1 ม.ค. 2020 เวลา 03:21 • ปรัชญา
ความทรงจำ อุปสรรคสำคัญของการจัดบ้าน
เชื่อว่าตอนนี้คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อภาพยนตร์ "ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ" ภาพยนตร์คุณภาพจาก gdh และคงทราบโครงเรื่องคร่าวๆของตัวภาพยนตร์มาบ้างแล้ว
วันนี้ Mint Talk ก็เลยอยากจะมาชวนคุยเกี่ยวกับเรื่องของการ "ทิ้ง" ที่เป็นปมหลักของเรื่อง และเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านน่าจะมีประสบการณ์แบบนี้มาบ้างในเวลาที่ต้องจัดบ้าน แล้วไปหยิบเจอของที่หลายคนเรียกว่า "ของรกบ้าน" แต่สำหรับเรามันคือ "ของแห่งความทรงจำ"...
Credit ภาพ: MV เพลง ทิ้งแต่เก็บ THE TOYS
สำหรับใครที่ไม่ได้วางแผนจะไปดู ผมสรุปเรื่องสั้นๆให้นะครับ
เรื่อง "ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ" เป็นเรื่องราวของ จีน นักออกแบบสาวดีกรีนักเรียนนอกที่มีความตั้งใจจะเปลี่ยน "บ้าน" ที่เต็มไปด้วยสิ่งของมากมายที่สะสมมาตั้งแต่ตอนเธอเด็กๆ ให้กลายเป็น office แบบ Minimal style โดยในเรื่องมีการอ้างอิงวิธีการจัดบ้านแบบ Kondo Marie คือการที่หยิบของชิ้นไหนขึ้นมาแล้วไม่ spark joy ก็ให้ขอบคุณแล้วทิ้งมันไปซะ
เรื่องราวดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องง่ายๆอย่างการจัดบ้านของจีนเกิดมีปัญหาขึ้นมาก็คือของที่เธอตั้งใจจะทิ้งนั้นบรรจุความทรงจำในช่งงชีวิตของเธอและคนรอบตัวเอาไว้มากมาย บางชิ้นเป็นของคนอื่นที่ยืมมา บางชิ้นเป็นของที่ตั้งใจจะให้เพื่อนแล้วไม่ได้ให้ บางชิ้นเป็นของแฟนเก่า
และตอนแรกเธอตั้งใจจะคืนของให้เพื่อนไม่กี่คน แต่ของแต่ละชิ้นก็ได้พาเธอไปเจอกับเรื่องราวทั้งใหม่และเก่ามากมาย...
ในสังคมไทยของเรา ขึ้นชื่อว่าเป็นสังคมแห่งการ "เก็บ" อยู่แล้ว ทุกงานสังคมมักจะมีของชำร่วย, ของที่ระลึกเสมอ ไม่ว่าจะเป็น งานแต่ง งานบวช งานทำบุญบ้าน ไม่เว้นแม้แต่งานศพ ก็ยังต้องมีของที่ระลึก
ของเหล่านี้ที่ได้มา อาจจะไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์อะไรเลย แต่เราก็ยังเลือกที่จะเก็บเอาไว้ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป
แต่ในวันที่บ้านเริ่มรก เชื่อว่าทุกท่านคงเคยมีความตั้งใจที่จะจัดบ้าน เคลียร์ของที่ไม่จำเป็นทิ้งไปบ้าง แต่ไอนู่นหยิบมาก็สำคัญ อันนี้หยิบมาก็เผื่อใช้ อันนั้นก็ของเพื่อนสนิทให้มาไม่กล้าทิ้ง จนสุดท้ายก็ได้แค่ย้ายจากที่หนึ่งไปวางอีกที่หนึ่ง...
ถ้าเราลองชะลอความคิด ความรู้สึกของเรา และมองเข้าไปให้ลึก สิ่งที่ทำให้ของรกบ้านแต่ละชิ้นยังมีคุณค่ากับเราคงไม่ใช่มูลค่าของตัวมัน แต่เป็นความทรงจำที่ถูกบรรจุอยู่ในสิ่งของต่างหาก
ของขวัญวันรับปริญญา บางชิ้นใช้ประโยชน์ไม่ได้ แต่ก็ยังเลือกที่จะเก็บไว้...
สมองของมนุษย์เราอาจบรรจุความทรงจำได้มากมาย และถ้าเราไม่สมองเสื่อมเสียก่อน ความทรงจำเหล่านั้นก็ยังอยู่ที่ไหนสักแห่งในสมองของเราไม่หายไปไหน
แต่เพราะเราไม่ใช่คอมพิวเตอร์ เราไม่สามารถระลึกถึงความทรงจำทั้งหมดได้ตลอดเวลา มนุษย์เราจึงชอบที่จะสะสมสิ่งของที่เป็นตัวแทนของช่วงเวลาต่างๆในชีวิตเพื่อเป็นเหมือนหมุดแห่งกาลเวลาที่ปักเอาไว้ให้เราหวนกลับไปนึกถึงได้อย่างแม่นยำและชัดเจน
ในเวลาปกติ ของแต่ละชิ้นก็อยู่ในที่ของมัน บางชิ้นถูกจัดวางอย่างสวยงามบนชั้นวาง บางชิ้นถูกเก็บไว้ในกล่องในห้องใต้บันได
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไปหยิบมันขึ้นมา ของแต่ละชิ้นจะทำหน้าที่ของมันเสมอ เราจะนึกหวนกลับไปถึงเหตุการณ์ ความทรงจำแห่งความสุข(หรือทุกข์) ที่ถูกบันทึกอยู่ในของชิ้นนั้นได้อย่างชัดเจน
สิ่งเหล่านี้ต่างหาก คือสิ่งที่ทำให้เรายัง spark joy กับของที่ดูไร้ราคาในเชิงเศรษศาสตร์ แต่มีมูลค่าในแง่ของความทรงจำ และทำให้การจัดหรือโล๊ะของทิ้งจากบ้านแต่ละทีนั้นยากเหลือเกิน...
ในโลกปัจจุบัน เทคโนโลยีทำให้มนุษย์สามารถจำลองได้แทบจะทุกอย่าง เราสามารถจำลองรูปสลักจากยุคเรอเนซองส์ได้อย่างสมบูรณ์ สร้างพระราชวังต้องห้ามขึ้นมาเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ได้
แต่สุดท้าย มนุษย์เราก็ยังคงให้ความสำคัญกับของต้นฉบับอยู่ดี ไม่ใช่เพราะความสมบูรณ์กว่า ไม่ใช่เพราะ ความสวยงามที่มากกว่า แต่เป็นเพราะของต้นฉบับนั้นมีความทรงจำจากมือของศิลปินผู้สร้างมันขึ้นมาบรรจุอยู่ต่างหาก
เราอาจสามารถจำลองรูปสลักเดวิดได้ แต่เราไม่มีทางหาความทรงจำจากมือของไมเคิล แองเจลโลได้อีก
เราอาจจำลองรูปวาดโมนาลิซาได้ แต่เราไม่มีทางหาความทรงจำจากรอยมือของดาวินชีได้อีกแล้ว
เพราะสิ่งสำคัญไม่ใช่มูลค่า แต่เป็นความทรงจำที่ถูกบันทึกอยู่ในตัวสิ่งของ...
ก่อนจากกันไป นายมิ้นท์ก็มีเคล็ดลับมาฝากผู้อ่านทุกท่านที่ตั้งใจจะจัดบ้านต้อนรับปีใหม่นะครับ
เคล็ดลับก็คือ อย่าคิดเยอะครับ ถึงแม้ความทรงจำมันจำสวยงาม แต่ถ้ามันไม่ได้สำคัญกับเราถึงขนาดขาดไม่ได้ก็ปล่อยให้มันลงถุงดำ และหายไปกับหลุมดำเถอะครับ อย่างน้อยบ้านแห่งความทรงจำของเราก็จะได้มีที่ว่างไว้สำหรับเปิดรับของแห่งความทรงจำชิ้นใหม่ในอนาคต...
สวัสดีปีใหม่ 2563 ขอให้เป็นปีที่ดีของทุกๆท่านครับ
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่รับชมและอ่านเรื่องเล่าสบายใกล้ตัวจาก "Mint Talk"
ถ้าถูกใจอย่าลืมกด Like แล้วไป Follow กันได้ที่
แล้วพบกันใหม่บทความหน้าครับ
หากท่านไหนมีเรื่องราวที่สนใจอยากให้นายมิ้นท์เก็บมาเล่าก็ comment บอกกันมาได้เลยนะครับ ^_^
โฆษณา