8 ม.ค. 2020 เวลา 06:22 • ท่องเที่ยว
EP4 16/12/19 ตัดภาพมาที่กรุงกัวลาลัมเปอร์
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าการมาถึงของพวกเราครั้งนี้อาจไม่ค่อยมีสิ่งใดน่าตื่นเต้นสักเท่าไหร่นักและเราก็ปักหมุดแค่เฉพาะจุดที่ต้องการไปไม่กี่แห่งฮะ หลายๆคนอาจเคยไปมาแล้วด้วยซ้ำ เรามาเริ่มตอกย้ำไปด้วยกันดีกว่าฮะ ด้วย มื้อแรกของเราไกล้ๆที่พัก พอดีอยากลิ้มลองอาหารสไตล์แขกๆบังๆบ้าง เจอร้านนี้พอดีอยู่ติดๆโรงแรมเลยฮ่ะ ชื่อร้านอ่านไม่ออกไม่ได้ถ่ายมาอีกแล้วครับท่าน ยังไงก็แล้วแต่เราสามารถเจอร้านอาหารพวกนี้ได้ทั่วๆไปในกัวลาลัมเปอร์ฮะ รสชาติก็วัดดวงเอาละเด้อพี่น้อง แต่ร้านนี้ บอกเลย ไม่เลวฮะ ทานได้
จะทานอาหารของชาวอิสลามทั้งที ก็ต้องนี่เลยฮะ โรตี ทำกันสดๆแบบนี้ล่ะฮะ
และเสริฟกันร้อนๆง่ายๆใส่จานมาพร้อมกับน้ำซ้อสแกงกะหรี่ รสชาติเชื่อว่าทุกคนทานได้ฮะ วิธีทานก็แค่ตามภาพเลย ฉีก จุ่ม แล้วใส่ปาก ถ้าให้แอด เดานะครับโรตีคงเป็นอาหารจานด่วนสำหรับคนบ้านเค้านะครับ อารมแบบ ฝรั่งทานเบอร์ไรงี้ แหละ
และนอกจากนั้นก็ยังมีเมนูข้าวแกงที่เราสามารถบริการตัวเองโดยการที่จะไปตักมาแล้วนั่งทานได้เลยเดี๋ยวป้าๆเค้าจะมาคิดเงินเอง
ก็มีหลากหลาย ส่วนใหญ่ก็แกงกะทิๆๆ แต่รสชาติเอกลักษณ์มากๆ แต่แอดก็ตักราดแค่สองอย่างกลัวทานไม่หมด ก็อิ่มแน่นท้องไปยันเที่ยงเลยแหละ
หลังจากที่อะเมซิ่งลิงหลอกเจ้ากับอาหารอิสลามแล้วจุดหมายแรกที่เราจะไปนั่นก็คือ ตึกปิโตรนาส ไปถ่ายรูปเพื่อเป็นศิริมงคลไว้อวดเพื่อนๆพี่ๆน้องกันดีกว่าอิอิอิ วิธีการเดินทางของพวกเราก็คือ เดินฮะ ใครขี้เกียจควรใช้รถไฟฟ้านะฮะ แต่พวกเรา ชอบเอาบรรยากาศ เดินไปแวะไปถ่ายรูปบรรยากาศไป ดูบ้านเมืองเค้าเป็นยังงัย ประมาณนี้ บางทีก็ลำไย ที่ไม่น่าถ่ายก็ถ่าย ทนเอาเด้อพี่น้องใครชอบ ก็เดินตามมาโล้ด
ดูสิบ้านนอกมากๆเข้ากรุงลากอีแตะ บรรยากาศคล้ายๆกรุงเทพยังงัยพิกล
นั่นมีปั๊มเชลส์ไปอีก ใช่กรุงเทพมั้ย
ตึกเก่าๆที่เห็นแม้ว่าจะดูทรุดโทรม แต่ สิ่งที่สังเกตุได้คือ บ้านเค้าเรื่องขยะ ค่อนข้างสะอาดนะ
เนี่ยดูดิ นึกว่ากรุงเทพ แต่สะอาดกว่า เรื่องสะอาดนี่จริงๆยอมรับเลย
มุมที่ดูโทรมๆเห็นมั้ยว่าสะอาดปราศจากขยะ
ตรงนี้คือกลิ่นอายของมาเลแน่ๆแล้ว นั่นๆ ตึกปิโตรนาส
ขอกอดและถ่ายรูปคู่เสาติดป้ายบอกชื่อถนนหน่อย นี่คือมาเลเซียนะเออ
ดูสีทางม้าลายสิ ชัดมาก ว่ากันว่าอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนของคนที่นี่น้อยมากๆ
อาการตอนนี้คือหลงละฮะ มันไปแล้วจะทะลุออกไปไหนหว่า งั้นไปตามทางรถไฟฟ้าละกัน
ถนนเส้นนี้แหละ เดินไปอีกนิดก็ถึงแล้ว ปิโตรนาส
คนเยอะมาก
เย่! ได้ถ่ายรูปกับตึกปิโตรนาสแล้วจร้า ตรงนี้คือจุดที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมาถ่ายภาพกันคนเลยเยอะหน่อย เตือนไว้ก่อนน้า ใครจะมาอย่าเผลอไปคุยสบตาพ่อค้าให้เช่าเลนส์ติดกล้องมือถือสำหรับถ่ายถาพนะ แพงมากๆ แต่ไม่ได้กินเงินพวกเราร๊อคค ชิ!!
ในส่วของข้างในตึกก็จะเป็นห้างทั่วๆไปฮะ แวะไปเข้าห้องน้ำรับแอร์เย็นๆหลังจากที่เดินถ่ายรูปจนเหนื่อยกันได้เลย
และจะบอกว่าเดินๆอยู่ หลงนะฮะ ป้ายบางทีไม่ได้ช่วยไรเลย จริงๆ
ด้านหลังห้างก็จะมีสวนน้ำพุ มีร้านกาแฟให้นั่งดื่มฆ่าเวลาฮะ ก็ เป็นไลฟ์สไตล์ ส่วนหนึ่งของวิถีคนเมืองอะเนอะไม่ต่างจากบ้านเราเท่าไหร่ แวะดื่มกันซักคนละแก้วเดี๋ยวไปกันต่อ
จุดต่อไปที่เราจะพาไปก็คือ BATU CAVE
เป็นวิหารที่เป็นสถาปัตยกรรมของฮินดู
วิธีการเดินทาง ก็คือ รถไฟฟ้า และพวกเราจะขึ้นจากสถานีที่นี่เลยครับ KLCC อยู่ไกล้ๆกับตึกแฝดนั่นแหละ และเราต้องนั่งไปลงที่สถานี KL SENTRAL ก่อนแล้วทำการซื้อตั๋วใหม่เพื่อเปลี่ยนเส้นทางไปยังสถานี BATU CAVE ฮะ จะบอกว่า ด้วยความที่ไม่ใช่คนท้องถิ่น และไม่ชินกับระบบรถไฟฟ้าที่นั่น เพราะมันมีหลายสายหลายสี ผลสรุปคืองง ไม่พอ หลงอีกด้วย และถ้าอ่านแผนที่ไม่ขาด รีบเดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ด่วน อย่าสุ่มเดาส่งเดชนะฮะ เสียเวลามากมายเลย ปะๆไปกัน
ถึงแล้วฮะ สถานี BATU CAVE
เราจะเห็นรูปปั้นของหนุมาน ตั้งอยู่ และมีอีกองค์นึงที่อยู่ปากทางขึ้นประตูถ้ำ ที่ใหญ่มากๆ คือ พระขันทกุมาร
รูปปั้นหนุมานในสไตล์ฮินดู
มองจากข้างนอกก่อนเข้าพื้นที่
นกเต็มไปหมด และแน่นอน กลิ่นก็ไม่ค่อยจะโสภาซักเท่าไหร่
ภาพล่างนั่นประตูที่เราเดินเข้ามาจากสถานี BATU CAVE
ร้านขายขนมฮินดู คิดว่าน่าจะเป็นขนมของฝากมั้ยนะ หรือเอาไว้ถวายองค์เทวรูปในพื้นที่ อันนี้ไม่ทราบนะฮะ
ก็ดูยิ่งใหญ่ สมกับเป็นที่แลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยวนะ เพราะมีทัวลงเยอะอยู่
เดี๋ยวเราจะขึ้นไปด้านบนกันฮะ บอกเลย หอบเอาเรื่องอยู่ ผู้หญิงห้ามนุ่งเกงขาสั้นกระโปรงสั้นนะฮะห้ามขึ้นเป็นกฎ แต่เค้าจะมีให้เช่าชุด สำหรับใส่ ขึ้นไปแหละ แต่ ผู้ชายอย่างเราๆ ขึ้นได้ ไม่มีปัญหา
พอขึ้นมาแล้วก็ ดูสวยฮะ สำหรับในมุมของส่วนผนังถ้ำ แต่ส่วนตัวแล้วไม่ได้รู้สึกว้าวกับสถาปัตยกรรมที่เค้าสร้างด้านบนนี้เลยฮะ ที่ว้าวเพราะถ้ำล้วนๆ สวยงามฮะ
ขึ้นไปถ่ายรูปอย่างเดียวก็พอฮะ ใช้เวลาไม่นานก็พากันกลับลงมาแล้ว
ดูความชันก็อาจทำให้คนกลัวความสูงขาสั่นได้เหมืินกันนะ
มองเห็นวิวลางๆ ฝนเริ่มตกปรอยๆ แต่แป๊บเดียวก็หยุด
ลองหามุมถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกก่อนที่จะกลับไปสถานีKL SENTRAL
