20 ธ.ค. 2019 เวลา 14:20 • บันเทิง
Alphago(2017) หมากตาที่ 78 และหนึ่งเกมแห่งชัยชนะของลี เซดอล (ตอนที่ 3)
ก่อนเขียนบทความนี้ผมได้อ่านบทสัมภาษณ์ของคุณไกรสร จันศิริ ประธานกรรมการบริหารบริษัทไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) จากหนังสือเรื่อง " ดีที่สุดในสิ่งที่เป็น " ของหนุ่มเมืองจันท์
คุณไกรสรบอกหลักการบริหารความเสี่ยงที่เขาสอนลูกชาย หลักการนี้ชื่อว่า " บ่วงอิก"
"บ่วง"คือหมื่น "อิก"คือหนึ่ง
สรุปโดยย่อ "บ่วงอิก " กล่าวถึงภาวะวิกฤตซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ ต่อให้เป็นหนึ่งในหมื่นก็อย่ามองข้ามเพราะโอกาสที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่ศูนย์ การมองข้ามโอกาสเกิดวิกฤตถือเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง เพราะหากมันเกิดขึ้นแล้วจะส่งผลกระทบที่รุนแรงแรงต่อธุรกิจ
การประเมินความเสี่ยงจึงไม่ใช่แค่การประเมินโอกาสในการเกิดว่ามีมากหรือน้อย แต่ต้องคาดการณ์ว่าหากเกิดวิกฤตขึ้นแล้วเรารับมือกับผลกระทบได้หรือไม่ ?
ถ้ารับได้ค่อยดำเนินการ
ถ้ารับไม่ได้ก็หยุด...
เพราะแม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากแต่ก็มีโอกาสเกิดได้ เป็นการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดจากการประเมินสถานการณ์ผิดพลาด
เป็นการป้องกันวิกฤตที่รัดกุมและทำให้ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ รอดพ้นจากวิกฤตช่วงต้มยำกุ้งในยุคที่มีการปล่อยค่าเงินบาทลอยตัวมาได้
แล้วสิ่งนี้เกี่ยวอะไรกับเกมหมากล้อมของลี เซดอล กับ อัลฟ่าโกะ ? คำตอบอยู่ในสามเกมสุดท้าย....
หลังแพ้มาสองเกม...
ตอนนี้ลี เซดอลรู้แล้วว่าอัลฟ่าโกะไม่ใช่โปรแกรมหมากล้อมแบบที่เขาเคยเจอ มันอัจฉริยะและสามารถสร้างสรรค์เกมรูปแบบใหม่ๆที่ไม่เคยมีมนุษย์คนไหนทำได้มาก่อน
เกมสามนี้เขาต้องสู้แบบหลังชนฝา
หากแพ้เกมนี้ เขาจะแพ้แมตช์นี้ทันที แต่หากพลิกกลับมาชนะได้ มนุษย์ก็ยังมีความหวังในเกมต่อไป
เกมที่ 3 : ชัยชนะที่ง่ายดาย
ลี เซดอล ได้หยุดพักหนึ่งวันเต็มๆก่อนแข่งเกมนี้...แต่เขาไม่ได้พักหรอก เขาใช้เวลาวันหยุดไปกับการวิเคราะห์เกมที่เกิดขึ้นร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านโกะหลายคนเพื่อหากลยุทธ์ในการแข่งเกมที่สาม
อัลฟ่าโกะทำได้ดีตั้งแต่ต้นเกม...
