6 ธ.ค. 2019 เวลา 13:30 • บันเทิง
โลกนี้จะเป็นอย่างไรเมื่อมนุษย์ไม่ได้อยู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร
and the review goes to.. -the Promised Neverland / พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์- (part 1/2)
สวัสดีครับวันนี้ผมจะมารีวิวการ์ตูนเรื่อง "the Promised Neverland" หรือชื่อไทย "พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์" ที่สำนักพิมพ์ Siam Inter Comics ปัจจุบันออกมา 15 เล่ม และมีอนิเมชัน 1 season จำนวน 12 ตอนจบ อยากบอกว่าเป็นการ์ตูนที่สะท้อนสัจธรรมของโลกออกมาได้ชัดเจนมาก แถมสนุกสุด ๆ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรมาติดตามกันครับ
"พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์" เป็นเรื่องราวของโลกในปี ค.ศ. 2045 ณ สถานเลี้ยงเด็ก "เกรซ ฟิลด์ เฮาส์ (GFH)" ที่ใหญ่โตกว้างขวาง อาหารทุกมื้อเป็นอาหารชั้นเลิศ มีผู้ดูแล 1 คนคือ "หม่าม้า" ผู้รับมือกับเด็กกว่า 40 คนในทุกวัน
เด็กทุกคนและหม่าม้ารักกันเหมือนครอบครัว แบ่งหน้าที่ทำงานบ้าน แบ่งเวลาเรียน เวลาเล่น เวลานอน อย่างเป็นระบบ ทำให้เด็กทุกคนเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
ชีวิตในรั้ว เกรซ ฟิลด์ เฮาส์ นั้นมีแต่ความสุข แต่มีกฎคือเมื่อเด็กอายุครบ 6 หรือ 12 ปี จะมีพ่อแม่บุญธรรมมารับไปเลี้้ยง ซึ่งการต้องจากกันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่การได้ออกไปใช้ชีวิตบนโลกกว้างก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีเช่นกัน
แต่เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงภาพลวง เมื่อวันหนึ่ง "เอ็มม่า" และ "นอร์แมน" 2 ใน 3 ของเด็กที่เก่งที่สุดดันไปรู้ความลับของ เกรซ ฟิลด์ เฮาส์ ว่าเบื้องหลังของสถานเลี้ยงเด็กคือ "ฟาร์ม" ที่ใช้เพาะพันธุ์มนุษย์เพื่อให้ "ยักษ์" สิ่งมีชีวิตที่กินมนุษย์เป็นอาหาร มารับ "สินค้า" ในช่วงที่อร่อยที่สุดคือมนุษย์อายุ 6 หรือ 12 ปี
บ้านคือฟาร์ม-หม่าม้าคือเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์-"ตนเอง" คือสินค้า และไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมคือการ "ส่งออกสินค้า"
เมื่อรู้ดังนี้ เอ็มม่าและนอร์แมนจึงวางแผนเพื่อที่จะหลบหนีจากฟาร์มแห่งนี้ และชวน "เรย์" 1 ใน 3 เด็กที่เก่งที่สุดมาเป็นพรรคพวก โดยมีเป้าหมายคือการพาเด็กทุกคนหนีออกมาจาก เกรซ ฟิลด์ เฮ้าส์ เพื่อใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์
เรียบร้อยครับสำหรับเรื่องย่อ ต่อไปเป็นช่วงรีวิวครับ
เริ่มจากงานภาพก่อน คือเป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่ภาพสวยสบายตา และแอบมี Ester Egg ให้คนอ่านตามหาจากคำใบ้ที่อยู่แจ็คเก็ตหนังสือด้วย และที่สำคัญคือตัวละครเยอะมากแต่อ.เดมิซุก็วาดออกมาได้มีเอกลักษณ์ทุกคนทำให้เรื่องการจำตัวละครไม่มีปัญหา
