5 ม.ค. 2020 เวลา 01:56 • กีฬา
#เป้าหมายคือทำลายทุกสถิติ
ก่อนเปิดฤดูกาล เป้าหมายของหงส์แดง “ลิเวอร์พูล” คือแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกของสโมสร และเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปี นับจากยุคของ เคนนี่ ดัลกลิช เป็นผู้เล่น-ผู้จัดการทีม ยุคนั้นมี จอห์น บาร์นส์, เอียน รัช, ปีเตอร์ เบียดสลี่ย์ ฯลฯ
แต่นับจากเปิดฤดูกาลมาด้วยฟอร์มไร้ที่ติ แชมป์พรีเมียร์ลีกปีนี้คงเป็นเป้าหมายที่เล็กไปสำหรับลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ซะแล้ว เมื่อผ่านครึ่งทางของการแข่งขัน ลิเวอร์พูลนำอันดับสองอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ถึง 13 แต้ม แถมมีเกมอยู่ในมืออีก 1 นัด
เมื่อแชมป์พรีเมียร์ลีกอยู่ใกล้แค่เอื้อม แรงจูงใจใหม่ของพลพรรคหงส์แดงในยามนี้คือ การทำลายสถิติทุกอย่างที่มีมา ทั้งในอังกฤษเอง และในยุโรปให้ราบคาบ
#บ่นบ้าภาษาบอล ขอพาทุกท่านพบกับสถิติอันน่าทึ่งของลูกทีมของ JK ในยุคนี้
นับแต่พ่ายแพ้ให้กับแมนฯซิตี้ ในวันที่ 3 มกราคม 2019 มาจนถึงปัจจุบัน ลิเวอร์พูลยังไม่เคยพลาดท่าให้กับทีมใดในลีกอีกเลย สถาปนาตัวเองเข้าเป็น 1 ในทีมประวัติศาสตร์ที่ทำสถิติไร้พ่ายในลีกเป็นระยะเวลาถึง 1 ปี ด้วยสถิติแข่ง 37 ชนะ 32 มีเพียง 5 นัดเท่านั้นที่มีทีมที่รอดจากความพ่ายแพ้ให้กับหงส์แดง (แมนฯยูฯ 2 นัด เอฟเวอร์ตัน เวสต์แฮม และเลสเตอร์ ทีมละ 1 นัด) เก็บแต้มไปได้ทั้งหมด 101 คะแนน เฉลี่ย 2.73 คะแนนต่อนัด
หากนับตั้งแต่ 4 มกราคม 2019 ถึง 3 มกราคม 2020 แต้มรวมทีมในพรีเมียร์ลีกเป็นดังนี้
ลิเวอร์พูล แข่ง 37 นัด 101 แต้ม
แมนฯ ซิตี้ แข่ง 38 นัด 92 แต้ม
เลสเตอร์ แข่ง 38 นัด 66 แต้ม
เชลซี แข่ง 38 นัด 64 แต้ม
แมนฯ ยูฯ แข่ง 38 นัด 59 แต้ม
ลิเวอร์พูลทำแต้มเหนือแมนฯซิตี้ ทีมอันดับสองถึง 9 แต้ม และมากกว่าเลสเตอร์ทีมอันดับสามอย่างสุดกู่ถึง 35 แต้ม แถมยังแข่งน้อยกว่าอีก 1 นัด
แต่กระนั้นลูกทีมของ JK ก็พลาดการทำลายสถิติชนะรวดติดต่อกัน 18 นัดของแมนฯซิตี้ เมื่อดันไปเสมอกับคู่แค้นอย่างแมนฯยูฯในเดือนตุลาคม ทำให้สถิติชนะรวดของลิเวอร์พูลหยุดอยู่ที่ 17 นัด โดยแบ่งเป็น 9 นัดสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้ว กับ 8 นัดแรกของฤดูกาลนี้
ถึงแม้ว่าในปี 2019 จะไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก แต่หงส์แดงก็กลายเป็นทีมแรกในอังกฤษที่คว้าถ้วย ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก, ยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ และฟีฟ่า คลับ เวิร์ลคัพ มาครองได้ในปีเดียวกัน
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เดอะเร้ดชนะติดต่อกันมากขนาดนี้คงต้องยกเครดิตให้กับสามประสานในแนวรุกอย่าง ซาดิโย มาเน่, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่ทำประตูรวมกันไปได้ถึง 54 ประตูจากทั้งหมด 89 ประตูที่ทีมทำได้ โดยแบ่งเป็น มาเน่ 25 ประตู ซาลาห์ 19 ประตู และฟีร์มิโน่ 10 ประตู
ส่วนนักเตะที่แอสซิสมากที่สุดคือฟูลแบ็คทั้งสองข้าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ 17 ลูก และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน 13 ลูก
สถิติที่หงส์แดงหวังไปให้ไกลที่สุดคือ ไร้พ่ายติดต่อกันให้นานที่สุด โดยปัจจุบันถ้านับเฉพาะ 5 ลีกใหญ่ในยุโรป ลิเวอร์พูลคือทีมที่ 12 ในประวัติศาสตร์ที่ไร้พ่ายติดต่อกันเกิน 1 ปีในลีก ลองมาดูกันว่าทีมอื่นๆ มีใครกันบ้าง (ปีในวงเล็บคือปีปฏิทิน ไม่ใช่ฤดูกาล)
อันดับ 10 เปรูจา (1978-79) และลิเวอร์พูล (2019-20) เท่ากันอยู่ที่ 37 นัด เรามาดูกันว่าหงส์แดงจะไปได้ไกลที่สุดอันดับที่เท่าไร
อันดับ 9 เรอัล โซเซียดัด (1979-80) 38 นัด
อันดับ 7 มี 2 ทีมคือ ฟิออเรนติน่า (1955-56) และเชลซี ในยุคของมูริลโญ่ (2004-05) 40 นัด
อันดับ 6 น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ยุคกุนซือไบรอัน คลัฟ 42 นัด
อันดับ 5 บาร์เซโลน่า (2017-18) 43 นัด
อันดับ 3 ยูเวนตุส (2011-12) ในยุคของคอนเต้ และ อาร์เซน่อล (2003-04) ในฤดูกาลไร้พ่าย 49 นัด
อันดับ 2 บาเยิร์น มิวนิค (2012-14) 53 นัด
อันดับ 1 เอซี มิลาน (ตั้งแต่ พฤษภาคม 1991 ถึง มีนาคม 1993) ยุคสามทหารเสือฟลายอิ้งดัชต์แมน ทำสถิติไว้ที่ 58 นัด หากนับเป็นจำนวนวันคือ 672 วัน
หากจบฤดูกาล 2019-20 ด้วยการไร้พ่าย จำนวนนัดจะเพิ่มมาเป็น 55 นัดทันที ซึ่งจะขึ้นมาอยู่อันดับ 2 เป็นรองเอซี มิลานเพียง 3 นัดเท่านั้น
ทั้ง 12 ทีมนี้มีเพียง 3 ทีมเท่านั้นที่ไม่ได้แชมป์ลีกในปีนั้นคือ เปรูจา, เรอัล โซเซียดัด และลิเวอร์พูล แต่ เรอัล โซเซียดัด หลังจากหยุดสถิติไร้พ่ายแล้ว ก็ได้แชมป์ลาลีกา 2 ปีติดต่อกัน (ฤดูกาล 1980-81 และ 1981-82) ส่วนเปรูจานั้น ทั้งฤดูกาลหนักไปทางเสมอคือในฤดูกาล 1978-79 แข่ง 30 นัด ชนะ 11 เสมอถึง 19 นัด จึงพลาดแชมป์ให้กับมิลานที่แพ้ไปถึง 3 ครั้ง
หากดูเฉพาะในพรีเมียร์ลีก จะเห็นว่าลิเวอร์พูลตามหลังอาร์เซน่อลอยู่ 12 เกม น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 5 เกม และเชลซี 3 เกมเท่านั้น โดยทีมที่หยุดสถิติของอาร์เซน่อลและเชลซีก็คือ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั่นเอง ส่วนทีมที่หยุดสถิติของฟอเรสต์ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ลิเวอร์พูลนี่แหละ
หากนับสถิติไร้พ่ายเป็นจำนวนวัน ลิเวอร์พูลตอนนี้อยู่ที่ 373 วัน (นับถึงวันที่ 11 มกราคม ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะไปเยือนสเปอร์สในวันที่ 12 มกราคม) เป็นอันดับ 12 ของ 5 ลีกใหญ่ของยุโรป โดยอันดับที่เหนือกว่าหงส์แดงมีดังนี้
อันดับ 11 ฮัมบูร์ก (1982-83) 378 วัน
อันดับ 9 เรอัล โซเซียดัด (1979-80) และน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ (1977-78) 385 วัน
อันดับ 8 เชลซี (2004-05) 386 วัน
อันดับ 7 บาร์เซโลน่า (2017-18) 400 วัน
อันดับ 6 ฟิออเรนติน่า (1955-56) 413 วัน
อันดับ 5 บาเยิร์น มิวนิค (2012-14) 524 วัน
อันดับ 4 ยูเวนตุส (2011-12) 538 วัน
อันดับ 3 อาร์เซน่อล (2003-04) 539 วัน
อันดับ 2 เปรูจา (1978-79) 546 วัน
อันดับ 1 เอซี มิลาน (1991-93) 672 วัน
