4 ธ.ค. 2019 เวลา 02:35 • ประวัติศาสตร์
มหากาพย์โอดิซี ตอนที่ 3
เดินทางสู่ยมโลกและคำทำนายอันตราย
https://www.istockphoto.com/
โอดิสซูส เดินทางไปยมโลกเพื่อพบกับผู้วิเศษไทรีไซอาส ตามคำแนะนำของกิ๊กเก่า แม่มดสาวเซอร์ซี
การยมโลกนั้นมีหลากหลายตำนาน
ทุกตำนานให้ความเห็นตรงกันคือ ขาไปนั้นง่าย ไอ้ที่ยากคือขากลับออกมา
โอดิสซูส นำเรือแล่นสู่ขอบพิภพ ยุคนั้นยังคงมีความเชื่อว่าโลกแบบ โดยเป็นแผ่นดินผืนใหญ่ ที่มียักษ์แอตลาสแบบกไว้
เมื่อถึงจุดหมาย โอดิสซูส สั่งให้ลูกเรือรอเขา เขานำแกะดำสองตัว เดินไปตามทางดำลึกลงไปสู่ยมโลก
เมื่อถึงยมโลก เขาได้พบกับเหล่าดวงวิญญาณมากมาย โอดิสซูสจัดการขุดหลุมเพื่อใช้รองเลือด เป็นการบูชาดวงวิญญาณของไทรีไซอาส
ดวงวิญญาณอื่นต่างหมายจะดื่มเลือดนั้น โอดิสซูสจึงชักดาบออกมาขัดขวาง
เมื่อไทรีไซอาส ดื่มเลือดจนเป็นที่พอใจแล้ว ก็ได้บอกหนทางกลับสู่บ้านเกิดแก่โอดิสซูส ซึ่งคำแนะนำหรือคำทำนายล้วนแต่เป็นเส้นทางที่ยากลำบากทั้งสิ้น
เมื่อได้รับคำทำนายแล้ว โอดิสซูสจึงปล่อยให้ดวงวิญญาณอื่นได้ดื่มเลือด
ตอนนั้นเองโอดิสซูสได้พบดวงวิญญาณที่เขารู้จักหลายดวง ทั้งมารดาของเขาที่ทนคิดถึงลูกชายไม่ไหว จนตรมใจตายไปก่อนจะจบสงครามเมืองทรอย
ดวงวิญญาณของเหล่านักรบที่สู้ศึกที่เมืองทรอย เช่น อคิลลิส ปโตรกลัส อจักส์
ดวงวิญญาณต่างๆต้องการจะพูดคุยกับโอดิสซูส ถามเรื่องราวบนโลกคนเป็น โอดิสซูสจึงต้องปลีกตัวออกมา
เมื่อโอดิสซูสกลับมาถึงเรือแล้ว เขารีบเดินเรือตามคำแนะนำของไทรีไซอาส
อันตรายแรกที่ต้องพบคือ เสียงเพลงของนางไซเรน หรือนางอัปสรแห่งท้องทะเล (นางเงือก)
นางไซเรนมีน้ำเสียงไพเราะ ใครได้ฟังจะหลงในเสียงนาง
บ้างก็กระโดดลงทะเลไปตามเสียงเพลง บ้างก็ขับเรือจนชนหินโสโครกจนเรืออัปปาง
โอดิสซูส สั่งให้ทุกคนเอาขี้ผึ้งอุดหู และมัดตัวเขาไว้กับเสาเรือโดยไม่อุดหู
โดยใช้ตัวเขาเป็นตัววัดว่าพ้นเขตเสียงนางไซเรนแล้วหรือยัง โดยถ้าเขาหยุดดิ้นรนไปตามเสียงเพลงแล้ว นั้นคือพ้นเขตเสียงแล้ว
ด้วยวิธีนี้ ลูกเรือทุกคนจึงปลอดภัย
ด่านที่สอง อสุรกายซิลลาและวังน้ำวงคาริบดีส
https://www.gettyimages.co.jp/
อสุรกายซิลลา ต้องยาพิษจากแม่มดเซอร์ซี จนกลายเป็นอสุรกายไป มีหัวปีศาจงอกออกมาถึงหกหัว
บางว่าเป็นหัวงู บางว่าเป็นหัวสุนัขป่า
