1 ม.ค. 2020 เวลา 09:39 • กีฬา
#จาดอนซานโช่: อายุน้อย 100 ล้าน
“เฮ้ ไอ้หนู เอ็งต้องการอะไรจากฟุตบอล?” หลุยส์ แลงคาสเตอร์ โค้ชทีมอาคาเดมี่ของวัตฟอร์ด ยู-15 เอ่ยถามลูกทีมของเขา “ผมต้องการเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ และเล่นให้กับสโมสรระดับท็อปของยุโรป และผมต้องการให้ครอบครัวภูมิใจในตัวผม” เด็กหนุ่มวัยรุ่นอายุเพียง 14 ปีตอบอย่างไม่ลังเล
จาดอน ซานโช ในวัยเพียง 19 ปี เขาประสบความสำเร็จทั้งหมดกับสิ่งที่ได้เคยพูดไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้วกับโค้ชของเขา เขาคือเด็กที่เกิดในปี 2000 คนแรกที่ติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ เป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในบุนเดสลีกาได้ 15 ประตูแรก เป็นหนึ่งในนักเตะที่ทำแอสซิสได้คงเส้นคงวามากที่สุดคนหนึ่งในยุโรป ถึงแม้ว่าโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะไม่ใช่ทีมระดับ A+ ของยุโรป แต่ทีมนี้มีเกียรติประวัติเคยได้แชมป์บุนเดสลีกาและยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกมาแล้ว และแน่นอน เขาคือหนึ่งในความภูมิใจของครอบครัวซานโช
ซานโช เติบโตมาในย่านเคนนิงตัน (Kennington) ลอนดอนตอนใต้ เขาเป็นเพื่อนในวัยเด็กกับ รีสส์ นีลสัน ของอาร์เซน่อล และเอียน คาร์โล โพเวดา ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นเพื่อนร่วมทีมแมนฯซิตี้ เขาถูกแมวมองของวัตฟอร์ดพบตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ซึ่งการมาซ้อมที่อคาเดมี่ของทีม เขาต้องเดินทางเป็นระยะทาง 23 ไมล์ จากลอนดอนใต้มาทางตะวันตก (วัตฟอร์ดอยู่ชานกรุงลอนดอนทางตะวันตก) เพื่อมาซ้อม 3 วันต่อสัปดาห์ จนกระทั้งเขาอายุได้ 11 ปี ซึ่งโตพอที่จะเข้าโรงเรียนแฮร์ฟิลด์ อคาเดมี่ (Harefield Academy) ในอักซ์บริดจ์ (Uxbridge) ลอนดอนตะวันตก ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เป็นพาร์ทเนอร์กับสโมสรวัตฟอร์ด (หากชื่อสถานที่เขียนเป็นภาษาไทยผิดต้องขออภัยด้วยครับ)
การเดินทางจากเคนนิงตันมาอักซ์บริดจ์ใช้เวลานานเกินที่จะทำได้ทุกวัน ทำให้เขาต้องย้ายออกจากครอบครัวที่เคนนิงตัน มาอยู่กับป้าที่นอร์ทโฮล์ท (Northolt) โดยในตอนแรกเขาต้องเดินทางมาโรงเรียนโดยนั่งแท็กซี่เป็นระยะทาง 14 ไมล์ทุกวัน จนกระทั่งหอพักของโรงเรียนเปิดทำการ เขาจึงย้ายเข้ามาเป็นนักเรียนประจำที่แฮร์ฟิลด์
ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ กิจวัตรประจำวันของเขาจะวนเวียนอยู่กับฟุตบอล ตอนเช้าเขาต้องขาดเรียนเพื่อไปซ้อมฟุตบอลกับอคาเดมี่ของสโมสร จากนั้นกลับมาโรงเรียนในเวลากลางวัน และเมื่อเด็กคนอื่นๆ กลับบ้าน เขาต้องเรียนชดเชยสำหรับเวลาเช้าที่ขาดเรียนก่อนที่จะไปซ้อมฟุตบอลอีกครั้งในเวลาเย็น จากนั้นจึงกลับมาหอพัก อาบน้ำ นอน เป็นกิจวัตรอยู่อย่างนี้ตลอด 5 วันในหนึ่งสัปดาห์
ซานโชถึงแม้จะไม่ใช่ตัวก่อกวนในห้องเรียน แต่ในระหว่างนั่งเรียนเขาก็มักจะสนใจแต่เรื่องฟุตบอล มีครั้งหนึ่งคุณครูเห็นเขาดูคลิปฟุตบอลในยูทูป เธอกล่าวว่า “จาดอน ปิดยูทูปของเธอเดี๋ยวนี้แล้วตั้งใจทำงานของเธอด้วย” ชานโซ่ก็ทำตาม แต่เมื่อครูหันหลังกลับไป เขาก็เปิดดูคลิปของโรนัลดินโญ่ต่อ
ในวัย 13 ปี ซานโช่เข้าร่วมทีม ยู-15 ของวัตฟอร์ด ซึ่งต้องแบกอายุของเพื่อนร่วมทีมและคู่ต่อสู้ แต่มันไม่ใช่ปัญหา เขาเริ่มฉายแสงออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะในนัดแข่งกับอาร์เซน่อลที่เฮล เอ็น (Hale End เป็นสนามเหย้าของอาร์เซน่อลอคาเดมี่) เขาลากจากครึ่งสนามผ่าน 2 กองหลังของอาร์เซน่อล และยิงเสียบสามเหลี่ยมจากระยะ 35 หลา
และในนัดแข่งกับโคลเชสเตอร์ เขาทำประตูโดยใช้วิธีการหลอกแบบเดียวกับที่เปเล่ใช้ แต่ต่างตรงที่เปเล่ยิงออก แต่ชานโซ่ยิงเข้าประตูแบบโล่งๆ (นี่คือคลิปของเปเล่ที่ซานโช่ใช้ทริกการหลอกแบบเดียวกัน https://www.youtube.com/watch?v=a_QSSafWZB0)
เมื่อเขาอายุได้ 14 ปี เขาก็ได้เลื่อนไปเล่นกับทีม ยู-18 ของวัตฟอร์ด
แมนฯซิตี้ เริ่มสนใจในตัวซานโช่ตั้งแต่เขาอายุได้ 13 ปี จนกระทั่งเดือนมีนาคม 2015 เมื่อซานโช่อายุได้ 15 ปีเต็ม แมนฯซิตี้ก็มาคว้าตัวซานโช่ไปอยู่ด้วยภายใต้กฎของอคาเดมี่ประเทศอังกฤษในการเซ็นต์สัญญากับนักเตะอายุไม่เกิน 18 ปี ทำให้เรือใบสีฟ้าจ่ายค่าตัวซานโช่เริ่มต้นเพียง 66,000 ปอนด์เท่านั้น และซานโช่ก็ต้องจากครอบครัวที่ลอนดอนขึ้นเหนือไปอยู่แมนเชสเตอร์
แมวมองของซิตี้มีความเห็นในตัวซานโช่แตกต่างกันไป บ้างก็ว่าเขาควรมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่านี้ บ้างก็ว่าเขามีทักษะการเลี้ยงหลบคู่แข่งเหมือนกับ “อ้วนซ่า” พอล แกสคอยน์ อดีตตำนานทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเอาชนะคู่แข่งด้วยการเคลื่อนตัวของร่างกาย การกลับตัว และความฉลาดของเขา ซึ่งแกสคอยน์ทำมันได้โดยที่ตัวเขาเองไม่มีความเร็วด้วยซ้ำ แต่ซานโช่นั้นมีทั้งทักษะของแกสคอยน์และความเร็ว ซึ่งถือเป็นโบนัสของเจ้าตัว
ณ สนามเซนต์ แอนดรูว์ ช่วงเย็นวันจันทร์กลางฤดูใบไม้ผลิ ซานโช่ประเดิมสนามให้กับ ยู-18 ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวกลาง และเขาไม่ทำให้ทีมผิดหวังเมื่อยิงคนเดียว 5 ประตูในการถล่มเจ้าบ้านเบอร์มิงแฮมไป 8-3 ก่อนที่ต่อมาเขาจะถูกย้ายไปเล่นเป็นปีกซ้ายให้กับทีม