หากสิ้นสุดฤดูกาลนี้ทำสถิติไร้พ่าย อันดับจำนวนวันจะขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ทันที เพราะกว่าฟุตบอลลีกจะเริ่มเตะอีกทีก็เดือนสิงหาคม แต่หากหวังจะทุบสถิติของเอซี มิลาน หงส์แดงจะต้องไร้พ่ายไปจนถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน ปลายปีนี้เป็นอย่างน้อย
ส่วนสถิติของทีมจากเกาะอังกฤษ (สหราชอาณาจักร ประกอบด้วย อังกฤษ สก็อตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ) เป็นของกลาสโกว์ เซลติค ทำสถิติไว้ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 1915 ถึง เมษายน 1917 รวมไร้พ่ายทั้งหมด 62 นัด
ส่วนสถิติไร้พ่ายของทีมจากยุโรปทั้งหมดเป็นของสเตอัว บูคาเรสต์ ของโรมาเนีย ทำสถิติไว้ที่ 104 เกม ในระหว่างปี 1986-89 และช่วงนั้นสเตอัว บูคาเรสต์ก็ได้แชมป์ลีกของประเทศ 3 ปีติดต่อกัน และในปี 1986 ยังได้แชมป์ยูโรเปียนคัพ (UCL ในปัจจุบัน) ด้วยการเอาชนะบาร์เซโลน่าในรอบชิง และยังเข้าชิงอีกครั้งในปี 1989 แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับเอซี มิลาน
หากนับจำนวนวันเป็นของทีม ลินคอล์น เร้ด อิมพ์ส (Lincoln Red Imps) ในยิปรอลต้าพรีเมียร์ดิวิชั่น ไร้พ่ายตั้งแต่ พฤษภาคม 2009 ถึง กันยายน 2014 กินเวลาทั้งหมด 5 ปีกว่านับได้ทั้งหมด 1,959 วัน รวมทั้งสิ้น 88 นัด
สมมติว่า ลิเวอร์พูลรักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ไปได้ตลอดทั้งซีซั่น (ปัจจุบัน 20 นัด ชนะ 19 เสมอ 1) อีก 18 นัดที่เหลืออิงตามผลครึ่งฤดูกาลแรก จะเป็น แข่ง 38 ชนะ 36 เสมอ 2 จะทำให้ได้ถึง 110 แต้ม สูงสุดเป็นประวัติการณ์ฟุตบอลลีก
โดยสถิติในยุโรปปัจจุบันเป็นดังนี้ (ในวงเล็บหมายถึงฤดูกาล)
กลาสโกว์ เซลติก (2016-17) 106 คะแนน
แบร์รี่ (ทีมจากลีกเวลส์) (1996-97) 105 คะแนน
แบร์รี่ (1997-98) 104 คะแนน
กลาสโกว์ เซลติก (2001-02) 103 คะแนน
ยูเวนตุส (2013-14) 102 คะแนน
เรอัล มาดริด (2011-12) บาร์เซโลน่า (2012-13) และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2017-18) 100 คะแนน
ถัดจากนี้ไปถือเป็นเกมหนักทั้งนั้น ไม่ว่าจะออกไปเยือนสเปอร์สของจ่ามูที่ต้องการหยุดหงส์เพื่อไม่ให้เข้าใกล้สถิติของเขาที่ทำไว้กับเชลซี เปิดบ้านทำศึกแดงเดือดกับแมนฯยูฯ ทีมที่หยุดสถิติไร้พ่ายทั้งอาร์เซน่อลและเชลซี และออกไปเยือนถ้ำหมาป่าของวูล์ฟแฮมป์ตัน ทีมที่เอาชนะแมนฯซิตี้ได้ทั้งเหย้าและเยือนในฤดูกาลนี้
หากลิเวอร์พูลไม่แพ้ทีมใดในลีกไปเรื่อยๆ สถิติใหม่จะถูกสร้างขึ้นในทุกนัดที่ผ่านไป แล้วเรามาคอยดูกันว่า ปลายทางจะไปหยุดที่กี่นัด และกี่วัน เชื่อว่า The Kop คงไม่อยากให้วันนั้นมาถึงเร็วเป็นแน่
#ลิเวอร์พูล #หงส์แดง #ไร้พ่าย
นอกจากแอพฯ Blockdit สามารถติดตามได้จาก Facebook Fanpage อีกหนึ่งช่องทาง https://www.facebook.com/bonbapasaball/
และหากท่านใดเห็นว่าบทความยาวเกินไป ไม่มีเวลาอ่านสามารถติดตามฟังได้ที่ “บ่น บ้า ภาษาบอล podcast” ทางแอพพลิเคชั่น Anchor , Spotify , Apple Podcasts , Google Podcasts , Breaker , Pocket Casts และ RadioPublic ขอบคุณครับ
โฆษณา