จิตใจของนางก็เปลี่ยนไปด้วย เป็นอสุรกายทั้งกายและใจ ตรงข้ามที่อาศัยของนางมีวังน้ำวงคาริบดีสอยู่
เพื่อความปลอดภัยเท่าที่ทำได้ โอดิสซูสแล่นเรือ ใกล้กับโขดหินที่พักของนางซิลลา เพื่อไม่ให้โดนกระแสน้ำวังน้ำวนดูดลงไป
และให้ลูกเรือพายกันอย่างสุดกำลัง เอผ่านไปให้เร็วที่สุด
ขณะแล่นผ่านนั้น นางซิลลาปรากฏกายขึ้น จับลูกเรือหกคนเป็นอาหาร นับเป็นการสูญเสียอีกครั้ง แต่ก็สามารถผ่านมาได้
ด่านที่สาม การฆ่าวัวของสุรยเทพ
ลูกเรือของโอดิสซูสต่างเหนื่อยล้า จึงขอแวะพักที่เกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นฟาร์มของสุรยเทพอะโพโล แรกโอดิสซูสจะผ่านไปเลยแต่เห็นลูกเรือหมดแรงจึงให้พักกันสักคืน โดยกำชับว่าห้ามยุ่งอะไรกับสัตว์บนเกาะนี้
ตอนแรกโอดิสซูสว่าจะพักสักคือแต่พายุเข้า จนต้องติดเกาะอยู่เดือน จนอาหารหมด ลูกเรือทนหิวไม่ไหวจึงแอบไปฆ่าวัวบนเกาะเพื่อกินกัน
และการฆ่าวัวของอะโพโลนั้น ก็ทำให้งานเข้าอย่างหนัก
เมื่อโอดิสซูสออกจากเกาะแล้วนั้น ด้วยความโกรธของสุริยเทพทำให้เรือต้องเจอกับพายุลูกใหญ่คราวนี้ เรือได้อัปปางลง ลูกเรือทั้งหมดเสียชีวิต
โอดิสซูสเกาะขอนไม้รอดชีวิตเพียงคนเดียว เขาลอยคออยู่หลายวันจนไปถึงเกาะโอจิเจียของนางอัปสรคาลิปโซ่
นางคาลิปโซ่ หลงรักโอดิสซูส นางขอให้เขาครองรักกับนางบนเกาะนี้ โดยนางจะให้เขาไม่แก่ไม่ตาย
แต่โอดิสซูสปฏิเสธเพราะต้องการกลับบ้านไปพบครอบครัว นับว่าเป็นผู้ชายที่มีใจรักมั่นจริงๆ
แม้โอดิสซูสจะปฏิเสธนาง แต่นางคาลิปโซ่ก็ยังให้เขาพักอยู่บนเกาะได้
โอดิสซูส ต้องอยู่บนเกาะถึงเจ็ดปี เหล่าทวยเทพต่างรู้สึกสงสาร แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าออกหน้าหักกับเจ้าสมุทรโปไซดอน
ท้องทะเลเป็นเขตอำนาจของเจ้าสมุทรผู้นี้
วันหนึ่ง เทพโปไซดอนไปร่วมงานของชาวอีธิโอเปีย
เหล่าเทพบนเขาโอลิมปัสจึงวานให้เทพแห่งการสื่อสารเฮอร์มิส ถือโองการของมหาเทพซุส ให้นางคาลิปโซ่ ช่วยเหลือโอดิสซูส นางไม่กล้าขัดเทวโองการ จึงช่วยโอดิสซูสต่อแพเพื่อเดินทางกลับบ้าน
โอดิสซูส เดินทางออกจากเกาะ แต่แล้วเมื่อเทพโปไซดอนกลับจากงาน.....
ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันมาถึงตรงนี้นะครับ
กดติดตามกันเพื่อไม่พลาดตอนต่อไปกันนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา