7 ธ.ค. 2019 เวลา 08:01 • ปรัชญา
ความทุกข์เกิดขึ้นกับเรา ครั้งเดียว แต่เราเก็บเอามาฉายซ้ำๆในสมองเราไม่จบสิ้น..
เรามาปลดปล่อยทุกข์ ออกไปสร้างสุขกันดีกว่า นะคร้าบ...😊😊😊😊
สิ่งที่เป็นสาเหตุหลัก ลองมาคิดดูดีๆมาจากสาเหตุเดียวเลยคือ .... การให้อภัย 😇😇😇
เพราะทุกข์เกิดเพราะมีคนทำสิ่งไม่ดีกับเรา หรือจากตัวเราเองเป็นสาเหตุ การให้อภัยจึงแบ่งเป็น
การให้อภัยผู้อื่น
การให้อภัยตัวเอง
้ การให้อภัยเป็นการให้ที่ทำยากที่สุดเหนือการให้ใดๆ ...
ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเรามันเป็นเรื่องร้ายแรงมากเท่าไร การให้อภัยคนที่ทำกับเรายิ่งทำได้ยากมากขึ้นเท่านั้น
การพูดให้อภัย ทำได้ง่าย แต่ในใจเราให้อภัยเค้าจริงๆหรือไม่ ลองมาเช็คกันนะครับ..
1. เวลามีใครพูดถึงคนๆนั้น เราย้อนนึกถึงเหตุการณ์นั้นทุกครั้ง เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน
2. เรายังเฝ้าดูเค้าอยู่ เข้า FB IG ของเค้าดูความเป็นไป
แล้วคิดถึงเรื่องเก่าๆนั้นอยู่เสมอ
3. **ขั้นสูงสุด ลึกๆแล้วเราเฝ้ารอดูความทุกข์ของเค้า เช็คได้จากเมื่อได้ยินข่าวความเป็นไปของเค้าไปในทางที่ดี มีความสุข เรารู้สึกไม่ดี
ในทางกลับกันหากเค้าได้รับความทุกข์ ตกอับ เราจะสะใจ
การควบคุมจิตใจตนเองไม่ได้ทุกครั้งที่นึกถึงเค้า เราปล่อยให้เค้ามาควบคุมจิตใจของเรา มาควบคุมชีวิตเรานั้นทำให้ต้องเผชิญความทุกข์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
หากเราให้อภัยจะทำให้เราเป็นอิสระ จิตใจจะยกระดับขึ้น มีพลัง เต็มไปด้วยความคิดในทางบวก ทางสร้างสรร กระฉับกระเฉง เชื่อมั่นในตนเอง เข้มแข็ง
...และเมื่อไรที่เราทำได้ 100% ชีวิตต่อจากนี้จะดีขึ้น แตกต่างจากเดิมแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แต่มันเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะทำได้ในระยะเวลาสั้นๆ
จะต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรืออาจเป็นปี ขึ้นอยู่กับความรุนแรง แต่อย่างไรก็ตาม เป็นสิ่งที่เราต้องทำครับ...
มาถึงวิธีการของการให้อภัย มันไม่มีวิธีการแบบตายตัว ผมจะพูดถึงในมุมมองของผมเองที่ใช้อยู่...
เริ่มจาก ลบความคิดที่ว่า หากเราให้อภัยใครแล้ว เค้าจะเข้าใจว่าเรายอมรับการกระทำนั้น และอาจจะถูกกระทำซ้ำ หรือไปกระทำกับคนอื่นต่อ
ในความเป็นจริงเราทำการให้อภัยมันเกิดในจิตใจเราครับ
เค้าจะรับรู้หรือไม่เป็นอีกเรื่องนึง ถ้ารับรู้ก็ดี(ถ้าทำได้) ไม่ได้รับรู้ก็ไม่เป็นไร
สิ่งที่เค้าทำถ้าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ก็เป็นหน้าที่ที่ต้องดำเนินการทางกฎหมาย ไม่เกี่ยวกับที่เราอภัย
จากนั้น เมื่อไรก็ตามที่เรานึกถึงความทุกข์นั้น ให้เรากลับความคิดในทางบวกทันที เช่นการคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเราเองมีส่วนผิด เราพาตัวเองเข้าไปเหตุการณ์นั้นด้วย แต่ขณะนี้ทุกอย่างผ่านไปแล้ว ถือเป็นบทเรียนที่มีค่ามากเลย ดีนะที่เราผ่านมันมาได้ ไม่ได้เลวร้ายลงไปกว่านี้
และเมื่อนึกถึงคนนั้น หรือมีคนพูดถึง ก่อนที่จะนึกถึงเรื่องเก่าๆ ให้เรากำหนดจิตเรา และพูดกับตัวเองว่า ฉันยกโทษให้ในสิ่งที่เค้าทำทุกอย่าง และลองหาเหตุผลที่ทำให้เค้าต้องทำแบบนั้น
แบบนี้ก็ได้หรอ .. มันดูเป็นไปไม่ได้เลยที่ยกโทษให้คนอื่นในเวลาที่เรากำลังโกรธ แต่ลองสังเกตุความรู้สึกเราในขณะคิดนั้น จะรู้สึกเบาสบายกว่าคิดเคียดแค้น และคับข้องใจ
เราใช้ความคิดบวกไปล้างความคิดลบ ..
..
ลองนึกภาพตามนะครับ หากมีกะละมังใหญ่ใบนึงใส่น้ำแดงเต็ม เราเทน้ำเปล่าทีละแก้วลงไป เรื่อยๆ อาจใช้จำนวนเป็นหลายร้อยแก้วกว่าน้ำเปล่าแทนที่น้ำแดงจนเป็นน้ำใส ขณะเททีละครั้ง ถึงแม้น้ำยังแดงอยู่ แต่ความเข้มของน้ำแดงจะจางลงเรื่อยๆ ...เฉกเช่นเดียวกัน
ความคิดเคียดแค้นเหมือนน้ำแดง การให้อภัยโดยการคิดด้านบวกเหมือนน้ำเปล่าที่หมั่นเทลงไปทีละแก้ว..
ขอให้เรา ทำจนเป็นนิสัย การให้อภัยนั้นสมบูรณ์ ไม่มีการติดค้างใดๆหลงเหลืออีกต่อไป
แล้วสุดท้าย เราอย่าลืมให้อภัยตัวเองด้วยนะครับ 😇😇
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ของบทความและคนที่เข้า
มาเยี่ยมเยี่ยนและมาอ่าน ครับ
กร
7/12/62
โฆษณา