มันทำคะแนนทิ้งห่างไปหลังจากตาเดินที่ 50 ถึงตอนนี้อัตราชนะของอัลฟ่าโกะพุ่งสูงมาก
โกะมีความแปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือ เมื่อไหร่ที่คุณอยากชนะ คุณมักจะแพ้ วันนี้ลี เซดอล เล่นด้วยความกดดัน ความอยากชนะทำให้เขาพลาด
การแก้หมากของลี เซดอล ในวันนี้คือ แก้ไปตรงๆ สู้กันซึ่งหน้า...นั่นไม่ใช่สไตล์การเล่นของเขา
เกมวันนี้ใช้เวลาไม่มาก...หมากขาวของอัลฟ่าโกะสามารถครองพื้นที่ได้เต็มกระดาน...และลี เซดอลก็ยอมแพ้ไปในที่สุด
" มันวิเศษมากที่เราชนะ แต่ก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับฉันด้วย การได้เห็นผู้ชายคนนี้พยายามอย่างหนักและต้องผิดหวังอย่างหนักด้วยเช่นกัน "
คำสัมภาษณ์จากหนึ่งในสมาชิกทีมดีฟมายด์
" ก่อนอื่นผมคิดว่าผมควรต้องกล่าวคำขอโทษ ถ้าผมสามารถเล่นได้ดีกว่านี้หรือฉลาดกว่านี้ ผลลัพธ์อาจต่างออกไป
ผมคิดว่าผมทำให้พวกคุณผิดหวัง ผมอยากขอโทษที่ทำอะไรไม่ได้ ผมไม่เคยกดดันเท่านี้มาก่อน มันกดดันมาก ผมคงอ่อนแอเกินกว่าจะเอาชนะมันได้ ผมไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
เมื่อดูจากระดับของคู่แข่งตอนนี้ ผมอาจจะไม่ได้แพ้แค่สามต่อศูนย์ แต่อาจเป็นห้าต่อศูนย์ การแพ้ห้าต่อศูนย์เกม คงทำให้ความภาคภูมิใจของผมสั่นคลอน " ลี เซดอลให้สัมภาษณ์
" พวกเราเป็นนักเล่นโกะ ในประเทศจีน เกาหลี หรือญี่ปุ่น เรามองว่าโกะเป็นศิลปะ พวกเราคือศิลปิน เราเต็มที่กับการเล่นโกะอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นโปรดเห็นใจลี เซดอลด้วย เขาเป็นผู้เล่นที่เก่งมาก เป็นสุดยอดผู้เล่น ผมอยู่ในห้องนั้น ผมมองที่เขา ลี เซดอลอยากชนะ เขาพยายามทุกทางแล้ว เราแค่ทำไม่ได้...มันก็แค่นั้น " ฟาน ฮุย แชมป์ยุโรปสามสมัยกล่าวหลังจบเกม
เป็นที่แน่นอนแล้วว่ามนุษย์แพ้เอไอ
อีกสองเกมที่เหลือคือการลุ้นว่ามนุษย์จะสามารถเอาชนะเอไอได้สักเกมไหม ?
เกมที่ 4 : ตาเดินที่ 78
เกมที่สี่นี้ ลี เซดอลดูผ่อนคลายขึ้น
ผู้บรรยายกล่าวแบบติดตลกก่อนเริ่มเกมว่า ถ้าเขาได้แข่งกับอัลฟ่าโกะ เขาจะดึงปลั๊กออก....
วันนี้ลี เซดอล เลือกที่จะเล่นแบบตั้งรับ
เกมส่วนใหญ่ยังเป็นของหมากดำ(อัลฟ่าโกะ) แต่เมื่อยิ่งเล่นไป ลี เซดอลก็ตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ เขากลับมาเล่นสไตล์ที่ถนัด...เริ่มตั้งรับจากพื้นที่เล็กๆในกระดาน
แต่อัลฟ่าโกะก็ไม่หวั่นมันรุกไล่กดดันอย่างต่อเนื่อง...จนลี เซดอล เสียเปรียบอีกครั้ง
นักวิเคราะห์ทุกคนเห็นตรงกันว่า เขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก หมากขาวเสียตำแหน่งไปเรื่อยๆจนแทบไม่มีตาเดิน แต่ลี เซดอล ยังนิ่ง เขามีสมาธิกับเกมมาก...
ตาที่จ้องมองกระดานกับสายตาครุ่นคิด...เหมือนกับว่าเขากำลังรอจังหวะจู่โจม ?
และเมื่อหมากตาหนึ่งของลี เซดอล ถูกทิ้งลงบนกระดาน อยู่ดีๆอัตราชนะของอัลฟ่าโกะก็ลดลงไปแปดเปอร์เซนต์...เป็นการลดลงแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
หลังจากนั้นการเดินหมากของมันก็แปลกไป...
จำเรื่องราวในบทความตอนที่หนึ่งได้ไหมครับ ?
