1 ม.ค. 2020 เวลา 03:58 • การศึกษา
...ทำอย่างไร ? ให้เป็นคนเรียนรู้ตลอดชีวิต…
สวัสดีปีใหม่ 2020 ทุกท่านชาว Blockdit น่ะครับ ปีนี้ถือเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงที่คาดเดาอะไรได้ยากเนื่องด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด การเปลี่ยนแปลงทางสังคม ( สังคมผู้สูงอายุ ) และการค้าที่มีอย่างเสรี และอีกต่างๆมากมาย
ทำให้มนุษย์อย่างเราถ้าต้องการที่จะอยู่รอดในยุคนี้ก็ควรต้องมีทักษะหนึ่งที่สำคัญเลยนั่นก็คือ “ทักษะการเรียนรู้” แต่ไม่ใช่แค่เพียงระยะนึงเท่านั้นแต่มันเป็นการที่เราจะต้อง “เรียนรู้ตลอดชีวิต” วันนี้ผมจะมาบอกว่าทำอย่างไร ให้เป็นคนที่เรียนรู้ตลอดชีวิต มาให้ผู้อ่านที่น่ารักนำไปปรับใช้ในชีวิตจริงกันน่ะครับ
"การเรียนรู้ตลอดชีวิต" หรือ LifeLong Learning เป็นคำที่เราคุ้นหูกันในยุคนี้ เพราะเราอยู่ในยุคที่ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งความรู้เดิมที่เรามีนั้นอาจจะไม่สามารถนำพาเราไปข้างหน้าได้อีกต่อไป
ดังนั้นเราต้องมีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า “ทักษะแห่งอนาคต” หรือ Skill of the future เรียกง่ายๆว่า Metaskill ซึ่งจะเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดในยุคปัจจุบัน แน่นอนว่าถ้าเราไม่มีทักษะ Metaskill และ Growth mindset เราเหนื่อยแน่นอนครับ
แล้วเราจะทำอย่างไรหละ ?
มีเนื้อหานึงกล่าวถึงเรื่องนี้อย่างน่าสนใจมาก ได้บอกไว้ว่า ภายในปี 2022 คนที่อยู่ในตลาดแรงงานทั้งหมดจะต้องใช้เวลาเฉลี่ย 101 วัน ในการเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ แต่การเรียนรู้นั้นไม่ได้หมายความว่าจะเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด เพียงแต่ว่าเอาความรู้เดิมที่เรามี มาต่อยอดกับความรู้ในปัจจุบัน เพื่อให้สามารถที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในยุคปัจจุบัน มีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้เรียนอยู่ในระบบการศึกษาแบบเดิม แต่ยังคงประสบผลสำเร็จในชีวิต ยกตัวอย่างเช่น Steve Job ผู้ก่อต้องแอปเปิ้ล , Bill Gates เจ้าของ Microsoft , Henry Ford เจ้าของบริษัทรถยนต์ Ford และอีกหลายท่านที่ยังไม่ได้เอ่ยนาม จากศึกษาของบุคคลเหล่านี้ พบว่า มีสิ่งนึงที่เหมือนกัน คือ Self-directed learners คือ ความสามรถในการเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ได้ด้วยตนเอง
ซึ่งทุกวันนี้มีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยการศึกษาแบบสมัยก่อนจะ
คลอบคลุมแค่ส่วนนึงเท่านั้น แต่ในยุคปัจจุบันนี้ อาจจะไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว
มีบทความชิ้นนึงที่บอกว่า “ทันที่มหาวิทยาลัยพิมพ์ใบปริญญาให้กับเรา
เรื่องที่เราได้เรียนมาก็ล้าสมัยไปซะแล้ว” ในความเป็นจริงคุณผู้อ่านคิดว่าไงกันครับ ? สำหรับผมนั้นคิดว่าแค่ส่วนนึงแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะ เวลาที่เราศึกษาหาความรู้ใหม่ๆก็ไม่ใช่เป็นสิ่งใหม่ทั้งหมด เพียงแต่เอาสิ่งใหม่มาต่อ
ยอดความรู้ที่เรามีอยู่ ให้เป็นปัจจุบันมากกว่า แต่ในขณะเดียวกัน เราจะหยุดการเรียนรู้ไม่ได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราจะอยู่รอดได้ในยุคนี้คือ เราต้องเป็นเจ้าของกระบวนการเรียนรู้ของตนเอง การที่คุณจะเป็น Self-directed learners ได้นั้น คุณต้องควบคุมตัวเองให้สามารถที่จะเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ อย่าปิดกั้นความคิดของตนเอง เปิดรับสิ่งใหม่ๆเข้ามาเพื่อให้เรามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ในกระบวนการ Self-directed learners มีหลักการและวิธีการ ดังนี้
l. เรียนได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องให้ใครมาเคี่ยวเข็น
ll. ต้องวิเคราะห์ได้ว่าตนเองเองต้องการเรียนอะไร เรื่องอะไร
lll. มีเป้าหมายที่ชัดเจน
lV. ต้องรู้ว่ามีทรัพยากรอะไรที่เราสามารถนำมาใช้ได้ เช่น เรื่องของต้นทุนและค่าใช่จ่าย
V. เลือกวิธีการในการเรียน อย่างเช่น การเข้าคอล์สสัมนา อ่านหนังสือ ฟัง Podcast เป็นต้น
VI. ต้องประเมินผลได้ (อันนี้สำคัญมาก) เพราะในการจะทำสิ่งใด ถ้ารู้ว่าสิ่งนั้นประเมินผลไม่ได้ ก็ควรที่จะตัดทิ้งไป เพราะอะไรที่เราวัดไม่ได้สิ่งนั้นก็จะบริหารและจัดการไม่ได้เช่นกัน
จริงๆแล้วการเรียนรู้เองก็ไม่ได้ต่างจากการเรียนของมหาวิทยาลัยหรือในโรงเรียนเท่าไรนัก เพียงแต่เราอาจจะคิดไปเองว่าการเรียนนั้นจะต้องมีคนที่มีความรู้มาป้อนข้อมูลให้ เพราะในความเป็นจริงมหาวิทยาลัยคือการสร้างบริบทที่ทำให้ผู้เรียนสามารถดึงเอาความรู้ออกมาใช้ได้มากที่สุด
ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้คนที่มี Self-directed learners นั้นแตกต่างจากคนทั่วไป คือคนกลุ่มนี้สามารถที่จะสร้างบริบทการเรียนรู้ขึ้นมาเองได้จากการศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง โดยที่ไม่ต้องเพิ่งการเรียนรู้ในระบบหรือในมหาวิทยาลัยแต่เพียงอย่างเดียว
ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่าการเรียนในระบบและในมหาวิทยาลัยนั้นไม่ดีน่ะครับ เพียงแต่ว่าเราต้องมีการเรียนรู้ที่มากขึ้น ไม่ใช่แค่ว่าจบในนั้นแล้วก็จะไม่มีการศึกษาหรือเรียนรู้อีกเลย
และวิธีการที่ดีที่สุด ที่จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในตัวของเราให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้ นั่นก็คือ การสร้าง Growth mindset คือ การอยากที่จะเรียนรู้อยู่ตลอด มีความเชื่อว่าทุกอย่างมีการพัฒนาได้ ซึ่งเราไม่รู้สิ่งใหนเราก็ต้องเรียนในสิ่งนั้น ซึ่งจะแตกต่างกับ Fixed mindset เพราะคนที่มี Fixed mindset จะเป็นคนที่ชอบปิดกั้นความคิดของตนเองไม่เชื่อว่าตนเองจะเรียนเรื่องนี้ได้ หรือทำเรื่องนี้ได้ คิดว่าโลกกำหนดความคิดแบบนี้ขึ้นมาให้เฉพาะคนที่เก่งและฉลาดเท่านั้น
เพราะฉะนั้นในปี 2020 นี้ ผู้อ่านทุกท่านจงเชื่อมั่นในตนเองเปลี่ยนแปลงตนเองให้เป็นคนที่มี Growth mindset อยู่เสมอน่ะครับ
อย่าลืม ! กดไลค์ กดแชร์ เป็น กำลังใจให้เพจ ก้าว ต่อ ไป ด้วยน่ะครับ
ขอบคุณผู้อ่านทุกๆท่านครับ
...ก้าว ต่อ ไป...
Reference : จาหหนังสือ SUPER PRODUCTIVE สำนักพิมพ์ KOOB , https://thestandard.co/ , https://missiontothemoon.co/how-we-can-become-lifelong-learning/
โฆษณา