11 ม.ค. 2020 เวลา 14:20 • ธุรกิจ
บทสรุป Season 1 ขายของออนไลน์ให้ประเทศเพื่อนบ้านดีหรือไม่
อย่าได้รีบฟังโฆษณาชวนเชื่อ ถ้าคุณยังไม่ได้อ่านเรื่องนี้...(คำเตือน เนื้อหานี้มีคำหยาบคาย แต่คนเขียนก็พยายามเขียนให้สุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้)
parcel credit Unsplash
ความเดิมเมื่อชาติที่แล้ว เอ๊ย ตอนที่แล้ว
หลังจากที่แอดมินผ่านการฝึกวรยุทธ์ไปบุกตลาดต่างประเทศตั้งแต่ การทำโฆษณาไปหากลุ่มเป้าหมาย การเลือกตัวแทนไปขายสินค้า และจนกระทั่งลงไปยังสนามรบจริง...
"นักสู้ย่อมมีบาดแผล"
การขายใน 1 วันเสมือนคุณกำลังเล่มเกมส์ออนไลน์ชื่อดัง ที่ตอนเริ่มยิงโฆษณาเหมือนกำลังกระโดดร่มลงไปเสี่ยงดวงใน map
ถ้าคุณได้ map ดีหรือลูกค้าดีๆ ก็กำไรมาเห็นๆ ลูกค้าน่ารักๆก็มี ชอบสินค้าแล้วกลับมาอุดหนุนใหม่ คุยง่าย ซื้อง่ายไม่เยอะ ลูกค้าแบบนี้น่ารักน่าสะสม น่าเก็บไว้นานๆ สร้าง relationship ยาวๆ
ถ้าบังเอิญวันนั้น จิ้งจกทัก ตาขวาขยิบ เดินก้าวเท้าผิดข้างออกจากบ้าน อาจจะเจอ map พังๆ หรือลูกค้าที่ช่วยดึงให้กำไรเราตกต่ำ เช่นไปถึงแกล้งไม่รับ หักคอลดราคากันหน้าบ้าน หรือต่อราคาแบบที่ต้องร้องอุทานว่า "วอ ดอ ฟอ"
Happy F...ing Day
ระหว่างช่วงปีใหม่ที่แอดมินเขียนตอนที่แล้ว ก็ยังเจอลูกค้าแปลกประหลาดอย่างต่อเนื่อง
ช่วงก่อนจะเค้าท์ดาวน์เจอลูกค้าทักมาคุยซะดิบดี เราก็คุยอย่างเป็นมิตรตามประสาคนค้าขาย
ลูกค้าถามสินค้าราคา 1200 พร้อมขอลดราคาเหลือ 800!!
เราก็พยายามล่อลวงลูกค้าด้วยของแถมที่ดูดีสักหน่อยแต่ของราคาเดิม
แต่ลูกค้าก็ขอของแถมที่มีราคา 1200 บาทเท่ากัน พร้อมต่อเหลือ 850 บาท คุณพระ
มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ลูกค้ามีการดราม่าให้ดูน่าสงสาร ว่าซื้อร้านไหนก็โดนหลอกให้ซื้อของปลอมๆ เราเลยอธิบายว่าของเราเป็นอีกเกรดนึง ซึ่งราคาต้นทุนมันก็ออกจะเกินราคาที่ลูกค้าต่อแล้ว (ต่อจาก 2400 เหลือ 850 เริ่ด)
ถ้ามีร้านค้าไหนขายของเกรดนี้ให้ราคานี้ แสดงว่าเป็นของปลอมแน่นอน
ลูกค้ายังมีลูกอ้อนบอกว่า เถอะน่าถือว่าให้เป็นของขวัญปีใหม่ ถ้าคราวนี้ซื้อแล้วพอใจ จะกลับมาซื้ออีก ให้ลูกค้าเถอะนะ...
