29 พ.ย. 2019 เวลา 10:28
📢ทริปเที่ยวมั่วๆทัวร์กากกาก ตอนสองมาแล้วขอรับ เมื่อวานเล่าถึงตอนลงเรือข้ามคลอง..
เอ้ยล่องเรือข้ามจากฟุกุโอกะที่ท่าเรือHakata
คืนนั้นเจอฝน
คืนนั้นคลื่นกระทบเรือ..ดังปั้กๆตลอดทั้งคืน
คืนนั้น..นอนแล้วรู้สึกถึงการมีก้อนไขมันที่กลิ้งไปมา
อาหารที่กินทั้งมวลเกิดการยักย้ายถ่ายเท แต่ก็ต้องระงับไว้ด้วยมื้อเย็นห้าร้อยกว่าบาท
และแล้ว
เรือก็เทียบท่าเมืองปูซาน เกาหลีใต้
ประเทศไทยเป็นประเทศเดียว ที่นั่นให้การต้อนรับขับสู้อย่างผู้ทรงเกียรติ
เราจะมีช่องทางพิเศษ
ไทยแลนด์โอนลี่...ขอบคุณบรรดาผีน้อยที่ทำให้เราไม่ต้องต่อคิว
แต่..ดีใจไม่นาน
ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการสัมภาษณ์ดั่งญาติสนิทที่ไม่ได้เจอกันนาน
"คุณคือคนไทยรึคะ"
"เชิญทางนี้ค่ะ"
ว่าแล้วตม.หญิงก็ผายมือเชื้อเชิญชายหนุ่มไปช่องทางสุดท้าย
"เอ่อ..คุณเป็นเว็ทหรือคะ"เจ้าหน้าที่เช็คใบตม.
"อ'า..ใช่ครับ"
"ดูจากพาสปอร์ตแล้วคุณไปญี่ปุ่นบ่อยนะคะ"
"ใช่ขอรับ..10ครั้งเห็นจะได้"
"ไปทำไมคะ"
"ท่องเที่ยวครับ"
"คุณใช้เวลาท่องเที่ยวในแต่ละครั้งนานขนาดไหน ทำไมไปบ่อยจัง"
"เอ่อ..4หรือ5แต่ไม่เกิน1อาทิตย์
เป็นประเทศที่สวยครับ"(แอบพลาดนิดหน่อยชมญี่ปุ่นเกินหน้า)
"คุณมาทำอะไรที่เกาหลี คุณมาครั้งแรกเหรอ"
"เอ่อ..ผมชอบถ่ายรูปครับ ผมเห็นวัดนี่ดูสวยดีจากในรูป " พร้อมกับยื่นแปลนการเดินทางให้ เจ้าหน้าที่สาวดู
"งั้นคุณมีรูปที่คุณไปเที่ยวในมือถือมั้ย ขออิฉันดูหน่อย"
"นี่ครับ "ผมเปิดBDให้ดู...
"สวยมั้ยครับ..นี่ตอนไปใต้หวัน ฮ่องกง เดือนนี้เอง"
เจ้าหน้าที่ดูภาพแล้วสีหน้าพึงพอใจ แต่สะดุดตรงที่ว่า..เดือนนี้เอง..(แอบพลาดอีกแล้ว)
"คุณเป็นเวททำไมเที่ยวได้บ่อย"
"เอ่อ..กระผมเปิดคลินิกส่วนตัว กระผมสามารถจัดการได้"(อุ้ย..พูดดูดี555)
"นี่คุณเหรอ."..หลังจากเจ้าหน้าที่สาวมองรูปโปรไฟล์เพจนายก้าวเล็ก
"เอ่อ..เมื่อสิบปีที่แล้ว"
เจ้าหน้าที่สาวยิ้มขำๆ(จริงๆรูปนี้แค่4ปีที่ผ่านมา..ตั้งแต่เที่ยวมาไม่มีตังค์ซื้อครีม..หน้าเลยล้ำหน้า555)
"ผมมีใบจองโรงแรม
ใบจองตั๋วเดินทางกลับดอนเมือง
ใบจองตั๋วเรือขากลับฟุกุโอกะ"
.
