5 ธ.ค. 2019 เวลา 00:11 • ปรัชญา
บทที่54. พ่อผมเป็น..ผู้หญิง.
เมื่อ 38 ปีก่อน เด็กชายอายุ5ขวบคนนึง นั่งเล่นดินอยู่กลางถนนลูกรังหน้าบ้าน พร้อมกับทอดสายตามองไปยังปลายทางของถนน ราวกับว่ารออะไรบางอย่าง เขานั่งเล่นอยู่อย่างนั้นตามลำพังตั้งแต่สี่โมงเย็น จนตะวันใกลัจะตกดิน แต่ที่ปลายทางลูกรังนั้นก็ยังมองไม่เห็นใครหรือสิ่งใดที่เด็กน้อยตั้งตารอ
ตะวันคล้อยต่ำลง ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัว พี่สาวเดินมาตามเด็กชายเข้าไปกินข้าวในบ้าน พร้อมทั้งพูดกับน้องชายเพื่อปลอบโยนว่า " เดี๋ยวพ่อกับแม่ก็กลับนะ วันนี้คนคงจะเยอะ เลยเสร็จช้าหน่อย แต่พี่มั่นใจว่าพ่อจะไม่ลืมขนมถังแตกของเราแน่ๆ"พี่สาวจูงมือน้องชายเพื่อจะเดินเข้าบ้าน แต่ก่อนจะถึงประตูรั้วบ้าน พี่สาวก็ไม่วายที่จะหันมองไปยังปลายทางลูกรัง ที่กำลังมืดลงอีกครั้ง ก่อนเดินต่อไป
เด็กชายนั่งกินข้าวพร้อมกับพี่ๆอีก3คน ท่ามกลางแสงตะเกียงที่ริบหรี่ยามเมื่อลมพัดสบัดไปมา เด็กชายถามพี่สาวอีกครั้งว่า"เมื่อไหร่พ่อกับแม่จะกลับ" พี่สาวทั้งสองกับพี่ชายคนโตมองหน้ากัน ก่อนที่พี่สาวจะตอบน้องชายที่ช่างซักถามไปว่า"พ่อกับแม่กำลังกลับแล้ว แต่ยังมาไม่ถึง"
สองทุ่มแล้ว..ในหมู่บ้านไม่มีแสงไฟจากตะเกียงบ้านไหนสว่างให้เห็น ทุกบ้านเข้านอนกันหมด พี่ชายคนโตเดินออกไปที่ถนนหน้าบ้าน สายตามองไปสุดปลายถนนในความมืด แต่ก็ไม่มีแสงไฟจากรถคันใดส่องมาให้เห็น พี่ชายคนโตปิดล็อคประตูรั้วบ้าน และหันมาบอกกับน้องสาวว่า"พาน้องๆเข้านอนได้แล้ว ดึกแล้ว"
เด็กชายเดินขึ้นบ้านตามพี่สาวไปด้วยความผิดหวังปนง่วง ในใจคิดว่า"ถ้าขึ้นบ้านไปนอนตอนนี้ คงอดกินขนมถังแตกของโปรดเป็นแน่"
เด็กชายเดินเข้ามุ้ง และล้มตัวลงนอนข้างๆพี่สาว พยายามฝืนทนเป็นที่สุดเพื่อไม่ให้หลับ ในใจคิดถึงขนมถังแตกที่แสนจะอร่อย แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อความง่วง..จึงเผลอหลับไป
ในคืนนั้น เด็กชายต้องสะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึก เมื่อได้ยินเสียงผู้คนพูดส่งเสียงดังในบ้าน. เด็กชายลุกขึ้นมองหาพี่สาว แต่พี่สาวก็ไม่อยู่ในมุ้งแล้ว มองออกไปนอกมุ้ง ก็มีคนแปลกหน้าสี่ห้าคน นั่งคุยอยู่กับแม่โดยมีร่างของพ่อนอนหลับสนิทอยู่ตรงกลางแบบไม่สนใจเสียงใครๆ..
เด็กชายตะโกนเรียก "พ่อ" พร้อมกับเดินงัวเงียออกจากมุ้งเพื่อไปหาพ่อที่นอนอยู่กลางบ้าน แต่ยังไม่ทันจะถึงตัวพ่อ หญิงกลางคนวัย 34 ปี ผู้เป็นแม่ก็เดินมาอุ้มเด็กชายขึ้น เธอมองหน้าลูกชายตัวน้อยพร้อมกับพูดบอกลูกว่า "อย่าไปกวนพ่อเลยลูก พ่อเขาหลับอยู่"
เด็กชายมองหน้าแม่ สังเกตุเห็นตาแดงๆของแม่ สองแขนกอดแม่แน่น แม้ในใจอยากถามถึงขนมถังแตกของชอบ แต่ความอบอุ่นของอ้อมกอดแม่ก็ทำให้เด็กน้อยเผลอหลับไปอีกรอบ โดยไม่ทันจะได้เอ่ยถามสิ่งใด..