ก่อนการแข่งฟาน ฮุย พบว่าอัลฟ่าโกะจะเข้าใจผิดเมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ที่มันไม่คุ้นเคย เมื่อมันเจอการวางหมากที่ไม่มีในฐานข้อมูล อัลฟ่าโกะอาจพาตัวเองไปสู่มุมอับเพราะหลงคิดว่าไปต่อได้
ทีมดีฟมายด์แก้ไขข้อบกพร่องนี้ไม่ทัน แต่โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์นี้มีน้อยมาก พวกเขาจึงปล่อยไป
สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้...คือโอกาสอันน้อยนิดนั้น ในที่สุด ลี เซดอน ก็พบจุดอ่อนของอัลฟ่าโกะ
ถึงจุดนี้ อัลฟ่าโกะใช้เวลาเดินหมากนานมาก...และเมื่อหมากดำถูกวางลง ก็เป็นตำแหน่งการวางที่ตลกและไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย (หนึ่งในผู้บรรยายถึงกลับหลุดขำออกมาในจังหวะนี้)
ลี เซดอล ยัง งง กับการเดินของมันเลย...
สำหรับเขา คงกำลังสับสนว่ามันเล่นอะไร ? มีแผนการอะไรอยู่ ? แต่ในห้องข้อมูลของทีมดีฟมายด์ไม่ได้คิดเช่นนั้น...ตอนนี้อัตราชนะลดลงไปมาก โอกาสชนะมีเพียง 45 เปอร์เซนต์เท่านั้น
ตลอดเกมที่ผ่านมาอัลฟ่าโกะได้เปรียบมาตลอด...แต่หลังตาเดินตาหนึ่งของลี เซดอล ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ตาเดินนั้น...คือการวางหมากตาที่ 78 เป็นการเดินของหมากกลางกระดานที่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งในตาเดียว
ตาเดินที่ 78 ของลี เซดอล (หมากขาว)
แม้ทุกอย่างดูเหมือนว่าจะไปได้ดี แต่ลี เซดอลไม่ประมาท
เขามองกระดานและครุ่นคิดอย่างใจเย็น
ตอนนี้อัตราชนะของอัลฟ่าโกะเหลือเพียง 18.2 เปอร์เซนต์ ....แล้วมันก็ยอมแพ้
เขาทำสำเร็จ ลี เซดอล สามารถชนะเอไอได้ในเกมที่สี่
เสียงโห่ร้องดีใจ...ดังไปทั่วห้องถ่ายทอดสด
" ผมได้ยินเสียงคนโห่ร้อง ตอนที่รู้ว่าอัลฟ่าโกะแพ้เกมนี้แน่นอนแล้ว ผมรู้เลยว่าทำไม ผู้คนรู้สึกหมดหวังและหวาดกลัว ดูเหมือนว่ามนุษย์เราช่างอ่อนแอและเปราะบางเหลือเกิน
ชัยชนะครั้งนี้มีความหมายว่า เรายังคงยืนหยัดต่อไปได้ เมื่อเวลาผ่านไป การเอาชนะเอไอคงยากมาก แต่การชนะเพียงหนึ่งครั้งก็เพียงพอแล้ว....ครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว "
" ชัยชนะครั้งนี้มีค่ามาก ผมไม่ยอมแลกมันกับอะไรในโลกเด็ดขาด " นี่คือบทสัมภาษณ์ของลี เซดอลหลังเอาชนะอัลฟ่าโกะได้ (เกมที่ 4) และเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นรอยยิ้มของลี เซดอลในการให้สัมภาษณ์
ลี เซดอล ยกระดับการเดินตานี้ได้ซับซ้อนจนอัลฟ่าโกะคาดไม่ถึง เขาบอกว่าเขาพยายามหาวิธีการเดินในแบบที่อัลฟ่าโกะจะเดาไม่ได้ และมันก็ไม่ได้นึกถึงวิธีการเดินแทรกแบบนี้
ในห้องสัมภาษณ์ นักข่าวคนหนึ่งถามลี เซดอลว่า
" ในตาเดินที่ 78 นี้ กูลี่ สุดยอดนักเล่นโกะชาวจีนบอกว่ามันเป็นการเดินที่เทพมาก คุณคิดอะไรอยู่ในการเดินตานั้น ?"
