ล่ะ
คุณคิดว่า คุณควรจะประพฤติ ปฏิบัติตนอย่างไรดี !!
คุณอาจคิดว่า คุณคงกลับไปเรียนหนังสือกันใหม่ หรือไม่ก็ต้องเข้าคอร์สอบรมกันสัก 3-6 เดือน เพื่อที่จะสามารถเปลี่ยนตนเองให้ได้ !!
แต่ผมมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น !!
เราลองมาดูงานวิจัยของผู้เชี่ยวชาญกันครับ
จากบทความ The Monkey Experiment
Ref: Schein
เขาใช้พื้นฐานความคิดของลิง จากการทดลองนี้สามารถนำมาพิสูจน์ อะไรบ้างอย่างได้ ซึ่งเราจะเข้าใจได้ เมื่อได้อ่านงานวิจัยนี้
Ref : Schein, E. H. (2004). Organizational Culture and Leadership. San Francisco, Jossey Bass, pp. 26.
(แม้ว่าเรื่องนี้จะมีการถกเถียงกัน ว่าจริงหรือไม่ แต่จากข้อมูลที่ Schein เสนอมา ก็ทำให้เชื่อว่ามันน่าจะเป็นเรื่องจริง อ้างอิง https://attheintersectionblog.com/2013/03/06/the-monkey-experiment-and-edgar-schein/ )
“เขาเอาลิง 5 ตัว มาไว้รวมกันในกรงเดียวกัน โดยในกรงนั้นมีบันไดสูงต้วหนึ่งอยู่ตรงกลาง แล้วแขวนกล้วยเอาไว้ที่เหนือบันไดนั้น และมีฝักบัวที่มีน้ำเย็นอยู่เหนือกรง
เมื่อลิงตัวหนึ่งเกิดความหิว มันก็ไปที่บันได และขณะที่มันกำลังจะปีนบันไดขึ้นไป เพื่อจะไปหยิบกล้วย นักวิจัยก็ให้ฝักบัว ฉีดน้ำเย็นลงไปที่ ลิงทุกตัวในกรงนั้น แน่นอนเจ้าลิงที่กำลังขึ้นไปบนบันได ก็ร้องเสียง หลงวิ่งลงมา
และเจ้าลิง 4 ตัวที่อยู่เฉยๆข้างล่าง ก็พลอยโดนน้ำเย็นไปด้วย
แน่นอนทั้งหมดเจ็บตัวกับ น้ำเย็นกันไปแล้ว และยังไม่สามารถได้หยิบกล้วยลงมากินได้
เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นทุกครั้ง ที่ลิงตัวใดตัวหนึ่งพยายามที่จะปีนบันไดขึ้นไปเอากล้วยหวีนั้น
สุดท้ายพวก มันทุกตัวก็ยอมแพ้ และเลิกล้มความคิดที่จะกินกล้วยหวีนั้นไป
การทดลองขั้นต่อมา นักวิจัยก็เอาลิงออกไปตัวหนึ่ง แล้วเอาตัวใหม่เข้ามาแทน...
พอเจ้าตัวใหม่เข้ามา มันเห็นกล้วย มันก็วิ่งไปที่บันได เริ่มต้นที่จะปีนขึ้นไปเอากล้วยที่แขวนอยู่ แต่มีสิ่งที่เกิดขึ้น เจ้าลิง 4 ตัวที่เหลืออยู่ ก็ไปฉุดกระชากเพื่อนหน้าใหม่ลงมา โดยไม่ยอมให้มันปีนขึ้นไป
เมื่อเกิดเหตุการ แบบนี้อยู่ซักพัก ลิงหน้าใหม่เริ่มเข้าใจแล้วว่า มีบางอย่างผิดปกติแน่ บางอย่างที่ไม่ดีจะ เกิดขึ้น ถ้าไปยุ่งเกี่ยว กับกล้วยหวีนั้น
สุดท้ายแล้วมันก็ล้มเลิกความคิดที่จะขึ้นไปเอากล้วยหวีนั้น
แล้วเขาก็ทำการเปลี่ยนลิงตัวเก่าออกไป แล้วเอาตัวใหม่เข้ามาที่ละตัว แล้วก็เกิดเหตุการณ์ในทำนองเดียวกัน... จนกระทั่งเปลี่ยนลิงจนครบ 5 ตัว
สุดท้าย ลิงทั้ง 5 ตัว ในกรงนั้น ต่างก็ไม่เคยคิดที่จะพยายาม ที่จะปีนขึ้นไปเอากล้วยที่แขวนอยู่นั่นเลย เพราะลิงทั้ง 5 ตัว ต่างรู้ว่า อย่าปีนขึ้นไปบนบันไดนั้น มันจะนำปัญหามาให้
ทั้งที่ไม่มีพวกมันเลยซักตัว จะรู้อย่างแน่ชัดว่าเพราะอะไร แม้แต่ฝักบัวนั้น จะถูกเอาออกไปแล้วก็ตาม !!
