18 ธ.ค. 2019 เวลา 11:42 • ประวัติศาสตร์
"โรคห่า... มรณะดำ (Black Death).... ที่ทำให้โลกเปลี่ยนไป กับจุดกำเนิดของอาณาจักรอยุธยา"
2
อยุธยา ภาพของผม กับ แผนที่มรณะดำ ( Black death) ในยุโรป ภาพจากูเกิล
ครั้นเมื่อตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 12 ถึงต้นศตวรรษที่ 14 โลกก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทางการเมืองและการปกครอง เนื่องจากแผ่นดินส่วนใหญ่ในเอเซีย และยุโรปตะวันออกนั้นได้ตกไปเป็นของจักรวรรดิมองโกลทึ่เรืองอำนาจ..
ในทวีปเอเซียเองถึงอาณาจักรในเอเซียใต้กับเอเซียตะวันออกเฉียงใต้จะไม่ได้ตกเป็นของมองโกลก็ตาม
แต่อาณาจักรน้อยใหญ่เหล่านี้ก็ยังต้อง
ส่งบรรณาการแก่มองโกลบ้าง...
ซึ่งก็รวมถึงอาณาจักรอย่างสุโขทัย ล้านนา และไตเวียต เป็นต้น..
อาณาจักรมองโกลในปี 1259 จาก กูเกิล
แม้ว่าช่วงปลายศตวรรษที่ 13 จักรวรรดิมองโกลจะแตกออกเป็น 4 อาณาจักรย่อยและมีการรบกันแย่งอำนาจกัน แต่สิ่งที่ยังคงเกิดขึ้นก็คือ "การค้าขาย" ระหว่างกัน
ภาพจากกูเกิล
และก็ต้องยอมรับว่ายุคมองโกลนี้เอง การค้าขายระหว่างเอเซียกับยุโรปก็มีความรุ่งเรืองมาก
เนื่องจากดินแดนของอาณาจักรมองโกลนั้นมีขนาดใหญ่จนมีดินแดนติดกับอาณาจักรของยุโรปเลย
นั่นก็เลยทำให้ "เส้นทางสายไหม" อันเก่าแก่เรื่องชื่อนั้นมีการเดินทางที่สะดวกและง่ายขึ้นไปอีก...
ภาพจากกูเกิล
เผ่าเร่ร่อนในมองโเลีย และผมเร่ร่อนในมองโกเลีย😁
ซึ่งในส่วนยุโรปนั้นก็ตรงกับอาณาจักรไบเเซนไทน์ (Byzantine) และอาณาจักรอื่นๆในยุโรปตะวันตกนั้นก็อยู่ในยุคกลางหรือยุคมืด...
ซึ่งยุคกลางของยุโรปก็คือยุคที่เป็นระบอบศักดินาสวามิภักดิ์ (Feudalism) โดยจะมีกษัตริย์เป็นเจ้าของที่ดินสูงสุด (หรือ Lord สูงสุด)
3
ซึ่งกษัตริย์ก็จะเเบ่งที่ดินให้ขุนนาง (lord) หรืออัศวิน (Knight) แล้วขุนนางนี้ก็จะมีที่ดินและก็จะแบ่งที่ดิน ให้กับคนใต้อาณัติหรือลูกน้อง (vassal) อีกต่อหนึ่งเพื่อไว้ใช้ในการเพาะปลูก การเกษตร เเรงงานอื่นๆ และสร้างกองทัพ
ขณะเดียวกันคนใต้อาณัติเองก็ต้องทำหน้าที่ก็คือ จงรักภักดี และช่วยรบในยามสงคราม
1
ระบบศักดินา จากกูเกิล
และลูกน้องเองก็อาจจะมีลูกน้องอีกต่อหนึ่งเป็นขั้น ๆ ไปแต่สุดท้ายนายที่ใหญ่ที่สุด คือ กษัตริย์...