ต่อมาคือเรื่องเอกลักษณ์ของตัวละคร เป็นหนึ่งในเสน่ห์ของเรื่องนี้เลย เพราะตัวละครหลักแต่ละตัวมีความเป็นตัวเองสูงมาก ๆ ขอยกตัวเอก 3 คนที่ทำข้อสอบ (ของ GFH) ได้เต็มทุกวันทุกครั้งตัวมาเล่าสู่กันฟังคือ
นอร์แมน - เอ็มม่า - เรย์
1. เอ็มม่า ตัวละครหญิงที่มีสมรรถภาพร่างกายแข็งแรง คล่องแคล่วปราดเปรียว มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว อ่อนโยนและรักครอบครัวมาก แต่ความอ่อนโยนก็เปรียบเสมือนดาบสองคม เมื่อรวมกับนิสัยที่มุ่งมั่นแล้วบางครั้งก็เป็นตัวละครที่ทำให้หงุดหงิดเหมือนกัน
2. นอร์แมน ตัวละครนี้นิยามได้แค่คำว่า "โคตรฉลาด" เท่านั้นจริง ๆ เป็นสมองของทีม รอบคอบ สุขุมเยือกเย็น แต่มีสมรรถภาพเหมือนเด็กทั่วไป เป็นตัวละครที่รู้สึกว่ามีความคิดเป็น "มนุษย์" ที่สุด
3. เรย์ เป็นตัวละครที่รวมเอ็มม่ากับนอร์แมนเข้าด้วยกัน มีสมรรถภาพร่างกายพอ ๆ กับเอ็มม่า ฉลาดพอ ๆ กับนอร์แมน เป็นตัวละครที่น่าสงสารอยู่เหมือนกันที่เข้าใจทั้งเอ็มม่าและนอร์แมนจนไม่รู้จะแสดงออกอย่างไร
จุดร่วมของทั้ง 3 คนคือเด็กอายุ 11 ปีที่ทำข้อสอบได้คะแนนเต็มทุกครั้งและเป็นแกนนำพาทุกคนหลบหนี แค่เห็น 3 คนนี้ทำงานร่วมกันก็ตื่นเต้นมาก ๆ แล้ว
และในส่วนของเนื้อเรื่อง ในองก์แรกช่วงหนีจาก GFH อารมณ์เหมือนอ่าน Death Note เลย ใครที่ชอบแนวชิงไหวชิงพริบ ประมาณสงครามเย็นนี่รับรองต้องชอบแน่นอน และพัฒนาการของเนื้อเรื่องเติบโตค่อย ๆ ขยายสเกลได้ดีมาก นำเสนอเป้าหมายและวิธีการไปถึงเป้าหมายอย่างสมเหตุสมผล
พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์เป็นเรื่องที่ Open World มาก ขอบอกตรงนี้ว่าช่วงหนีออกมาจาก GFH กลายเป็นเรื่องที่ขี้ปะติ๋วไปเลยเมื่อเทียบกับภาพรวมของเรื่อง คือเริ่มจากมีเป้าหมายแรก เมื่อทำสำเร็จผลลัพธ์ก็จะโยงไปสู่สถานการณ์อื่น ๆ ตามมาเและเพิ่มความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบันที่ผมอ่านยังไม่มั่นใจเลยว่าตอนนี้ (เล่ม 15 ) เป็นเรื่ององก์สุดท้ายหรือยัง
ตรงนี้ผมว่าเป็นอีกอย่างที่ทำให้น่าติดตาม เพราะเมื่ออ่านไปเรื่อย ๆ ผมเหมือนกลายเป็นเด็กใน GFH ไปด้วยสะงั้น (ฮา) ต้องคอยลุ้นว่าจะเจออะไร จะกลับมาได้ไหม และสุดท้ายบทสรุปของการเดินทางครั้งนี้จะเป็นอย่างไร
ในช่วงการเปลี่ยนองก์ของเรื่องจะลดความสนุกลงไปเล็กน้อย อย่างคนที่ชอบในช่วงหนีจาก GFH อาจจะไม่ชอบสถานการณ์ต่อไปก็ได้ และกว่าจะเริ่มตื่นเต้นต่อก็ต้องรอสักพัก แต่อ.ไคอุก็แก้ปัญหานี้ด้วยการจบตอนแบบน่าติดตามทุกตอน ทำให้รักษาสเกลความมันเอาไว้ได้ต่อเนื่อง
แอบบอกไว้ตรงนี้ว่า อะไรที่อ่านแล้วรู้สึกสงสัยจะมีเฉลยในเนื้อเรื่องในอนาคต อย่าเพิ่งเลิกอ่านกันไปก่อนนะครับ (ฮา)
สรุปว่าเป็นอีกเรื่องที่แนะนำจริง ๆ ครับ ภาพสวย พล็อตเรื่องดี ดำเนินเรื่องสมูธ เหมาะกับทุกเพศทุกวัยแต่ถ้าวัยผู้ใหญ่หน่อยจะซึ้งกับเนื้อหาเชิงเปรียบเทียบมาก ๆ เป็นอีกเรื่องที่ไม่อยากให้พลาดครับ
เสร็จเรียบร้อยกับ part 1/2 ฝากติดตามเพจ and the review goes to ด้วยนะครับ แล้วเจอกันใน part 2/2 สวัสดีครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา