11 ม.ค. 2020 เวลา 04:49
การท่องบท Present ที่น่าเบื่อ VS On The Stage
ชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้ว ว่า ท่องบท Present ที่น่าเบื่อ ก็เหมือนก่อนสอบนี่แหละ อ่านหนังสือเรียน น่าเบื่อจะตาย วัน ๆ นึง นั่งอ่าน นอนอ่านหนังสือ วันละ 3 - 4 วิชา ๆ ละ 3-4 เล่ม คุณคิดว่ามันน่าเบื่อไหม และ ในแต่ละเล่มคุณต้องทำความเข้าใจอย่างละเอียด ยังไม่พอ คุณยังจะต้องย่อยออกมาในแบบฉบับที่ตัวเองเข้าใจอีก แล้วที่ต้องท่อง ท่องอ่านแบบนี้เพราะอะไร
อย่างเดียวเลยคือ ต้องการผลลัพธ์ที่น่าพอใจ หรือ On the stage นั่นเอง, หรือ ผลการสอบที่ดีนั่นเอง หลังจากผ่านความยากลำบากในการอ่านหนังสือ ท่องหนังสือ มาเป็นเดือน ๆ เพื่อการสอบ 2-3 วันเท่านั้น แต่ผลลัพธ์ของมันสิ มันช่างน่าปราบปลื้ม หรือ เรียกว่า ชัยชนะมันช่างหอมหวานเสียเหลือเกิน
ถ้าคุณไม่ทำความน่าเบื่อเหล่านั้น เป็นระยะเวลานานๆ คุณก็จะไม่ได้ผลลัพธ์แบบนี้
ถ้าลองกลับกัน น่าเบื่อไม่อ่านหนังสือสอบหรอก ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น คุณคิดว่าผลสอบของคุณจะออกมาเป็นอย่างไร? ถ้าคุณไม่ต้องการผลลัพธ์ที่ดีก็แล้วไป คุณก็อาจจะเป็นคนส่วนมากที่ไม่ได้ต้องการความประสบความสำเร็จ แต่ความสำเร็จจะเป็นของคนส่วนน้อยที่ยอมทำเรื่องน่าเบื่อ ยอมอดทนกับเรื่องน่าเบื่อ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เขาต้องการ
สิ่งที่ H จะบอกก็คือ คนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะอดทนทำเรื่องน่าเบื่อ แต่คนที่ไม่ประสบความสำเร็จจะไม่ทำเรื่องน่าเบื่อ เพราะ อาจจะรักสบาย ฉะนั้นลองคิดเอาเองดูว่า ทำไมเราถึงไม่ประสบความสำเร็จ หรือ ทำไมคนส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จ
กลับมาที่เรื่องของ H เองบ้างดีกว่า, พอดีมีงานที่จะต้อง Present Initiative ของโรงแรม ว่าปีหน้าต้องการทำอะไร มีโปรเจคอะไรจะทำ เพื่อปรับปรุงการบริการให้กับลูกค้าบ้าง
H ต้องทำการบ้าน หาข้อมูลล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน ศึกษา ค้นคว้า หาความรู้ให้ลึกที่สุด รายละเอียด และ งบประมาณต่าง ๆ เมื่อหามาได้ สุดท้ายก็ต้องมาท่อง คิดดูว่าต้องท่องทุกวัน ๆ ละ หลาย ๆ รอบ เพื่ออะไร
เพื่อที่ว่าเมื่อ On the Stage เราจะต้องเป็นคน Run the Show และ The Show Must Go On. ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ความคิด ไอเดีย ของเราจะต้องแสดงและพูดบนหน้าเวที ที่มีคนดู คนฟัง แต่ละคนก็เป็น เจ้าของโรงแรม และ GM ของโรงแรมอื่น ๆ ในเครือ
จนวันที่จะต้องขึ้นไปพูดบนเวที ก่อนขึ้นยังจะต้องท่องอีก แต่ความน่าเบื่อที่ทำแล้วทำอีกตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้การพูดของเราเป็นไปได้ด้วยดี
พอจบทุกคนต่างปรบมือให้ H เองก็รู้สึกโล่งใจว่า ได้พูดจบซักที เท่านั้นยังไม่พอ แต่ละคนก็จะมาพูดกับเราว่า พูดดีนะ งานดี ไอเดียดี ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอันหอมหวานของ H อีกขึ้น และ รู้สึกว่าความน่าเบื่อตลอด 3 เดือน
เพียงเพื่อ 10 - 15 นาทีบนเวที มันช่างคุ้มเสียเหลือเกิน
นี่แหละครับ เป็นเรื่องของความเร็จของการทำอะไรที่น่าเบื่อ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จึงอยากให้เพื่อน ๆ ทุกคน นึกถึงความสำเร็จของตัวเอง หรือ ความไม่สำเร็จของตัวเอง ว่าได้ทำสิ่งที่น่าเบื่อเหล่านั้น
มาตลอดหรือปล่าว หรือ ทำ ๆ ไปแล้วน่าเบื่อ ก็เลยไม่ทำ
.
**ความสำเร็จของคนส่วนมาก จึงมาจากการทำอะไรที่น่าเบื่อซ้ำ ๆ นั่นเอง**

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา