26 ธ.ค. 2019 เวลา 09:18 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Say Goodbye to Froxtrot Class B-80 Submarine
เรือดำน้ำ Froxtrot Class B-80 ซึ่งถูกปลดระวางลำนี้ กำลังจะถูกนำไปแยกส่วนขาย เรือดำน้ำ Froxtrot Class ถืิอเป็นเรือดำน้ำที่น่าเกรงขามของสหภาพโซเวียตในยุคสงครามเย็น
เรือลำนี้ถูกนำมายังกรุงอัมสเตอร์ดัมเมื่อปี 1991 โดยกลุ่มนักธุรกิจชาวดัช ในราคา 56000 ยูโร โดยมีแผนที่จะนำมาปรับปรุง เพื่อใช้ในการจัดประชุม จัดงาน หรือ อีเว้นท์ต่างๆ โดยจอดไว้ที่ท่าเรือ NDSM quay กลางเมืิองอัมสเตอร์ดัม
ภายหลังเกิดปัญหาทางธุรกิจทำให้ไม่อาจบรรลุเป้าหมายเดิมได้
ปี 2008 มีการเปลี่ยนมือขึ้น โดยเรือลำนี้ถูกขายให้ Historische Schepen KNSM-Eiland Amsterdam ในราคา 90000 ยูโร โดยหวังจะใช้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์
ด้วยสภาพ อายุและความเก่าของตัวเรือ ทำให้แผนต่างๆ ไม่ประสบความสำเร็จ
เรือลำนี้จึงถูกเปลี่ยนมืออีกครั้งโดยขายให้บริษัทจากตุรกีในราคาที่ไม่เปิดเผย ด้วยราคาของเหล็ก ในตลาดที่สูงถึงมากกว่า 300 ยูโรต่อตัน เมื่อเทียบกับน้ำหนักเรือและราคาของเรือ บริษัทจากตุรกีจึงมีแผนที่จะซื้อแล้วเอามาทำลายเพื่อแยกชิ้นส่วนเอาเหล็กมาขายเพื่อเอากำไร โดยจะต้องวางเงินค้ำประกันถึง 1 ล้านยูโร เพื่อรับประกันว่าการแยกชิ้นส่วนจะเป็นไปโดยเรียบร้อยและไม่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อม
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่่านมาเรือ Froxtrot B-80 ถูกลากจากท่าเรือในอัมสเตอร์ดัม ไปยังอู่ต่อเรือบริษัท Damen ใน เมือง ฟลาดิงเกน ทางตอนใต้ของเนเธอร์แลนด์ โดยใช้ทุ่นลอยประกบทั้งสองข้างเพื่อความปลอดภัย เพื่อเตรียมแยกส่วนและทำลาย
Froxtrot Class เป็นเรือดำน้ำพลังงานดีเซลของสหภาพโซเวียต ซึ่งจะเรียกเรือดำนำชั้นนี้ว่า Project 641 โดยผลิตมาแทนที่เรือดำน้ำชั้น Zulu Class
เรือดำน้ำชั้น Froxtrot ออกปฏิบัติการครั้งแรกในปี 1958 และลำสุดท้ายในปี 1983 ผลิตออกมารวมทั้งสิ้น 74 ลำ
โดยปฏิบัติการอยู่ในช่วงปี 1958 ถึง 2014 ในหลายประเทศ เช่น สหภาพโซเวียต ลิเบีย คิวบา อินเดีย ยูเครน และโปแลนด์
Froxtrot Class มีระวางขับน้ำ 2515 ตัน มีความยาว 89.9 ม กว้าง 7.4 ม ลึก 5.9 ม ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ทำความเร็วผิวน้ำได้ 30 กม ต่อ ชม และใต้น้ำ 28 กม ต่อ ชม สามารถปฏิบัติงานใต้น้ำได้ 3-5 วัน ที่ความลึก 250-300 ม และบรรทุกตอปิโดได้ 22 ลูก
Froxtrot Class ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในประวัติศาสตร์โลก ในวิกฤติการณ์คิวบา ในปี 1962 ที่เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตที่สุ่มเสี่ยงจะนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ที่สุด เนื่องจากอเมริกาไปตั้งฐานยิงขีปนาวุธในตุรกีเป้าไปที่โซเวียต ทำให้โซเวียตต้องเอาฐานขีปนาวุธไปตั้งในคิวบาจ่อคอหอยอเมริกาเหมือนกัน
โดยช่วงที่วิกฤติมากๆ นั้นโซเวียตส่งเรือดำน้ำ Froxtrot Class เข้าไปอยู่ในน่านน้ำคิวบาถึงสี่ลำเพื่อเตรียมพร้อมสงคราม
โฆษณา