.
.
เจ้าหน้าที่สาวรับไปดู
"นี่นี่..ใบจองเรือเป็นอย่างนี้เหรอ เจ้าหน้าที่สาวถามอีกคน"...อันนี้ผมเดา
เจ้าหน้าที่อีกท่านก็มาดูแล้วตอบว่า "ใช่"
"เอ่อ..กระผมจองผ่านKKDayครับ" กระผมสำทับ
เจ้าหน้าที่สาวพยักหน้าเข้าใจ
"กระผมมีใบรับรองเป็นสัตวแพทย์จากสัตวแพทยสภามาด้วยขอรับ"
เจ้าหน้าที่สาวหยิบมาดู
นิ่งไปพักหนึ่ง...ทำหน้าเหมือนยอมจำใจให้สอบผ่านอย่างเสียไม่ได้
ขณะนั้นเจ้าหน้าที่สาวกำลังจะประทับตรา..
กำลังกด..อยู่นั้น
กระผมก็ลุ้น
เอาซะที..
เอาซะที..
แล้วก็ดันมีเจ้าหน้าที่ท่านอื่นมาถามพร้อมกับหญิงสาวนางหนึ่ง พูดกันกระผมก็แปลไม่ออก
แต่ผมไม่สนใจ
สายตากระผมเพ่งอยู่ที่แป้นหมึก
เอาซะที..
เอาซะที..
ปั้ก...แป้นหมึกปะทะกระดาษพาสปอร์ต
เยสสสส.!!!..ป่านได้ทอง
แล้วเจ้าหน้าที่ก็ยื่นพาสปอร์ตให้โดยไม่ชายตาแลผมซักนิด ปากก็พูดกับเจ้าหน้าที่อีกคนและหญิงสาวนางนั้น โดยไม่สนใจกระผม
กระผมก็ยืนนิ่ง..ทำไมนะหรือขอรับ
.
.
.
จนเจ้าหล่อนหันมาบอกว่า..บอกว่าไปได้แล้ว
.
.
.
เอ่อ..ขอเอกสารผมคืนด้วยครับคุณผู้หญิง
เจ้าหน้าที่สาวยิ้มอย่างเขินทรงไว้ตัวนิดๆ
"sorry"
.
.
.
แล้วผมก็ได้ผ่านตม.อย่างปรีดา
เป็นประเทศแรกที่กระผมต้องแสดงหลักฐานจนหมดไส้หมดพุง...ประเทศไหนจะมี555
เอาจริงๆ...แล้วไม่ซีเรียสถ้าเขาไม่ต้อนรับ เราก็กลับ..ผมคิดแค่นั้นจริง หลายคนบอกว่าต้องแต่งตัวดี ภาพลักษณ์ดีๆ แต่ก็ไม่เสมอไป ผมหัวฟู น้ำไม่อาบ เสื้อเก่าๆกางเกงวอร์มพร้อมทิ้ง
มันอยู่ที่แววตาและความจริงของเรามากกว่า
ว่าฉันไปเที่ยว..
เพราฉะนั้นคนไปเที่ยวหลักฐานก็ต้องมี ก็ตอบความจริงไป อยากได้อะไรก็เอาให้ดู ไม่จำเป็นต้องเก่งภาษาเป๊ะ..โลกนี้มันมีภาษาสากลอยู่แล้วคือภาษากายและภาษาใจมาโดยกำเนิด...