" ในตอนนั้น นี่คือทางเดียวที่ผมคิดออก การเดินตาที่ 78 ไม่มีตำแหน่งอื่นอีกแล้ว มันเป็นทางเลือกเดียวของผมที่ต้องลงตรงนี้ ผมไม่แน่ใจว่าผมคู่ควรกับคำชมมากมายที่ได้รับหรือเปล่า ? " ลี ตอบนักข่าว
ในหนทางที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้นี้ ลี เซดอลทำให้มันเกิดขึ้นแล้ว
ทีมพัฒนาของดีฟมายด์ต้องหาคำตอบในความผิดพลาดนี้ให้ได้ พวกเขาไล่วิเคราะห์การเดินของอัลฟ่าโกะทีละตาและดูว่ามันคิดอะไรในตอนนั้น
ปรากฏว่าอัลฟ่าโกะแพ้เพราะก่อนการเดินตาที่ 78 นี้ อัตราชนะของลี เซดอลที่อัลฟ่าโกะคำนวณได้มีเพียง 0.007 เปอร์เซนต์ และการเดินตาที่ 78 นี้ โอกาสที่มนุษย์จะลงหมากในตำแหน่งนี้มีเพียงหนึ่งในหมื่นเท่านั้น
หากใครเคยอ่านการ์ตูนเรื่อง "ฮิคารุเซียนโกะ" มีการกล่าวถึงสุดยอดเป้าหมายที่นักเล่นโกะปรารถนานั่นคือการเล่นในระดับ " หัตถ์เทวะ "
หัตถ์เทวะ คือ ระดับการเล่นโกะที่มนุษย์สามารถเล่นกับพระเจ้าได้ ( พระเจ้าคือผู้รอบรู้ทุกสรรพสิ่ง) พระเจ้าสร้างโกะเพื่อหามนุษย์ผู้คู่ควรคนนั้น หากเปรียบอัลฟ่าโกะเป็นพระเจ้าในเกมโกะ...ตานี้ของลี เซดอล คือ " หัตถ์เทวะ " นั่นเอง
" โอกาสที่มนุษย์จะลงหมากตำแหน่งนี้มีเพียงหนึ่งในหมื่น " อัลฟ่าโกะจึงมองข้ามการเดินนี้ อัลฟ่าโกะมองไม่เห็น " บ่วงอิก " ของเกมนี้
หมายเหตุจากผู้เขียน : ผู้เชี่ยวชาญหมากล้อมบอกกับผมว่าการเดินตาที่ 78 นี้ ภาษาโกะเรียกว่า Trick move ถ้าเป็นผู้เล่นระดับโปรคงหาทางแก้หมากตานี้ได้ แต่ความหลงผิดจาก Bug ในระบบของ AlphaGoทำให้มันเดินพลาดและแพ้ไปในที่สุด ถึงอย่างนั้นหมากตานี้ของลี เซดอลก็ยังสุดยอดอยู่ดี เพราะตอนนั้นไม่มีใครคิดถึงการเดินแบบนี้เลย... มีเพียงลี เซดอลเท่านั้นที่มองเห็น
เกมที่ 5 : บทเรียนจากอัลฟ่าโกะ
หลังความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรกของอัลฟ่าโกะ ทำให้เกมนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก
ความท้าทายในเกมนี้คือ เมื่อเรารู้จุดอ่อนของอัลฟ่าโกะจนชนะได้ครั้งหนึ่งแล้ว เรายังจะมีโอกาสนั้นอีกไหม ?