เมืองในยุคกลาง Bamberg, Germany--Talinn, Estonia--Skopje, Macedonia--Riga, Latvia
ทว่าพอต้นศตวรรษที่ 14 คือในช่วงปี 1330 ความหายนะครั้งใหญ่ก็เริ่มคืบคลานเข้ามา....
1
และคนส่วนใหญ่ก็คงจะคิดไม่ถึงว่า ความหายนะครั้งนี้จะเป็นครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่ง
ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์โลกไปตลอดกาล.......
3
Beijijng และ Dalian, China
ทางเหนือของจีนราชวงศ์หยวนหรืออาณาจักรมองโกลนั่นเอง ได้เกิดโรคระบาดที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและติดต่อผ่านตัวหมัดที่อาศัยอยู่ในสัตว์พวกฟันเเทะอย่างพวกหนู และเชื้อนี้ได้ติดต่อเข้าสู่คนอย่างรวดเร็ว...
โรคนี้จะทำให้มีอาการเป็นไข้ หนาวสั่น ปวดตัว ท้องเสีย อาจจะมีอาการช็อคตามมา และสุดท้ายก็มีเลือดออกตามผิวหนังและอวัยวะต่างๆ.. แล้วก็จะตายในที่สุด
และนั่นก็คือ "กาฬโรค (Bubonic plague)" และมีชื่อที่เรียกขานในยุคนั้นก็คือ "มรณะดำ" หรือ "Black Death"..
กาฬโรค เกิดจากเชื้อ bacteria ..Yersinia pestis ภาพจากกูเกิล
ผู้คนเริ่มล้มตายอย่างรวดเร็ว และนี่ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาณาจักรมองโกลในจีนหรือราชวงศ์หยวนอ่อนแอลงอย่างรวดเร็วหลังการตายของ กุบไลข่านในปี 1294
เพราะคนมองโกล รวมถึงทหารมองโกล และคนจีนได้มีการล้มตายจากโรคนี้เป็นจำนวนมาก...
มีการคาดการณ์ว่าก่อนการระบาดในช่วงปี 1300s จีนน่าจะมีประชากร 120 ล้านคน แต่พอในช่วง 1390 ประชากรจีนมีเหลือเพียง 65 ล้านคน..
แม้ว่าการลดลงของประชากรอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ด้วยไม่ว่าจะเป็นความอดอยาก และภัยสงคราม แต่นักประวัติศาสตร์ก็เชื่อว่ากาฬโรคน่าจะเป็นสาเหตุหลักของการลดลงของประชากร..
1
และจากนั้นโรคนี้ก็เริ่มเดินทางออกจากราชวงศ์หยวนของจีนเข้าสู่ "เส้นทางสายไหม"
1
และในปี 1338 มรณะดำหรือกาฬโรคก็เข้าสู่เอเซียกลางของอาณาจักร Chagatai อย่างเมือง Samarkand และเมืองอื่นๆ ในเอเซียกลาง
Samarkand
และเมื่อมีการขุดพบซากศพแถวทะเลสาบ Issykul ก็พบว่ามีคนตายด้วยกาฬโรคเป็นจำนวนมากในบริเวณนี้
1
ดังนั้นจึงสันนิษฐานได้ว่าบริเวณนี้อาจจะเป็นจุดรวมของการแพร่กระจายเชื้อกาฬโรคก่อนไปยุโรปก็เป็นได้..
โดยมีตัวมอร์มอต (marmots) สัตว์ฟันแทะที่มีอยู่ทั่วไปในทุ่งหญ้าในเอเซียกลาง เป็นตัวช่วยกระจายเชื้อในพื้นที่แถบนี้ให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว
**ตัวมอร์มอตนี้เห็นง่ายมากๆๆ คือมีเยอะมากครับถ้าไปเที่ยวในเอเซียกลาง..
มอร์มอธและทะเลสาบ Issykul
ไม่นานหลังจากนั้น กาฬโรคก็เข้าถล่มอาณาจักร Ilkhan (ดินแดนเปอร์เซียและอาหรับของมองโกล) โดยพบว่าโรคนี้ระบาดตั้งแต่ Efahan (Iran) Madaba (Jordan) Jerusalem (Israel) Palestine Damascus (Syria) จนถึงนคร Mecca (Saudi Arabia)
3
Efahan, Madaba, Jerusalem และ Palestine
และการระบาดครั้งนี้ยังเข้าสู่อนุทวีปอินเดียอีกด้วย ในเวลาไล่เลี่ยกัน..