แต่ทำไมเราต้องมาปิดกั้นภาษาธรรมชาตินั้นด้วยภาษาที่เราสร้าง...งงมั้ยขอรับ
บางทีไปข่มคนอื่นเขาอีก...กระผมว่าผิดทางอย่างแรง..ภาษาจำเป็นแต่ไม่ต้องขั้นลิ้นรัวถูกหลักไวยากรณ์จนลิ้นกับสมองแข็งไปหมดทำอะไรไม่ถูก...อุย..เริ่มบ่น555
มาต่อเรื่องเที่ยวดีกว่าขอรับ
ผมเดินทางจากท่าเรือฟุกุโอกะ(hakata porter)ตั้งแต่เที่ยงมาถึงที่ปูซานราว6โมงครึ่งกว่าจะผ่านตม.มาได้ก็ราวทุ่มครึ่ง
เปิดกูเกิ้ลแมป เพื่อหาเส้นทางไปโรงแรม
ออกมาข้างนอกจะงงๆ..ให้จำว่าหลังจากผ่านตม.ให้ออกประตูเดินผ่านที่จอดรถแท็กซี่ แล้วลงมาชั้นล่าง ตรงถนนจะมีป้ายรอรถประจำทางอยู่
กระผมพักที่....รอรถ...
บร่ะเจ้า รอ1ชม.กว่าๆยังไม่มา ดูที่ป้ายก็ใช่สายนี้ต้องผ่านแน่ๆ เริ่มกังวลใจเพราะเขาเช็คอินได้ถึง4ทุ่ม เกือบสามทุ่มก็ยังไม่มา อากาศข้างนอกที่ว่าหนาว กลับต้องร้อนด้วยใจที่ร้อนยังกับไฟ
.
.
ในที่สุดก็มา..ถามเจ้าหน้าที่คนขับรถอีกครั้งเพื่อความชัวร์....ผิดจ้า..
ต้องไปขึ้นป้ายฝั่งตรงข้าม555
เกือบซวยเลยขอรับ
รอรถประมาณสิบกว่านาที..รถก็มา
แป้นสำหรับแตะบัตรแทนเงินสด(ic card)ที่เกาหลีคือเรียกว่าT cardหาซื้อตามร้านเซเว่นที่ท่าเรือก็มี แต่ผมลืมจึงต้องหยอดเงินราคาเริ่มต้นอยู่1300วอน(1วอนเท่ากับ0.026฿,คิดง่ายๆ1000วอนเท่ากับ25บาทโดยประมาณคร่าวๆ)
ในที่สุดก็ไปถึงที่พัก
อยู่ชั้นสอง...
อ้าวเข้าไม่ได้..
ต้องกดพาสเวิร์ด..
แต่ไอ่กรูไม่มี..
เอาไง..
โทรสิครับ..เบอร์ที่ติดไว้หน้าประตู
พระเจ้าไม่ติด หรือเงินในซิมไม่มี
ตายเลย...จวนจะเลยเวลาเช็คอิน
ตัดสินใจ..โทรอีกครั้งใช้เบอร์ที่จองไว้กับagodaให้มาและจำได้ว่าน่าจะมีเงินเหลือจากที่สมัครใช้ซิม16บาท....กริ้งงงงไม่มีคนรับ
ขณะเดียวกันก็เคาะประตูกระจกไปด้วย
สักพักก็มีหญิงสาวโผล่หน้ามา
เปิดประตูให้..โอว..ขอบคุณพระเจ้า
ที่นี่เป็นการ self check in
คือเจ้าของจะบอกพาสเวิร์ดมาทางอีเมลล์
กญแจและรายละเอียดจะมีบอกในกระดาษไว้
กระผมเช็คเมล์ก็ไม่มี
..ก็เกือบซวยไป
นี่แค่เรื่องตม.กับที่พัก..ก็ลุ้นกันขรี้แตกขรี้แตนแล้วขอรับ...พรุ่งนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม
ยังไงวันนี้ก็ผ่านมาได้
พรุ่งนี้ก็ผ่านได้..
แล้วไง..
ก็ไปต่อไปหาของกินสิขอรับ🤤
อาการข้างทาง..อร่อย🤤
และ
.
.
.
ขอนอน...เอวังขอรับ
หมีบนดาดฟ้าที่พัก..นอนไม่เกรงใจกระผมเลย😂
โฆษณา