โอกาสที่มอดลงจนใกล้ดับถูกจุดให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง
เกมนี้อัลฟ่าโกะเดินหมากแปลกๆตั้งแต่ต้นเกม ผู้บรรยายให้ความเห็นว่ามันอาจจะยังไม่หาย งง กับเกมเมื่อวาน แต่ละตาที่ลงหมาก มันเดินได้ไม่ดีนัก (ทัศนะผู้บรรยาย) จนผ่านไปเกินครึ่งกระดาน มันก็ยังเดินแปลกๆอยู่
โอกาสชนะในตอนนี้มี 91 เปอร์เซนต์ ( ถือว่าไม่ดีนักเมื่อเทียบกับมาตรฐานโดยปกติของอัลฟ่าโกะ)
หลายคนเริ่มคิดว่าอัลฟ่าโกะคงจะแพ้แบบขายหน้าอีกครั้งในเกมนี้ มันเดินเกมแปลกประหลาดจนไม่มีใครเข้าใจมันได้แล้ว
การวางหมากของมันไม่ลงในตำแหน่งที่ควรจะลง
แต่กลับลงในตำแหน่งที่ไม่จำเป็น เหมือนกับว่ามันเดินหมากไปงั้นๆไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อเข้าสู่ท้ายเกม หมากของอัลฟ่าโกะก็กลับมาสูสีอีกครั้ง และเฉือนเอาชนะไปในที่สุด ( ลี เซดอล ตามหลังประมาณสองแต้มครึ่ง)
สรุปผลการแข่งขันห้าเกม อัลฟ่าโกะสามารถชนะ ลี เซดอลไปได้ 4 ต่อ 1 เกม
" ผมคิดว่าอัลฟ่าโกะกำลังสอนเราครับ ที่ผ่านมาเราใช้แต้มเป็นตัวแทนของโอกาสในการชนะ เราเลยพยายามครองพื้นที่ให้ได้มากเพื่อทำให้แน่ใจว่าเราจะชนะ แต่อัลฟ่าโกะบอกกับพวกเราว่า นั่นไม่สำคัญ...
ใครจะได้กี่แต้มก็ตาม การได้คะแนนมากกว่าแค่แต้มเดียวก็ถือว่าชนะแล้ว ฉันจะยึดพื้นที่มากมายไปทำไม ?
นั่นคือสิ่งที่อัลฟ่าโกะต้องการจะบอก และนั่นจะเป็นแนวทางการเล่นโกะต่อไปในอนาคตอีกนับพันปี " ผู้เชี่ยวชาญหมากล้อมให้ความเห็น
ลี เซดอล ก็เห็นตรงกัน เขากล่าวว่า
" ผมรู้สึกประหลาดใจมาก อัลฟ่าโกะทำให้เราเห็นว่า การเดินหมากที่มนุษย์คิดว่าสร้างสรรค์นั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่เรื่องใหม่เลย ผมคิดว่าสิ่งนี้จะนำมาซึ่งการเล่นโกะรูปแบบใหม่ๆ "
ลี เซดอลเติบโตขึ้นจากประสบการณ์ที่ได้เล่นกับอัลฟ่าโกะห้าเกม สองเดือนหลังการแข่งขันกับอัลฟ่าโกะ ลี เซดอลชนะในทุกรายการที่เขาลงแข่ง กระแสการเล่นโกะเกิดขึ้นทั่วโลก....
เช่นเดียวกัน รูปแบบการเล่นของอัลฟ่าโกะในเกมที่ห้า ก็เกิดจากการแพ้ในเกมที่สี่ ลี เซดอล มอบบทเรียนบางอย่างให้กับมันเช่นกัน
หมากห้าเกมนี้คือบันทึกหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ คือจุดเริ่มของปัญญาประดิษฐ์ที่จะมีเรื่องราวตามมาอีกมากมาย
ถ้า" บ่วงอิก "เปรียบเสมือนหมากดำ และมันคือโอกาสที่จะเกิดขึ้นเพียงน้อยนิดของเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายได้มหาศ่าล หมากขาวคงหมายถึงขั้วตรงข้ามอย่าง " โอกาสที่มีเพียงน้อยนิดของเหตุการณ์ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีได้มหาศาล "
ปัญญาประดิษฐ์เป็นเรื่องที่ได้รับถกเถียงกันมากว่า มันคือ " โอกาส " หรือ " หายนะ "
คงไม่มีใครตัดสินเรื่องนี้ได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกเดิน " หมากดำ " หรือ " หมากขาว "
บางครั้ง " หมากเม็ดเดียว" ก็สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งกระดาน
เครดิตข้อมูล :
สารคดีชุด AlphaGo(2017)
บทสัมภาษณ์คุณไกรสร จันศิริ สรุปจากหนังสือ " ดีที่สุดในสิ่งที่เป็น " ของหนุ่มเมืองจันท์
โฆษณา