คงได้มุมที่ปราถนาเท่านี้ ได้ภาพครบแล้ว ว้าปไปหาของอร่อยๆกินกันเถอะ!!! ไปกันเล้ยย
ตัดภาพมาที่ ถนน ยารันอะลอ เป็นถนนสายสตรีทฟูดส์ที่คนมาเที่ยวนิยมมาหาของกินและเชคอินถ่ายรูปกันที่นี่ พ่อค้าแม่ขายส่วนใหญ่ดูจะเก่งภาษาไทย พอเห็นหน้าคนไทยเหมือนมีเซ้นส์ พูดภาษาไทยเชื้อเชิญให้พวกเราเหล่าสายชิมเข้าไปทานอาหารที่ร้านของตัวเอง ที่นี่จะดูครึกครื้นตอนค่ำๆและเต็มไปด้วยแสงจากโคมไฟสีแดง แต่พวกเราไปกันตอน เย็นๆ ยังไม่มืด เลยได้ภาพบรรยากาศช่วงก่อนค่ำมาให้ชมกันบางส่วนฮะ
ร้านค้าเพิ่งเริ่มทะยอยตั้งก็จะประมาณนี้ เอาเข้าจริงๆคนก็เริ่มพลุกพล่านแล้ว
ดูครึกครื้นอยู่นะฮะ มีหลายร้านให้เลือก ราคาตั้งแต่ถูกๆไปจนแพงก็มีอยู่ที่เราจะเลือก
เสียดายไม่ได้ถ่ายตอนค่ำคิดว่าคงสวยกว่านี้
ไก่น้ำผึ้ง 555 เห็นแล้วก็นึกอยาก เอาซะหน่อย หวานซะ
ลูกชิ้นฮอตดอกทอดก็มีฮะ
มื้อหลักของเย็นนี้หนีไม่พ้นบะหมี่ฮกเกี้ยน ที่พวกเราติดใจอีกตามเคย ซ้ายบะหมี่เหลืองต้มยำ และขวาหลักซาผู้ครองใจพวกเราฮะ แต่ที่ปีนังอร่อยกว่านะ
หนวดปลาหมึกชุบแป้งทอด สีสันน่ากินมากฮะ
ปลาท่องโก๋ตัวใหญ่ๆกินกับบะกุ๊ดเต๋ ซื้อกลับมากินที่ห้อง 555
ปิดท้ายของค่ำคืนนี้ ด้วยแป้งจี่ กินไม่ไหวละแน่นไปหมด แถมด้วยภาพถนนยามค่ำคืนที่ไม่ค่อยต่างจสก กรุงเทพเท่าไหร่ แต่ที่นี่ย้ำว่า สะอาดดูเรียบร้อยมากๆ พรุ่งนี้เราจะเซกู๊ดบายกัวลาลัมเปอร์กันแล้ว แต่ก่อนจะลาเรายังมีแวะอีกหนึ่งที่ สำหรับ คืนนี้ หลับฝันดีทุกๆท่านฮะ
เช้าวันที่17 เชคเอ๊าท์ แล้ว แวะชิมหาของกินรองท้องก่อนเดินทางไปสนามบิน
วันนี้เราจะไปกันที่ petaling street ย่านไชน่าทาว นั่นเอง และความเปิ่น ของเราก็เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการรอรถเมล์ ที่แสนยาวนาน พอรถสายที่ต้องการมาถึง พวกเรากลับไม่ได้ขึ้น คิๆๆ ไม่ใช่รถเต็มนะ แต่พวกเราไม่ได้ซื้อบัตรโดยสาร เพราะรถเมล์ที่นี่ให้ใช้บัตรเติมเงินกันแล้วฮะ หาซื้อได้ตามเค้าเตอร์จุดให้บริการ หรือ 7-11 ได้เลย ที่รู้เพราะว่า ขึ้นไปแล้ว คนขับบอกไม่รับเงินสด จ้า แล้วสังเกตุเห็นว่าทุกๆคนแม้กระทั่งป้าๆลุงๆ มีบัตรกันทุกโค้นนพี่น้องเอ๊ยย!! อายม้วนฮะ เดินลงจากรถด้วยความประหนึ่งว่ายังมีความสวยและหยิ่งยโส กดเรียกแกรปรัวๆฮะ เห้อ!! หลงรถไฟฟ้าก็แล้ว ก็ยังมาเซอร์ไพร้กับบัตรโดยสารรถเมล์ ปะไปหาของกินกัน
รถเมล์สายที่กำลังรอลุ้นไม่มาเป็นครึ่งชั่วโมง แต่ที่วิ่งๆผ่านไปคือหลายสายแล้ว และก็สายเดิมๆมาหลายคันมากๆ พอๆกับกรุงเทพเลย แต่รถติดของที่นี่คือ กรุงเทพชนะเลิศฮะ
หน้าตารถเมล์ถ้าทุกคนขึ้นรถเมลล์แบบนี้ สายไหนก็แล้วแต่ ต้องหาซื้อบัตรเติมเงินไว้ด้วยนะ ไม่งั้นได้เดินลงมาอย่างสง่างามแน่นอนคิๆๆโดนมาแล้ว
รถส่วนบุคคลที่นี่สังเกตุเห็นว่าเราจะไม่ค่อยเห็นคันที่ใหญ่ๆหรูๆฮะ แต่บ้านเราคือ ใหญ่ได้ใหญ่ไปเล้ย 555 รถบ้านเค้าจะดูเล็กๆกะทัดรัดน่ารักๆ โดยเฉพาะเวลาเห็นแทกซี่มิเตอร์รถจะรุ่นเก่าๆหน่อย อย่าแกรปที่เรียกมาก็จะขนาดประมานนี้แหละ ดูพอเพียงดีเนอะ
และแล้วก็ถึงเยาราช 555 กรุงเทพยิ่งใหญ่กว่ามากๆ
ไชน่าทาวของที่นี่จะเป็นเหมือนตรอกระยะทางไม่ยาวซอยไม่ค่อยเยอะเหมือนกรุงเทพฮะ เดินๆไปเดี๋ยวก็หมด เนื่องจากยังเช้าอยู่คนเลยไม่ค่อยพลุกพล่าน
นี่ๆขนมของป้าร้านนี้คิดว่าคงเป็นที่เลื่องลือแน่ๆ แป้งที่คลุกกับถั่วงาบดและน้ำตาล หอมมันหนึบๆไม่หวานเลี่ยน ใครผ่านไปแวะไปลองชิมได้ฮะ รสชาติสมกับที่คนที่แวะมาที่นี่ต้องลอง
เต้าฮวยก็มีนะ บอกแล้วชิมทุกอย่าง 555 ฟาดของหวานก่อนเลย หอมรสชาติดีไม่หวานโดด เต้าฮวยของเค้าจะมีแค่เต้าหู้กับน้ำเชื่อมแบบคาราเมล ก็น้ำตาลแดงอ้ะแหละ แค่นี้ ของบ้านเราก็ทานกับน้ำขิง รสชาติก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะต่างกัน โดยรวมคือ ไม่เลวฮะ
ถัดมาอีกซอย ในนี้ก็จะดูเงียบๆนะ แต่พอดีมีร้านลุงแกเปิดขายอยู่เป็นบะหมี่ของโปรดพวกเรา และตอนนี้คือหิว ขอลองบะหมี่เยาวราชของกัวลาลัมเปอร์ซะหน่อยละกัน
และนี่คือเมนูหลักก่อนกลับของเราในเช้าวันนี้ คนจีน อะเนอะ ก็ไม่กินรสจัด อ้ะ เน้นกลมกล่อมตามสไตล์ กินได้อีกแล้วฮะ หมดจานหมดถ้วยกันเลยทีเดียว หิวมาก
หลังจากอิ่มแล้วเราก็เดินสำรวจกันมาเรื่อยๆตามทาง เราไปสะดุดตากับร้านกาแฟร้านนี้ ถ้าสะดุดตาเมื่อไหร่ จะเดินผ่านไปเฉยๆเหรอฮะ ไม่มี๊ เข้าสิจ๊ะ ไม่ลองได้ไง บาริต้าหล่อ คริๆๆ แต่ไม่ได้แอบถ่ายมาหรอก ลองไปเองฮะแล้วจะเห็นว่านางน่ารักสุดๆ
บรรยากาศในร้าน ดูดีมีสไตล์
อีกมุมโต๊ะกลางแบบยาว
มีมุมริมหน้าต่างเก๋ๆ
ใครไปมาแล้วถ่ายมุมสวยๆกว่านี้มาอวดหน่อย55
นอกจากมุมถ่ายภาพเก๋ๆและกาแฟหลากหลายเมนู แล้วยังมีเมนูพวกของหวาน ไอศครีม และอาหารทานเล่นหรืออาหารเช้า ใครพักย่านนี้แล้วไม่รู้จะหาอะไรทานก็ลองมาแวะร้านนี้ดูฮะเดี๋ยวติดแฮชแทกไว้ให้น้า
เพ้นลวดลายบนหน้ากาแฟมาแบบสวยๆน่ารักๆ
สำหรับร้านกาแฟที่นี่ชื่อร้านว่า Vintage 1988 ตามเพจนี้ได้เลยฮะ แปะไว้ให้เลย
https://www.facebook.com/Vintage-1988-313278706132696/ ลองไปติดตามกันดูก่อนน้า มีเมนูน่าทานเยอะมากๆ
ปิดท้ายอำลากัวลาลัมเปอร์ทริปนี้ด้วยภาพบรรยากาศกลิ่นอายของความเป็นมาเลเซียกันฮะ และบรรยากาศคร่าวๆภายในสนามบินกันฮะ
และในส่วนเที่ยวบินขากลับพวกใช้บริการของสายการบิน malindo air ฮะ จองผ่าน เวปไซต์ travaligo.com ตอนนั้นจองแบบกระชั้นชิดมาก เลยได้ราคาแพงหน่อย ตกคนละห้าพันกว่าบาท แพงนะ แต่ต้องยอมฮะเพราะ ตัดสินใจนานไปหน่อย แต่ราคานี้คือได้ฟรีโหลดน้ำหนักกระเป๋าได้ถึง30กิโลกรัมกันเลยฮะ ใครสายช้อป แนะนำลองเชคราคาดูกันนะฮะเผื่อได้ราคาถูกกว่านี้
สนามบินกว้างใหญ่จนถึงขนาดต้องใช้จุดเชคอินคนละตึกแล้วต้องนั่งรถรางข้ามมาหาเกตทางขึ้นเครื่องของอีกตึกนึงใครที่เคยมาก็คงเคยประหลาดใจ และที่สำคัญ งงป้าย มากๆ บอกเลย ต้องถามเจ้าหน้าที่ตลอดทาง กว่าตะหาเจอคือ ขาลาก แต่ความประทับใจและความสนุกระหว่างการเดินทางนั้นดูเลอค่าและท้าทายมากฮะ กับประสบการณ์นั่งรถไฟมายังที่นี่ มาเลเซีย
และนี่เป็นภาพชุดส่งท้ายจากวันแรก จนถึงวันนี้ว่าพวกเรา ผ่านตรงจุดไหนมาบ้าง หวังว่าเพื่อนๆทุกๆท่านคงได้รับข้อมูลไว้เผื่อมีโอกาสได้เดินทางแบบประหยัดที่เพียบพร้อมด้วยประสบการณ์อันน่าตื้นเต้นของชีวิต และนี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆของประสบการณ์คร่าวๆในทริปนี้
ในทริปหน้า เที่ยวทั่วทีปจะเอาภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนมาอวดคอยติดตามให้กำลังใจกันนะฮะ สำหรับทริปนี้ สวัสดีปี2020ทุกๆท่าน กราบบบ!!!!
กรุงเทพหาดใหญ่ ปาดังเบซา
ปีนัง จอร์ชทาวน์
วัดแก๊กล้อกซี่ ไอต่ำ ปีนัง
บะหมี่หลักซา ที่ ไอต่ำ ปีนัง
มื้อแรกที่กัวลาลัมเปอร์
เดินไปตึกปิโตรนาส
ถ้ำบาตู BATU CAVE
มื้อค่ำที่ถนนคนเดินสตรีทฟู้ด จรันอะลอ
ย่านไชน่าทาวน์
มุมของอร่อยย่านไชน่าทาวน์
บรรยากาศโดยรอบ
ร้านกาแฟ Vintage1988
กู๊ดบายมาเลเซียกับสายการบินmalindo air ที่สนามนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ขอบพระคุณที่รับชมและติดตามกดไลค์ให้กำลังใจ แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีฮะ!!!😁😁😁😁😁😁😁
โฆษณา