เดลี, อินเดีย
นอกจากทางด้านเปอร์เซีย อาหรับ และอินเดียแล้ว เชื้อมรณะยังเริ่มแพร่เข้าสู่อาณาจักรแถวทะเลสาบแคสเปียนอย่างอาร์เมเนีย และเข้าสู่อาณาจักรมองโกลของ Golden Horde
1
ซึ่งก็คือดินแดนรัสเซีย และยูเครนในปัจจุบัน
Ukrain - Russia - Armenia
ดังนั้นชาวยุโรปจึงได้เริ่มได้ยินชื่อเสียงอันน่ากลัวของโรคร้ายนี้ แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเกิดเพราะอะไร
แต่ที่แน่ๆ อาณาจักรมองโกลทั้ง 4 ....
- อาณาจักรมองโกล ราชวงศ์หยวน ที่ปกครองดินแดนจีน และ ทิเบต
- อาณาจักรมองโกล Chagatai ที่ปกครองเอเซียกลาง
- อาณาจักรมองโกล Ilkhan ที่ปกครองเปอร์เซียและอาหรับ
- อาณาจักรมองโกล Golden Horde ที่ปกครองรัสเซียและยูเครน
กำลังพบกับหายนะที่ไม่คาดฝัน... ผู้คนล้มตายมากมายแบบรวดเร็ว และก็ทำให้อาณาจักรมองโกลทั้งหมดอ่อนเเอลงอย่างรวดเร็ว...
สุดท้ายในปี 1347 กาฬโรคเข้าถึงกรุงคอนสเเตนติโนเปิล (Contantinople) ของอาณาจักรไบแซนไทน์ (Byzantine) และอิตาลี (Italy) รวมถึงยังระบาดถึงอาณาจักรมัมลุค (Mamluk) ซึ่งก็คืออียิปต์ในปัจจุบัน
1
Turkey - Bulgaria - Egypt
และเพียง 1 ปีเท่านั้น กาฬโรคก็ระบาดเกือบทั่วยุโรป ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส อังกฤษ เยอรมัน เดนมาร์ก เป็นต้น
และยังระบาดไปถึงอาฟริกาตอนเหนืออย่างพื้นที่ในโมร็อคโค และตูนิเซียในปัจจุบัน...
1
การระบาดของ Black Death จาก wikipedia
นั่นทำให้ประชากรยุโรปเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬาร ซึ่งคาดว่าประชากรกว่า 1 ใน 3 ของยุโรปได้ล้มตายลง...
ประชากรในยุโรปที่ลดลงหลังจาก Black death จากกูเกิล
ผลที่เกิดขึ้นก็คือนอกจากประชากรที่ลดลงอย่างฉับพลัน ก็ยังทำให้ระบบศักดินาสวามิภักดิ์ (Feudalism) พังครืนลงเช่นกัน
3
และยุโรปก็เริ่มเข้าสู่ยุคฟื้นฟูใหม่ (Renaissance) และยุโรปก็เข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) ในเวลาต่อมา .....
ซึ่งก็ทำให้ยุโรปออกจากยุคกลางหรือยุคมืด และเข้าสู่ความรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว..
Italy-Netherland-England-France
มาถึงฝั่งบ้านไทยเรา.... ตำนานและพงศาวดารได้กล่าวว่า "พระเจ้าอู่ทองได้พาผู้คนหนีโรคห่ามาตั้งเมืองอยู่ที่อยุธยาในปัจจุบัน ซึ่งตรงกับปี 1350.."
