20 ธ.ค. 2019 เวลา 07:08 • ปรัชญา
รุ่งอรุณแห่งความสุข
เพื่อนๆเคยมีช่วงเวลาสักช่วงมั้ยค่ะที่รู้สึกว่า ฉันไม่อยากตื่นไปทำงานเลย ฉันไม่อยากตื่นไปเจอใครเลย เพราะปัญหาต่างๆในชีวิตที่คุณกำลังเผชิญ
หลายคนอาจสะสมจนเกิดเป็นโรคซึมเศร้า
และหลายคนอาจเลือกที่จากไปเพราะคิดว่ารุ่งอรุณของพวกเขาไม่ได้สุขอีกต่อไป
ใช่ค่ะเมื่อเรารู้สึกเบื่อหรือแย่กับสิ่งใดหรือหมด Passion ในชีวิต... ไฟในร่างกายของเราก็จะค่อยๆดับมอดลงไปทีละนิด
สิ่งที่เราต้องทำก็คือ เราต้องรู้จักการมองโลกให้มีประโยชน์สูงสุดทั้งต่อตัวเราเองและผู้อื่น ช่างน้ำหนักสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตทั้งดีและร้ายให้บาลานซ์กัน
ยกตัวอย่าง
หากเรายืนอยู่บนรถไฟฟ้าบีทีเอสที่แออัดแทบไม่มีพื้นที่จะหายใจในทุกๆวันเพื่อไปทำงาน
- อะไรที่สิ่งที่แย่ : ความรู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว ฯลฯ
- อะไรคือสิ่งที่ดี : ทำให้ได้มีเวลาทบทวนตัวเอง และถ้าโชคดีก็อาจจะได้ปิ๊งกับใครสักคน อิอิ
เมื่อเราเอาทั้งสองอย่างมาชั่งให้บาลานซ์กัน กล่าวคือรู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวก็เพราะใจเราเองที่สร้างกำแพงให้รู้สึกเช่นนั้น ให้หายใจเข้าลึกๆช้าๆแล้วทำจิตใจนิ่งใช่เวลานั้นทบทวนตัวเองหรืออาจมองหาใครสักคนที่เรารู้สึกแอบชอบเขาแล้วสบสายตาให้สะ อิอิ ...
เพียงเท่านั้นเองค่ะเราก็จะพบว่าการขึ้นบีทีเอสจะไม่ใช่เรื่องที่หน้าเบื่ออีกต่อไป เราอาจจะได้ค้นพบตัวเองจากการได้มีเวลาทบทวนตัวเอง หรือเราอาจจะอยากรีบตื้นนอนเพื่อมาให้ตรงเวลากับใครคนหนึ่งที่เขาเองก็มาขึ้นรถไฟเวลาเดียวกันกับเรา ได้แอบมองเขา ได้ส่งสายตา ได้ยิ้มหวานให้เขานั้นแหละค่ะคือการมองโลกให้มีประโยชน์สูงสุดทั้งต่อตัวเราเองและผู้อื่น
มันง่ายมากค่ะหากเราเลือกที่จะจัดการกับปัญหาและความรู้สึกแย่ๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตด้วยการมองโลกอย่างมีประโยชน์สูงสุดทั้งต่อตัวเราเองและผู้อื่น และการตื่นขึ้นมาในทุกๆเช้ากับเรื่องราวมากมายในชีวิตมันก็คือสีสันแห่งรุ่งอรุณที่เราไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ค่ะว่ามันจะสุขหรือทกข์
แต่เชื่อสุขเถอะค่ะว่าเมื่อเราสนุกกับการตื่นขึ้นมาเพื่อออกไปผจญภัยหรือแก้ไขปัญหาต่างๆในโลกใบนี้ของเรา ไม่วันได้ก็วันหนึ่งหรืออาจจะหลายวันเลย ที่รุ่งอรุณของเรา จะเป็นรุ่งอรุณแห่งความสุขค่ะ
สุข
“ใครมีความสุขคนนั้นชนะ”
โฆษณา