31 ธ.ค. 2019 เวลา 06:07 • การศึกษา
10 ที่สุด กรุงเทพมหานคร ปี 2019
กรุงเทพมหานคร แปลไทยเป็นไทย ก็คือ พระนครอันกว้างใหญ่ดุจเทพนคร แต่ถ้าแปลด้วยภาษาชาวบ้าน จะได้ความว่า เมืองแห่งเทวดา นั่นเอง .. เมืองที่เต็มไปด้วยทวยเทพ นางฟ้า จากสวรรค์ชั้นที่ 85 บวกลบก็น่าจะใกล้ ๆ กับตึกใบหยก.. ในปี 2019 ที่ผ่านมา กรุงเทพฯ มีความเป็นที่สุดด้านใดบ้าง เพจท้อป จะมาแร้งค์ให้ฟัง
10. มหานครแห่งปริศนาทางเท้า
หนึ่งในความเป็นที่สุด สำหรับทางเท้า ของชาวกรุงเทพฯ .. จากสถิติ การจับกุม ผู้ขับขี่บนทางเท้าปีที่ผ่านมา จับกุมได้ 20,659 ราย ปรับเป็นเงินถึง 11,179,500 บาท (เห็นตัวเลขแล้วก็.. โอ้วว) ทั้งนี้ในปีหน้า กทม. จะเพิ่มโทษเป็น ปรับสองพันบาท จับปรับผู้กระทำผิด กรณีการขับขี่บนทางเท้า .. จูงรถบนทางเท้า ก็ผิดนะครับ อย่าคิดว่าจะรอด
9. มหานครแห่งค่าครองชีพ
ค่าครองชีพ ของเหล่าทวยเทพ ใน กทม. ที่นับวัน ยิ่งสูงขึ้น จนเกือบจะชนตึกแมกโนเลีย เข้าไปทุกที (ตึกที่สูงที่สุด ในไทยน่ะ) ข้อมูลจาก numbeo.com ระบุว่า กรุงเทพฯ ติดอันดับ 2 ของอาเซียน และอันดับ 20 ของเอเชีย ที่มีค่าครองชีพสูงปรี๊ด.. โดยเฉลี่ยต่อคน อยู่ที่ประมาณ 21,054.88 บาท/เดือน (ยังไม่นับค่าพี่พัก) .. เห็นอก เห็นใจชาวกรุง ที่ต่อสู้กัน บนชั้นดาวดึงส์
8. มหานครแห่งพื้นที่สีเขียว
กรุงเทพฯ เป็น 1 ใน 23 จังหวัด ที่มีพื้นที่สีเขียวน้อยที่สุด คำนวนได้ 6.73 ตร.ม./คน ซึ่งค่ามาตฐานปกติ จะอยู่ที่ 9 ตร.ม./คน .. อย่างไรก็ดี กทม. กำลังดำเนินการแผนเพิ่มพื้นที่สีเขียว เป็น 10 ตร.ม./คน ให้แล้วเสร็จในปี 2573 ทั้งนี้ในปัจจุบัน เมืองกรุงเทพฯ มีสวนสาธารณะหลัก 39 แห่ง และกำลังดำเนินโครงการ Pocket Park หรือสวนขนาดเล็ก เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
7. มหานครแห่งต้นไม้ล้านต้น
Now Moving Forward ทำจริง เห็นผลจริง คือ 1 ในแผน ยุทธศาสตร์ “มหานครสีเขียว สะดวกสบาย” โดยล่าสุด สามารถปลูกต้นไม้ 1,025,943 ต้น ในพื้นที่ กทม. ได้เป็นผลสำเร็จ (ไม่แน่ใจ.. นับต้นขนาดไหน) ปัจจุบันมีพื้นที่สวนหย่อมทั้งหมด รวม 8,081 แห่ง พื้นที่ 23,905 ไร่ 3 งาน 31.74 ตารางวา หรือคิดเป็น ร้อยละ 2.44 ต่อพื้นที่ในพระนครทั้งหมด
6. มหานครแห่งฝุ่นพิษ
เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร ประสบปัญหา คุณภาพอากาศ (AQI) พุ่งสูง ติดแถวหน้าของโลก .. อีกทั้งยังมีค่า PM2.5 ที่เกินมาตรฐานอีกด้วย กลายเป็นสถานะการณ์ฉุกเฉิน ของหน่วยงานภาครัฐ ต้องรีบเข้ามาแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ กทม. กำลังดำเนินการจัดหาเครื่องตรวจวัด PM2.5 เพื่อให้ครอบคลุมทั้ง 50 เขต ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 นี้ .. ไม่ก็ปิดจมูกกันต่อไป
5. มหานครหมวกกันน็อค
จากผลสำรวจของ มูลนิธิไทยโรดส์ และ เครือข่าย Road Safety Watch ในปีที่ผ่านมา พบว่า หลังจากเกิดโครงการ “กรุงเทพมหานคร เมืองต้นแบบ สวมหมวกนิรภัย 100%” พบว่า ผู้ขับขี่ชาวเมืองกรุง สวมหมวกนิรภัยมากถึง 92% แต่ตัวเลขโดยเฉลี่ยทั้งประเทศ ยังต่ำอยู่ที่ 52% .. ห้ามสวมหมวกกันน็อค เข้าเวทีมวยลุมพินีนะ
4. มหานครแห่งค่ารถไฟฟ้าแพงสุดในโลก
จากการศึกษาของ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) พบว่า กทม. มีค่าโดยสารรถไฟฟ้า (ไม่ใช่รถ พลังงานไฟฟ้านะ) ที่สูงกว่าขนส่งมวลชน ซึ่งอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า เฉลี่ยที่ 28.30 บาท/เที่ยว หรือ 1,000-1,200 บาท/เดือน หรือ 12,000 บาท/ปี เป็นค่าโดยสารที่ถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับ สิงคโปร์ ฮ่องกง และอังกฤษ .. ทั้งนี้ กทม. มีแผนแก้ไข กำหนดค่าโดยสาร ตลอดสายราคา 65 บาทด้วย
3. มหานครสร้างสรรค์แห่งใหม่ UNESCO
เป็นที่น่ายินดีเมื่อ Unesco ได้ประกาศรายชื่อ เมืองสร้างสรรค์แห่งใหม่ หรือ Creative Cities ซึ่งมีทั้งหมด 66 เมืองทั่วโลก สองเมืองในนั้น มีกรุงเทพฯ และสุโขทัย รวมอยู่ด้วย.. โดยก่อนหน้านี้ เรามีภูเก็ต และเชียงใหม่ ที่อยู่ในลิสต์มาตั้งแต่ปี 2560 ก่อนแล้ว .. เป็นอันว่าตอนนี้ ประเทศเราก็มี เมืองสร้างสรรค์ ทั้งหมด รวม 4 เมือง น่าปลื้มใจสุด ๆ
2. มหานครแห่งราง
ในอนาคตอันใกล้ ปี 2566 หรืออีก 3 ปีจากนี้ เมืองบางกอกจะมี เส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมเป็นระยะทาง 464 กม. และกลายเป็นเมืองที่มีโครงข่าย รถไฟฟ้ายาวเป็นลำดับที่ 3 ของโลก ทั้งนี้ 30 มีนาคม 2563 ที่กำลังจะถึง เราจะมีรถไฟฟ้า เชื่อมโยงกันเป็นโครงข่าย Circle Line แล้วเสร็จอีกด้วย
1. มหานครแห่งการท่องเที่ยว
ปิดท้ายกันที่ความสำเร็จ ของกรุงเทพมหานคร ที่สามารถดูดเม็ดเงิน จากนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ กลายเป็นแชมป์ สมัยที่ 4 ติดต่อกัน ล่าสุด ปี 2019 ของมาสเตอร์การ์ด และยังครองอันดับ 3 เมืองที่นักท่องเที่ยว ใช้จ่ายมากที่สุด ด้วยมูลค่าถึง 20.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังมีรางวัลจาก The 2019 Business Traveller China Awards Ceremony, The Top 15 Cities in the World ปี 2019 และนิตรสาร Ceoworld อีกด้วย
กรุงเทพฯ แม้จะเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ มหานครที่ไม่เคยหลับไหล มีสิ่งดึงดูด นักท่องเที่ยว ให้ติดอกติดใจ กลับมาเยือนไม่เคยขาด แต่เราคงไม่ลืมกันว่า สิ่งที่สำคัญมากกว่าเม็ดเงินมหาศาล คือ รอยยิ้มอันแสนอบอุ่น ไมตรีจิตร แลัมิตรภาพอันดี นั่นเป็นเครื่องการันตี ความเป็นคนไทย ว่านี่แหละ คือ สยามเมืองยิ้ม ที่แท้จริง
หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ
สัมผัสเบา ๆ จากปลายนิ้วท่าน สามารถให้กำลังใจผู้เขียนได้ง่าย ๆ
กดไลค์ = ชอบ
กดแชร์ = เห็นว่ามีประโยชน์
คอมเม้นต์ = เพื่อติชม และเป็นกำลังใจ
โฆษณา