ฤดูร้อน ปี 2017 แมนฯซิตี้เสนอสัญญาอาชีพฉบับแรกให้กับเขาด้วยค่าแรง 30,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และ เป็ป กวาดิโอล่า พร้อมที่จะพาเขาออกทัวร์ปรี-ซีซั่นกับทีมชุดใหญ่ด้วย แต่ซานโช่คิดว่า โอกาสที่เขาจะแทรกตัวเข้ามาอยู่ในทีมชุดแรกของซิตี้ท่ามกลางนักเตะระดับโลกค่าตัวแพงมีน้อยเต็มที แต่เขาต้องการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอทำให้เขาตอบปฏิเสธซิตี้ และรับข้อเสนอของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์
อายุ 11 จากบ้านไปอยู่วัตฟอร์ด อายุ 15 ขึ้นเหนือไปแมนเชสเตอร์ อายุ 17 ข้ามช่องแคบอังกฤษมาอยู่เยอรมันนี
ด้วยวัยเพียง 17 ปี ซานโช่ถูกส่งลงไปเล่นให้กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ II ในเรกิโอนาลลีกา โซนตะวันตก ซึ่งเขาได้เล่นเพียง 3 นัดเท่านั้น เนื่องจากฝีเท้าเก่งเกินอายุ จึงถูกดึงกลับมาสู่ทีมชุดใหญ่ในบุนเดสลีกา ซึ่งโค้ชทีมชุด II ของดอร์ทมุนด์พูดถึงซานโช่ไว้ว่า “สิ่งที่ดีในตัวซานโช่คือ เขาไม่ได้คิดว่าเขาเหนือกว่าคนอื่นๆในทีม เขาแค่ฝึกซ้อมและทำงานอย่างหนักแค่นั้น”
ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคมปี 2017 ซานโช่ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีไปแข่ง ยู-17 ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เขามีส่วนถึง 10 ประตูจากทั้งหมด 15 ประตูที่ทีมทำได้ แต่ก็ไม่เพียงพอต่อการคว้าแชมป์เมื่อทีมชาติอังกฤษพ่ายให้กับสเปนในรอบชิงชนะเลิศด้วยการดวลจุดโทษ แต่ก็ยังผ่านเข้าไปเล่น ยู-17 ชิงแชมป์โลกที่อินเดียในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน
ตุลาคม ปี 2017 ซานโช่เดินทางร่วมกับทีมชาติอังกฤษไปแข่ง ยู-17 ชิงแชมป์โลกที่อินเดีย แต่ก็ได้ลงสนามเพียงรอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น เมื่อต้นสังกัดในเยอรมันเรียกตัวเขากลับมารับใช้สโมสร ทำให้เขาพลาดการล้างแค้นสเปนในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งทีมชาติอังกฤษถล่มสเปนไป 5-2 คว้าแชมป์โลกไปอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งก่อนลงสนามในรอบชิงชนะเลิศ ซานโช่ได้ส่งวีดีโอไปให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมด้วย
ถึงแม้เวลานี้ จาดอน ซานโช่ ได้กลายเป็นดาวรุ่งประดับวงการลูกหนังยุโรปและของโลกไปแล้ว แต่เขาก็ยังทำตัวติดดินอยู่เสมอเช่นเดียวกับเด็กคนหนึ่งที่รักฟุตบอลจากเคนนิงตัน เขามักจะเซ็นต์ชื่อลงในเสื้อและเอาไปแจกให้กับเพื่อนเก่าในวัยเด็ก และเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมาเขายังไปเยี่ยมโรงเรียนประถมที่เขาเคยเรียนและได้พูดคุยเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนรุ่นปัจจุบัน