1
และตำนานนี้ก็น่าจะมีเค้าโครงเรื่องจริง เนื่องจากช่วงเวลานี้ตรงกับการระบาดของกาฬโรคในจีนและยุโรป และโรคห่าก็คงหมายถึงโรคกาฬโรคในกรณีนี้
ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานบันทึกที่ชัดเจนก็ตาม...
**โรคห่า หมายถึงโรคติดต่อที่ทำให้คนตายจำนวนมาก และอาจเป็นได้ทั้ง อหิวาตกโรค ไข้ฝีดาษ และกาฬโรค เป็นต้น
1
แผนที่สรุปการระบาดของกาฬโรค ปี 1350 จาก Timemap
นอกจากนี้ก็เป็นไปได้ว่า กาฬโรคก็อาจจะเป็นสาเหตุให้อาณาจักรทางเหนือของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้อย่างสุโขทัย ล้านนา และไตเวียตอ่อนแอลงด้วยเช่นกัน
เพราะในประวัติศาสตร์ก็เป็นที่ชัดเจนว่าอาณาจักรเหล่านี้ก็ค้าขายกับจีน...
อยุธยาในสมัยพระเจ้าอู่ทองก็ได้ขยายอำนาจได้รวดเร็ว เพราะอาณาจักรสุโขทัยอ่อนแอมากแล้ว และสุดท้ายอยุธยาก็ผนึกรวมสุโขทัยเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรในเวลาต่อมา
อยุธยา
จากบันทึกพงศาวดาร และตำนานของการกำเนิดอยุธยาก็ชัดเจนว่า พระเจ้าอู่ทองปฐมกษัตริย์อาณาจักรอยุธยาได้พาผู้คนหนีโรคห่ามาตั้งบ้านเมืองใหม่ และอาณาจักรใหม่นี้ก็เป็นมหาอำนาจในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในเวลาต่อมา..
1
และนั่นก็ทำให้อาณาจักรอยุธยามีจุดกำเนิดจากโรคห่าระบาด ที่ทำให้มหาอำนาจเก่าอ่อนแอ...
ซึ่งก็เกิดขึ้นทั่วทุกภูมิภาคในเวลานั้น
ดังนั้นก็พอจะสรุปผลของการเกิดกาฬโรคครั้งใหญ่ในศตวรรษที่ 14 หรือ Black Deathได้ดังนี้
1
- ประชาการเอเซียและยุโรปลดลงกว่า 1 ใน 3 หรือน่าจะประมาณ 100-200 ล้านคน
- จักรวรรดิยักษ์ใหญ่อย่างมองโกลล่มสลายอย่างรวดเร็ว และทำให้เกิดอาณาจักรใหม่ๆ ทั่วเอเซียและยุโรป
- ระบบศักดินาในยุโรปล้มลง และทำให้ยุโรปเข้าสู่ยุคฟื้นฟู ก่อนเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสากรรม...
- เกิดอาณาจักรใหม่อย่างอยุธยา และกลายเป็นมหาอำนาจในเวลาต่อมา โดยการกลืนอาณาจักรสุโขทัย และขอม..
1
สุดท้ายไม่มีอะไรยั่งยืนครับ... 400 ปีต่อมา อาณาจักรอยุธยาก็ล่มสลายเช่นกัน!!!
1
และปัจจุบันยุโรปก็เริ่มอ่อนแอลง จีนกลับมาเติบใหญ่ เอเซียหลายประเทศเริ่มกลับมาเติบโต.....
ต้องดูต่อไปครับ...😊😊😊
#wornstory...
Ref.
How the Black Death Started in Asia
And Subsequently Spread Across the Middle-East and Europe, Thoughtco.
The Arrival and Spread of the Black Plague in Europe, ThoughtCo.
ABC/Reuters (29 January 2008). "Black death 'discriminated' between victims (ABC News in Science)".
โฆษณา