10 ม.ค. 2020 เวลา 07:14 • ครอบครัว & เด็ก
อย่าทำลายความเชื่อใจ
ด้วยการ "หลอก" หนูเลย
เด็กน้อย เชื่อเราอย่างไม่มีข้อสงสัย
เรายังจำความรู้สึกที่ พ่อแม่ เคยไม่รักษาสัญญา หรือ
พูดอะไรกับเรา แล้วทำไม่ได้หรือเปล่า?
เราเคยรู้สึกอย่างไรนะ?
เมื่อครั้งสีพาสมัครสอบชิงทุน AFS
สีพา สอบถามพ่อและแม่ทุกครั้ง
▪ตั้งแต่คิดจะยื่นใบสมัคร
▪จนยื่นใบสมัคร
▪จนสอบข้อเขียนผ่าน
▪จนด่านสุดท้าย.... ก่อนสัมภาษณ์
สีพาถามย้ำ เป็นครั้งที่ 4 ว่า
"ถ้าสอบได้ จะให้ไปใช่ไหม ไหวใช่ไหม"
พ่อตอบมาอย่างอารมณ์ดี "สอบให้ได้เถอะ ได้ก็ไป"
เมื่อผล ออกมา สีพามีชื่อติดบอร์ด พร้อมทั้งรายชื่อประเทศให้เลือก
แต่พ่อบอกกับสีพาว่า...
"ถ้าไปพ่อต้องขายรถที่ใช้ส่งของ สีพาจะโอเคไหม"
แน่นอนคำตอบของสีพา คือสละสิทธิ์
ซึ่งนั่นตามมาด้วยคำต่อว่าจากคณะอาจารย์
และเพื่อนที่ร่วมสอบแต่พลาดทุนนั้นไป
"ถ้าไม่จริงจัง มาสอบเล่นๆ สอบได้แล้วไม่เอา จะมากันที่คนอื่นทำไม"
สีพาทำได้แค่ก้มหัวขอโทษทุกคน
สีพาเสียใจ สีพาตั้งใจมากนะ และสีพาก็อยากไป
แต่. . . . สีพาไม่สามารถไปได้ด้วยตัวเอง
และสีพาไม่สามารถเห็นแก่ตัวตัดช่องทางทำมาหากินของครอบครัวได้นี่นา ... นั่นคือความคิดของสีพาในตอนนั้น
แม้จะเข้าใจในเหตุผลของครอบครัว
แต่ความรู้สึกเชื่อใจมันกลับถดถอยลงไป
จนสีพา ไม่กล้าที่จะเอ่ยขออะไรอีกเลย. . .
เด็กในวันนั้น คือ สีพาในวันนี้ ❤
ประสบการณ์ได้บอกอะไรสีพาหลายอย่าง
พ่อแม่ คงอยากให้เราได้ไปมาก
และชื่นชมในความตั้งใจ
ในทางเดียวกัน
พวกเค้าหวังกับตัวเองเช่นกันว่า
ถึงวันแล้ว..... คงหาเงินได้เพียงพอ
สำหรับการให้ลูกของตัวเองได้ไปเปิดโลกใหม่ๆ
แต่ ค ว า ม จ ริ ง
ไม่สวยงามขนาดนั้นซินะ
สีพาคิดว่า ถ้าวันนั้น พ่อกับแม่ได้บอกสีพาตรงๆ
ให้สีพารู้สถานการณ์ภายในอย่างตรงไปตรงมา
สีพาอาจจะตัดสินใจไม่สอบทุนนี้
แต่อาจจะมองหาทุนอื่นที่ครอบครัวสามารถรองรับไหวได้
และนี่คือ ที่มาของ แนวความคิดหลักของสีพาในการพูดคุยกับลูกชาย
"ตรงไปตรงมา ไม่โกหก ชี้แจงอย่างละเอียด มองเค้าเป็นคนในครอบครัวคนหนึ่ง ไม่ใช่เด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไร"
สีพาคิดว่า วิธีนี้เป็นอีกหนึ่งวิธี
ในการสร้าง"ตัวตนของเรา" ให้ลูกน้อย
ได้เชื่อมั่นในตัวคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างไม่มีข้อสงสัย
และยังเป็นการสอนให้เค้ามีเหตุและผล ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจอีกด้วยค่ะ
CREDIT : รักลูก
การตรงไปตรงมา ชี้แจง ไม่โกหก
ในที่นี้หมายรวมถึง งดการหลอกให้กลัว งดการขู่
เดี๋ยวพาไปหาหมอนะ
เดี๋ยวตำรวจจับนะ
เดี๋ยวผีมาหลอกนะ..