หลังจากวันนั้นมา เด็กชายก็ไม่เคยได้พบกับพ่ออีกเลยแม้สักวันเดียว แม้ว่าเขาพร่ำถามแม่บ่อยๆว่า"พ่อไปไหน" แต่คำตอบของแม่ก็เหมือนเดิมทุกครั้ง"พ่อไปอยู่บนสวรรค์แล้วลูก" แล้วแม่ก็ชี้ขึ้นบนท้องฟ้า เด็กน้อยมองตามมือแม่ไปบนท้องฟ้า และถามแม่ต่อด้วยความไร้เดียงสาว่า"แล้วพ่อจะกลับมาหาเรามั๊ย"..
แม่น้ำตาคลอและตอบลูกชายด้วยเสียงสั่นเครือว่า "เทวดาบนฟ้าเขาไม่ให้พ่อกลับมาหาเราแล้ว จากนี้ไปจะมีแต่แม่ และเราสี่พี่น้องเท่านั้น ต่อไปนี้แม่จะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้ลูกเอง พวกเราจะต้องอยู่กันให้ได้นะลูก" น้ำตาแม่ไหลอาบแก้มพร้อมกับดึงเด็กน้อยเข้าไปกอดเพื่อปิดบังไม่ให้ลูกน้อยเห็นน้ำตา..
ด้วยความเป็นเด็ก จึงไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่แม่พูดนัก แค่รับรู้ได้ว่า "ต่อไปนี้พ่อคงจะไม่กลับมาอีกแล้ว" แต่ที่เด็กชายไม่เชื่อและคิดว่าแม่พูดโกหกตลอดมาก็คือ"แม่จะกลายเป็นพ่อได้อย่างไร ก็แม่เป็นผู้หญิง"
หลังจากที่ครอบครัวสูญเสียพ่อไปจากอุบัติเหตุในวันนั้น เด็กชายพร้อมพี่ๆทั้งสามคนก็ได้รับการเลี้ยงดูจากผู้หญิงวัยกลางคน ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่แต่เพียงคนเดียว. ลูกทั้งสี่คนเติบโตขึ้น ในครอบครัวชาวนาจนๆ
ผ่านมา38 ปีแล้ว. พี่ชายคนโตเรียนจบม.6 ได้ทำงานในบริษัทที่มั่นคงและก้าวหน้าในอาชีพ พี่สาวทั้งสองเรียนจบระดับประถมศึกษา พี่สาวคนโตประกอบอาชีพค้าขาย พี่สาวคนรองทำเกษตรและเลี้ยงสัตว์อยู่กับแม่ ทุกคนมีอาชีพที่ดี มีลูกมีครอบครัวที่อบอุ่น. เด็กชายซึ่งเป็นน้องคนสุดท้อง เรียนจบปริญญาตรี และได้ทำงานในบริษัทที่ดีแห่งหนึ่ง มีรายได้ที่มั่นคง มีครอบครัวและมีลูกชายที่น่ารักหนึ่งคน
เด็กชายและพี่ๆทั้ง3คน เติบโต และประสบความสำเร็จมาได้ ด้วยตลอดชีวิตที่มีแม่เพียงคนเดียว..ไม่สิ..มีทั้งพ่อและแม่ในคนคนเดียวนั้น มันช่างน่าภูมิใจ
ที่สำคัญพวกเขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองกำพร้าและมีปมด้อยติดตัวเลยแม้แต่น้อย..ทุกๆสิ่งที่แม่ทำและผลลัพท์ที่เกิดกับลูกๆทุกคน ทำให้สิ่งที่แม่พูดในวัยเด็ก เป็นความจริง " แม่ไม่ได้โกหก ผู้หญิงเป็นพ่อได้จริงๆ "
1
พ่อแม่ผมเกิดในต่างจังหวัด มันเป็นถิ่นทุรกันดาร ไม่มีความเจริญใดๆเข้าไปถึง ไม่มีไฟฟ้า รถราก็ไม่มี ถนนหนทางเป็นป่าเขาและทางเกวียน. ตายายไปแจ้งเกิดที่อำเภอช้าไปเป็นปีๆ จึงจำวันเกิดไม่ได้ ในบัตรประชาชนระบุได้แค่ปีเกิดเท่านั้น
ผมและพี่ๆยกให้วันที่ 12 สิงหาคมของทุกๆปีเป็นวันเกิดแม่ และวันที่ 5 ธันวาคมเป็นวันเกิดพ่อ แม้ว่าวันนี้ลูกๆที่สี่คนจะไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าในบ้านหลังเดียวกัน แต่ทุกคนจะไม่ลืมโทรไปอวยพรวันเกิดพ่อ.ให้กับแม่..ผู้ทำหน้าที่เป็นพ่อมาตลอดชีวิต....
istock
ขอบคุณครับ..
โฆษณา