6 ม.ค. 2020 เวลา 04:00 • สุขภาพ
เครียดจนป่วย เพราะร่างกายเข้าโหมดฉุกเฉิน
 
ตอนที่2 ระบบฉุกเฉินซิมพาเทติค
 
หมอยาท่าBD
ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมรวมทั้งคนร่างกายก็จะมีระบบการทำงานคล้ายๆกัน เมื่อร่างกายมีความเครียดเกิดขึ้น
ดังที่ได้บอกไปแล้วว่าเมื่อถูกไล่ล่าเป็นอาหารเมื่ออันตรายผ่านพ้นไประบบก็จะถูกปิดการทำงานลง
อวัยวะทุกส่วนในร่างกายก็จะพร้อมใจกันทำงาน ในแนวพ้นภัยเท่านั้น
ผมจะหม่ำๆ
หลอดเลือดแดงตรึงตัว
ระบบการลำเลียงมีความรุนแรงมากกว่าเดิม
สิ่งแรกที่เราจะรู้สึกเมื่อเรากลัวหรือโกรธนั้นคือหัวใจเราเต้นเร็วและแรง ทำให้เลือดที่ออกจากหัวใจในแต่ละหน้าที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
สมองสั่งการรับรู้ว่า จะสู้หรือจะหนี และในการที่จะสู้หรือจะหนีนั้นกล้ามเนื้อก็ต้องใช้ กำลังอย่างมาก
ซึ่งกล้ามเนื้อก็ต้องการน้ำตาลและออกซิเจนในเลือดไปหล่อเลี้ยงเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความดันเลือดสูงขึ้น
สาเหตุที่ความดันเลือดสูงขึ้น มีปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่เกิดจากรูปฉุกเฉินนั่นคือ
ระบบนี้ทำให้หลอดเลือดจำนวนมากในร่างกายหดตัวลง เนื่องจาก การที่ต้องการให้มีแรงดันสูงนั้นหลอดเลือดที่มีความยืดหยุ่นจะเป็นอุปสรรคอย่างมาก
ร่างกายยอมไม่ได้ที่จะให้เป็นเช่นนั้น ซิมพาเทติกจากสมองจึงสั่งให้หลอดเลือดตรึงตัวกันไว้ต้านกับแรงดันเลือดที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้เลือดไหลแรงและเร็วขึ้น
1
ลักษณะคล้ายๆกับการรดน้ำต้นไม้ ต้องการให้น้ำแรงขึ้นเราก็บินสายสายยางให้มันแบนและตรงนั้นก็จะแรงขึ้น
ผลเสียคือเมื่อเลือดที่ไหลแรงขึ้นนี้กระแทกผนังหลอดเลือดอย่างแรง ผนังหลอดเลือดจึงถูกกระแทกด้วยตะกอนไขมันและโปรตีนที่อยู่ในเลือด
ก็จะเกิดเป็นรอยแยกเล็กๆอยู่บนผนังเส้นเลือด ซึ่งถ้าหลอดเลือดมันแตกมากเกินไป ร่างกายก็จะซ่อมแซมไม่ได้ จึงเป็นแหล่งที่สะสมของเซลล์ไขมันเกล็ดเลือดและเม็ดเลือดขาว
นำไปสู่ภาวะเส้นเลือดอุดตันได้ และ อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจขาดเลือดได้ และถ้าเป็นที่เส้นเลือดที่ไปสู่สมองก็อาจไปสู่ภาวะเส้นเลือดสมองตีบจนถึงแตกได้
พลังงานทำงานเพี้ยน
ระบบพลังงานเพี้ยน
เมื่อเราอยู่ในสภาวะฉุกเฉิน ร่างกายของเราต้องการพลังงานเพื่อนำมาใช้ขึ้นมากกว่าภาวะปกติ
เรานำพลังงานสะสม ออกมาเป็นน้ำตาล ระบบซิมพาเทติกจะทำให้ฮอร์โมนอินซูลินหยุดทำงานและลดปริมาณลง
แต่ในทางตรงกันข้าม ฮอร์โมนที่จะหลั่งออกมาในภาวะฉุกเฉินจะกลายเป็นกลูโคคอร์ติคอยด์ และอะดรินาลีนจากต่อมหมวกไตแทน
มีการเร่งให้สลายไขมันและไกลโคเจนออกมาใช้เป็นพลังงาน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดและไขมันสูงขึ้นอย่างรวดเร็วสูงเกินระดับปลอดภัยของสภาวะปกติ
ร่างกายอาจจต้องสลายเอากล้ามเนื้อออกมาแล้วเปลี่ยนเป็นน้ำตาลเพื่อนำไปเลี้ยงสมองเรียกได้ว่ากินเนื้อตัวเองเพื่อให้รอดนั่นเอง(สังเกตุว่าคนเครียดมากๆจะผอมไวมาก)
ผลเสียเมื่อมีน้ำตาลและไขมันในเลือดสูงมากเกินไป ก็จะไปทำลายเส้นประสาท ผนังหลอดเลือด คอเลสเตอรอล โปรตีน Collagen
นอกจากนี้ อาจทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินร่างกาย ไม่ยอมตอบสนองต่ออินซูลินทำให้คนที่เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้วกลายเป็นเบาหวานได้
หยุดงานดีกว่า
กำลังเสริมแย่ลง
ระบบภูมิคุ้มกันก็เป็นระบบที่ต้องเสียสละ
โฮโมนที่ออกมาจากต่อมหมวกไตจะเข้าไปยับยั้งการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวใหม่ๆ ที่ออกมาจากต่อมไทมัสและไขกระดูก
เนื่องจากกระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่เสียพลังงานสูงเช่นเดียวกัน หากกระบวนการนี้มีระยะเวลานาน
1
ร่างกายของเราจะเสี่ยงต่อภาวะติดเชื้อ สูงมากเรียกได้ว่าอ่อนแอสุดๆ เมื่อร่างกายผจญกับแบคทีเรีย ไวรัส และเซลล์มะเร็ง แต่ไม่มีทหารคอยป้องกัน
pixabay
นอกจากนี้แล้วยังจะมีเรื่องของเชื้อโรคที่จะมาทำร้ายกระเพาะ ทำให้อ้วน และ นกเขาไม่ขันอีกครับซึ่งค่อนข้างรายละเอียดลึก ซึ่งจะทำในบทความหน้าครับ
เขียนรับใช้แต่เพียงเท่านี้ ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม
อยู่ดีมีสุขทุกท่าน
สวัสดีครับ
โฆษณา