หลังจบทัวร์นาเม้นต์เนชั่นลีกรอบชิงชนะเลิศที่โปรตุเกสในเดือนมิถุนายน เขาตรงดิ่งขึ้นแท็กซี่ไปอีสลิงตัน (Islington) นำเสื้อดอร์ทมุนด์พร้อมลายเซ็นต์ไปเซอร์ไพรซ์เพื่อนเก่าที่คอยช่วยเหลือเขาสมัยที่ยังอยู่อคาเดมี่ของวัตฟอร์ดด้วยกัน
แต่ปัจจุบัน เขาแสดงความต้องการที่จะออกจากดอร์ทมุนด์ในตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคมนี้ หลังจากมีปัญหาเรื่องระเบียบวินัย เพราะกลับสโมสรช้าหลังจากลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษแล้ว และสโมสรก็ได้ตอบรับคำร้องขอของเขา และยังหาตัวตายตัวแทนด้วยการเซ็นต์สัญญากับ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ หัวหอกดาวรุ่งชาวนอร์เวย์มาร่วมทีมตัดหน้ายักษ์ใหญ่หลายทีมในยุโรป
การมาเยอรมันนีของซานโช่ไม่ใช่เรื่องผิดพลาด หากเขายังอยู่แมนฯซิตี้ เขาจะมีโอกาสได้ลงเล่นมากอย่างทุกวันนี้หรือ? เขาจะติดทีมชาติอังกฤษอย่างทุกวันนี้หรือไม่? ลองเปรียบเทียบกับ ฟิล โฟเด้น เพื่อนร่วมรุ่นของเขาที่แมนฯซิตี้ก็ได้ แม้แต่ รีสส์ นีลสัน เพื่อนที่เคนนิงตันยังตัดสินใจมาเล่นที่ฮอฟเฟนไฮม์ในฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยสัญญายืมตัวเลย ดังนั้น การเดินทางบทใหม่ของซานโช่คงต้องเริ่มต้นอีกครั้ง แต่ปัญหามีอยู่อย่างเดียวคือ ค่าตัวที่เสือเหลืองแห่งเยอรมันนีต้องการคือไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์
#บ่นบ้าภาษาบอล ขอวิเคราะห์ถึงทีมที่มีโอกาสที่จะได้ตัวซานโช่ไปในเดือนมกราคมนี้ เมื่อดูจากทีมที่มีโอกาสคว้าตัวซานโช่ได้ในยุโรปคงมีเพียงไม่กี่ทีม
เริ่มจากต้นสังกัดเดิม #แมนเชสเตอร์ซิตี้ เนื่องจากเรือใบสีฟ้ามีออปชั่นในการซื้อกลับหากเสือเหลืองตอบรับข้อเสนอของทีมใดทีมหนึ่งที่มาขอซื้อซานโช่ ก็ต้องตอบรับข้อเสนอของซิตี้ในราคาที่เท่ากันด้วย แต่ก่อนหน้านี้ผู้บริหารของซิตี้ได้ออกมาบอกแล้วว่าจะไม่ซื้อซานโช่กลับ อาจเป็นเพราะความประพฤติของเจ้าตัวก่อนย้ายไปดอร์ทมุนด์ที่ไม่ยอมมาซ้อมเพื่อบีบให้สโมสรขายเขาให้กับเสือเหลืองก็อาจเป็นได้ และอีกอย่าง ขุมกำลังเกมรุกของทีมก็ดีอยู่แล้ว สิ่งที่ทีมต้องการคือนักเตะเกมรับที่ผลัดกันเจ็บมาตลอดมากกว่า ดังนั้น แอดมินคิดว่าซิตี้ไม่น่าซื้อซานโช่กลับ
ต่อมาคือเพื่อนร่วมเมืองของซิตี้คือ #แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ส่งสัญญาณว่าสนใจซานโช่อยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ยูไนเต็ดต้องการคือหน้าเป้ามากกว่า เพราะทุกวันนี้ก็สลับมาคัส แรชฟอร์ดกับอองโตนี่ มาร์กซิยาลผลัดกันยืนหน้าเป้าอยู่ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ตำแหน่งถนัดของ 2 คนนี้ ส่วนตัวรุกนี่ก็แทบจะเดินชนกันเพราะนอกจาก 2 คนที่กล่าวมาแล้ว ยังมี ดาเนี่ยล เจมส์, อันเดรส เปไรร่า, เมสัน กรีนวู้ด, เจสซี่ ลินการ์ด และฮวน มาต้า ถ้าเอาซานโช่มาอีกจะรวมเป็น 8 คนและแรชฟอร์ดกับมาร์กซิยาลคงต้องสลับกันเล่นหน้าเป้าเหมือนเดิม แต่ก็ไม่แน่เพราะเออร์ลิง ฮาแลนด์ ก็วืดไปแล้ว แต่ลึกๆ แล้วแอดมินคิดว่าแมนฯยูฯไม่น่าจะซื้อในเดือนมกราคมนี้