สิ่งเหล่านี้ยิ่งส่งผลให้พัฒนาการของเด็กน้อยถดถอย กลายเป็นคนหวาดระแวง และวิตกกังวล
ความกลัวของเด็กน้อย เป็นเรื่องปกติของวัยอยู่แล้ว คุณพ่อคุณแม่อธิบายให้พวกเค้าได้เข้าใจ
ดีกว่าจะหลอกหรือขู่ให้กลัว
เมื่อถึงวัยพวกเค้าจะเข้าใจและจัดการกับความกลัวนั่นได้อย่างถูกวิธีเอง
สีพาขอนำเคสของลูกชายมาเล่าให้ฟังนะคะ
เรื่อง การงอแง เมื่อพบคุณหมอ
เด็กๆ งอแงทุกครั้งที่พบคุณหมอ โดยเฉพาะเด็กที่เคยแอดมิดที่ รพ. เพราะเค้าจะมีความทรงจำที่เจ็บปวดในการถูกเจาะถูกฉีดอย่างฝังใจ
และลูกชายวัย 2.10 ขวบ ก็เป็นประเภทนั้นซะด้วย การพาไปหาคุณหมอแต่ละครั้งจึงยากและงอแงขั้นสุด
ครั้งนี้เช่นกัน สองวันก่อน
ลูกชายมีอาการไอ และ หายใจขัด
สีพาชวนไปหาคุณหมอก็ไม่ไป
งอแงทันที ร้องไห้ และบอกว่า
ไม่ไปหาหมอ ไม่ไปหาหมอ
สีพาจึงบอกว่า
"ดูกันคืนนี้นะครับ ถ้าหนูรู้สึกไม่ดี เราค่อยมาคุยกันอีกครั้ง"
คืนนั้นลูกชายทั้งไอ ทั้งหายใจไม่ออก งอแง ร้องขอให้อุ้มตลอดเวลา
รุ่งเช้า สีพาถามเค้าไปว่า
"ไปพบคุณหมอไหมครับ แค่ไปเช็คร่างกาย อ้าปาก ตรวจท้องและหลัง ไม่มีฉีดยา แล้วคุณหมอจะให้ยามาทาน"
ลูกชายนิ่ง ไม่ตอบ แต่ ไม่งอแงร้องอย่างเมื่อวาน
"ถ้าไม่ไปหาคุณหมอ หนูอาจจะไอ
อาจจะหายใจไม่ออก
และรู้สึกไม่ดีอย่างเมื่อคืนอีกนะ"
"ไปหาคุณหมอกันดีไหมครับ"
ลูกชายตอบกลับเสียงอ่อย
"Go to see doctor with mummy, ให้ยายนวลไปด้วยนะ นะครับ"
(ลูกชายตอบกลับมาทั้งสองภาษา)
พกคุณยายไปหาหมอด้วยหน้าตาซึมเศร้า 😁
แม้เค้าจะอายุแค่สองขวบกว่า
แต่เด็กๆนั้น สามารถเข้าใจถึงเหตุและผลได้แล้วนะคะ
ดีกว่าหลอกล่อให้เค้าไปโดยไม่เต็มใจ
ครั้งถัดไป เค้าก็จะไม่เชื่อใจเราอีกแล้ว
•• สีพา ••
โฆษณา