เคยคิดไหมว่า คนๆหนึ่ง ที่มีความปรารถนา ที่จะไปในที่ๆต้องการ แต่ในบ้างขณะ ที่ตัวเราเองหรือใครบางคน กำลังพยายามปีนขึ้นไปให้ถึงฝันนั้น คนอื่นหรือตัวเราเอง กลับไปดึงตัวเราลงมา
เพียงเพราะต้องการช่วย เพียงเพราะความหวังดี เพียงเพราะเชื่อว่า
การปีนขึ้นไปสู่ฝ้นนั้น จะนำเรื่องไม่ดีมาถึงตัว
การทดลองนี้ ทำให้เราเข้าใจอะไรบ้างอย่างได้ และมันก็เปรียบได้กับ คนรอบข้างของคุณ ในวันที่คุณอยากจะเป็น :
1. ผู้ประกอบการรายใหม่ โดยที่ไม่มีพื้นเพมาก่อน การเริ่มต้นธุรกิจด้วยตัวเอง มันจะต้องอาศัยความกล้าและแรงขับที่สูงมาก เพราะคนสนับสนุนจะไม่มี แต่จะมีแต่คำเตือนเต็มไปหมด
2. ทายาทธุรกิจ ที่ต้องการจะต่อยอดธุรกิจครอบครัว มันจะเป็นก้าวสำคัญ และเป็นความเสี่ยงไปในเวลาเดียวกันด้วย ทายาทธุรกิจอย่างคุณ ก็ต้องฝ่าด่านความเชื่อถือไปให้ได้
3.เป็นคนใหม่ ที่มีสุขภาพกาย ใจ และรูปร่างที่ดี (แต่ต้องลดน้ำหนัก โดยควบคุมอาหาร และฟิตร่างกายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอด้วย) ความตั้งใจที่อยากจะ เปลี่ยนแปลงตัวเองแบบนั้น หลายๆคนก็ยังไม่สามารถเริ่มต้นได้เลย
มันก็แค่อยู่ในจินตนาการ ที่ยังเคยลงมือทำสะด้วยซ่ำ
เพราะอะไร !! เขารอให้มีคนมาชวนเขาออกไปทำหรือ !! แล้วทำไมเขาไม่เริ่มมันด้วยตัวเอง !!
หรือคุณเริ่มต้นไปแล้ว คนรอบข้างก็ไม่สนใจ แล้วเขาก็ท้อ จนล้มเลิกไปเอง !!
ทั้ง 1-2 เป็น ข้อแนะนำและคำเตือน ที่พูดกันบ่อยๆครั้ง ก็ทำให้คุณกลัว และนึกถึงความเสี่ยง และภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้น จนคุณอาจลังเลที่จะเริ่มต้น
สำหรับข้อ 3 คุณอาจไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลย เพราะต้องรอให้ใครมาชวนคุณออกไปเริ่มต้น !!
จากกรณีของเจ้าลิงในกรงนั้น น่าจะบอกเราได้ว่า สังคมอาจเป็นผู้กำหนดกฎเกณท์ ที่ให้เราต้องคิด และปฏิบัติตัวตามไปโดย ที่เราก็ไม่รู้ตัว
แล้วสังคมยังได้สร้างความเชื่อผิดๆให้กับเราอีก และความเชื่อเนี่ย น่ากลัวทีเดียว !!
เพราะว่า ถ้าคนเชื่อเสียแล้วว่า เขาทำไม่ได้ ก็คงไม่มีเหตุผลอะไร ที่เขาจะทำมัน!!
หรือ เขาเชื่อว่า ต้องมีคนเห็นด้วยกับเขาก่อน เขาจึงจะเริ่มต้นมัน !!
แต่ข้อกังขาทั้งหมดนี้ ผมก็เชื่อว่า คนเรา ที่มีความคิดอ่านที่สูงส่งกว่าสิ่งมีชีวิตใดๆในโลกนี้ จะสามารถก้าวข้ามพ้นความคิดนี้ ไปได้ใช่มั้ยครับ
และเรายังมีคำสอน ในหลักพุทธศาสนาที่ว่า อย่าเชื่อ ตามที่เขาเล่ากันมา
(ซึ่งเป็นหลักการที่จะเชื่อสิ่งใดๆ ในบัญญัติ 10 ประการของกาลามสูตร)
ลองดูครับ แล้วคุณจะได้เป็น คนๆหนึ่ง ที่สามารถจะเดินตามความฝันของคุณ และสามารถบรรลุเป้าหมายได้
เพียงแต่ว่า คุณพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงหรือยัง ?
ความรู้ (Knowledge) นำไปสู่การคิดได้ (Thinking)
แต่การเปลี่ยนแปลง (Changing) จะต้องมาจากความกล้า (Brave)
ที่จะยีนหยัด และเดินไปข้างหน้า และนั้นเป็นจึงจะเป็นหนทางของความสำเร็จ
By อนันต์ วชิราวุฒิชัย Tangram Strategic Consultant
#principle4biz #tangram
Act to change เป็นโปรแกรมการอบรม Dec & Jan
@ “เปิดโลกธุรกิจ....ด้วย International Trade” (Import & Export Knowledge) at KU. 13 Dec 2019
@ “ จัดซื้ออย่างมืออาชีพ (Professional Purchasing)” at KU. 23 Jan 2020 :
โฆษณา