ทีมต่อมา #เชลซี หลังจากอุทธรณ์ผ่านกรณีห้ามซื้อขายนักเตะ เสี่ยหมีก็น่าจะมีงบให้แลมพาร์ดใช้สอยอยู่พอสมควร ก่อนหน้านี้เดอะซันตีข่าวว่าตกลงกันได้ที่ 120 ล้านปอนด์ แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไร แนวรุกเชลซีที่ไว้ใจได้น่าจะมีเพียงวิลเลี่ยน, แทมมี่ อับราฮัม, คริสเตียน พูลิซิส, เมสัน เมาท์ ส่วนเปโดร, รอส บาร์คลี่ย์, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และมิชี่ บัตซูอายี่ ยังไว้ใจไม่ได้ หากมกราคมนี้สามารถปล่อยชิรูด์กับเปโดรออกจากทีมได้ อาจได้เห็นซานโช่มาใส่เสื้อสีน้ำเงินโลดแล่นอยู่ในลอนดอนก็เป็นได้ เพราะจะทำให้ซานโช่กลับมาอยู่ใกล้ครอบครัวอีกครั้ง และที่สำคัญเขาเป็นแฟนตัวยงของเชลซี ส่วนเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับเสี่ย!!!
#ลิเวอร์พูล เพิ่งจะได้ตัวทาคุมิ มินามิโนะมาร่วมทีม ส่วน 3 ประสานในแดนหน้าอย่างโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโย มาเน่ และโมฮัมเม็ด ซาลาห์ ประสานกันได้ลงตัวดีอยู่แล้ว ของอะไรที่มันดีอยู่แล้วก็ไม่ต้องไปเปลี่ยน และการเอาซานโช่มาเพื่อเป็นตัวสำรองก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แอดมินว่าลิเวอร์พูลคงไม่ซื้อแน่นอน
ส่วน #อาร์เซน่อล กับ #สเปอร์ส ถึงแม้จะมีทีมที่ยังไม่ลงตัวนักและมีปัญหาอยู่บ้าง โดยเพิ่งจะเปลี่ยนผู้จัดการทีมไปในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกทั้งสองทีม แต่แอดมินไม่คิดว่าจะมีบิ๊กดีลในเดือนมกราคมจากทั้ง 2 ทีมนี้ เพราะทั้ง 2 พ่อลูกตระกูลโครเอนเก้ กับดาเนี่ยล เลวี่ ค่อนข้างจะมัธยัสถ์พอสมควร
ส่วนทีมนอกเกาะอังกฤษที่สนใจในตัวซานโช่มีเพียง 2 ทีมคือ 2 ยอดทีมจากสเปน
“เจ้าบุญทุ่ม” #บาร์เซโลน่า คือ 1 ใน 2 ทีมที่ซานโช่มักพูดถึงในวัยเด็กบ่อยๆ ว่าอยากจะไปเล่นด้วย (อีกทีมหนึ่งก็คือรีล มาดริด) ซึ่งทีมมี 3 ประสานในแนวรุกอย่างไลโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ และอองตวน กรีซมันน์ ลงสนามร่วมกันเป็นประจำอยู่แล้ว โดยมี อุสมัน เดมเบเล่ กับ อันซู ฟาติ เป็นอะไหล่สำรอง หากซานโช่ย้ายเข้ามาจริงๆ อาจต้องปรับเป็นเล่น 4-2-3-1 ให้ทั้งเมสซี่ กรีซมันน์ และซานโช่ เล่นร่วมกันอยู่ข้างหลังซัวเรซ ก็มีความเป็นไปได้ แต่ติดตรงที่เมสซี่อยากให้เนย์มาร์กลับมามากกว่า นี่สิคือปัญหา แต่ผู้บริหารก็ได้ออกมาบอกแล้วว่า มกราคมนี้จะไม่ซื้อเนย์มาร์แน่นอนหลังจากพลาดการคว้าตัวมาในช่วงซัมเมอร์ หากไม่ทุ่มซื้อเนย์มาร์ก็อาจจะไม่ทุ่มซื้อซานโช่ด้วย แต่ถ้าต่อรองค่าตัวได้ไม่ถึง 100 ล้านปอนด์ก็ไม่แน่ เพราะถูกกว่าเนย์มาร์ครึ่งต่อครึ่ง อันนี้ต้องรอดูกันต่อไป
ส่วนทีมสุดท้าย “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด ของซีเนอดีน ซีดาน ที่ยังหาทีมโดยเฉพาะในแนวรุกที่ลงตัวไม่ได้ มีเพียงคาริม เบนเซม่า เพียงคนเดียวที่ทำได้ดีอย่างสม่ำเสมอในฤดูกาลนี้ เอเด็น อาซาร์ ก็ยังไม่พีคเหมือนตอนอยู่เชลซี เกเร็ธ เบล ก็มีปัญหากับซีดาน และมาดริดก็ต้องการระบายออกเพื่อลดค่าใช้จ่าย ส่วนคนอื่นๆ ทั้งเจมส์ โรดริเกซ, วินิซิอุส จูเนียร์, โรดริโก้, อิสโก้, ลูก้า โจวิช และบราฮิม ดิอ๊าซ ก็ผลัดกันลงและไม่สามารถยึดตัวจริงให้กับตนเองได้ ลาลีกาผ่านมา 18 เกม จากรายชื่อที่กล่าวมามีเพียงเบนเซม่าที่ลงตัวจริงไป 17 เกม ที่เหลือไม่มีใครออกสตาร์ทตัวจริงเกิน 10 เกมแม้แต่คนเดียว บางทีซานโช่อาจจะเหมาะกับรีลมาดริดในเวลานี้ก็เป็นได้ แต่ฟลอเรนติโน่ เปเรซ อาจต้องการขายเบล กับ อิสโก้ ออกไปก่อนเพื่อนำเงินมาซื้อซานโช่ก็เป็นได้
หรือทางเลือกสุดท้าย หากมกราคมนี้ไม่มีใครซื้อ ซานโช่คงต้องเล่นอยู่ในเยอรมันนีอีกครึ่งฤดูกาลเป็นอย่างน้อย รอจนถึงช่วงซัมเมอร์ซึ่งเป็นช่วงที่หลายๆ ทีมมักจะสร้างทีมเพื่อรอรับฤดูกาลใหม่ ซึ่งคงไม่นานเกินรอสำหรับเขา
สรุปตามความคิดเห็นของแอดมิน คิดว่าทีมที่ซานโช่มีโอกาสเล่นด้วยในครึ่งฤดูกาลหลังของปีนี้ เรียงลำดับจากมากไปน้อย คือ
1.อยู่ดอร์ทมุนด์เหมือนเดิม 40%
2.เชลซี 25%
3.รีล มาดริด 20%
4.บาร์เซโลน่า 10% และ
5.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5%
ส่วนทีมอื่นๆ 0%
ซานโช่จะไปอยู่ทีมไหน ไม่เกิน 1 เดือน รู้กัน...
#จาดอนซานโช่
สุดท้ายนี้ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2563 แอดมินขออวยพรให้แฟนเพจทุกท่าน ประสบพบกับปีที่ดียิ่งๆ กว่าปีที่ผ่านมา ใครทำอะไรไม่สำเร็จก็ขอให้สำเร็จในปีนี้ มีความสุข สมหวัง กับทุกๆ สิ่งที่ปรารถนา โรคร้าย ความเจ็บป่วยอย่าได้มาแผ้วพาน สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยกันทุกๆ คนครับ
..........สวัสดีปีใหม่ 2563 ครับ.......................
นอกจาก Blockdit แล้ว สามารถติดตามได้จาก Facebook Fanpage อีกหนึ่งช่องทาง https://www.facebook.com/bonbapasaball/
และหากท่านใดเห็นว่าบทความยาวเกินไป ไม่มีเวลาอ่านสามารถติดตามฟังได้ที่ “บ่น บ้า ภาษาบอล podcast” ทางแอพพลิเคชั่น Anchor , Spotify , Apple Podcasts , Google Podcasts , Breaker , Pocket Casts และ RadioPublic ขอบคุณครับ
โฆษณา