เราถึงกับเหลือบไปมองป้ายชื่อร้าน เอ๊ะ ไม่ได้ชื่อมูลนิธิ เมตตา กรุณา มุธิตา อุเบกขา หรือมูลนิธิเพื่อนหญิงแต่อย่างใด ค้าขายก็ต้องการกำไร ใครจะขายให้เหมือนให้ฟรีแถมขาดทุนล่ะเจ๊!!!
สรุปจบด้วยว่าลูกค้าก็ไม่ได้ไป ทางแอดมินก็หวังว่าลูกค้าจะได้ซื้อของในราคาที่ถูกใจ และไม่โดนหลอกอีกนะจ๊ะ ขออวย porn
สุขเถิดแม่ชีอยู่ดีเถิดหนา คอยโมทนาหมู่มารอย่ามี...
เอาล่ะ นอกจากลูกค้าที่พาปวดหัว จนคนขายจะต้องกินยาพารา ไอบูโพรเฟ่นต์ จนบางทีอยากจะกรอกไซยาไนต์ตามลงไป เรายังมีลูกค้า ไม่สิ ไม่ใช่ลูกค้า
แง๊น แง๊น แง๊น
สายไม่ซื้อแต่ชอบป่วนนี่ก็มา อันนี้แรกๆก็พาปวดหัว แต่เดี๋ยวคราวหน้าเจออีกต้องขอมอบดอกหน้าวัว ดอกไม้จันทน์ให้เป็นรางวัลซะหน่อย
บางทียิงแอดไปจะเจอคอมเม้นต์แปลกและป่วน จนงงว่าไปเกลียดกันแต่ชาติปางไหน
"ร้านนี้ถามไปไม่ทัก ไม่ต้อง inbox มานะ ไม่ซื้อหรอก" แวบเข้าไปดูโปร์ไฟล์ เอ๊ะ ก็ไม่เคยคุยกัน อันที่จริงก็อยากทักไปด่า แต่ช้าก่อน... ยังมีพีคกว่านี้
"ร้านนี้ไม่ติดราคา ขอบลอค" นี่ก็ไม่เคยคุย เจ๊แกอยู่ๆมาเม้นต์ป่วนๆในโพสเรา พอเข้าไปดูโปร์ไฟล์เข้าไม่ได้โดนบลอค เลยใช้เฟสบุคอวตารของแม่เข้าไปดู ปรากฏว่าโอโห
ประจานเราหน้าเฟสส่วนตัว!!!
ร้านนี้คบไม่ได้ ไม่ซื้อของ ทำท่าเหมือนจะปิดชื่อร้าน แต่ก็เปิดไว้แหละ โมโหจนอยากจะคอมเม้นต์ด่าในเฟสนาง แต่เอ๊ะ พอดูแล้ว..
ไม่มีใครกดไลค์หรือเออออกะนางเลยนะ
มาถึงตรงนี้เพื่อนๆอาจจะงงว่าทำไมไม่เขียนราคา ซึ่งส่วนใหญ่เราจะเขียนแหละ แต่เนื่องจากบางครั้งการเขียนราคาชัดเจน และค่าส่งแยกพื้นที่เนี่ย ลูกค้าก็จะดราม่าอีก เพราะค่าส่งแต่ละเมืองนั้นก็ไม่เท่ากัน
คือสมมติเราจะส่งจากเมือง A ไปเมือง B ค่าส่งก็จะประมาณ 100-200 บาท มีคนแนะนำว่าเวลาบอกราคาลูกค้า ให้บวกราคาค่าส่งให้เสร็จสรรพไปเลย นิสัยเค้าจะต่างกับลูกค้าไทยหน่อยตรงที่ว่าลูกค้าคนไทยส่วนใหญ่ก็ยินดีจะออกค่าส่งเพิ่มเติม
เคยคุยกับลูกค้าโดยการบอกทั้ง 2 แบบคือบอกราคา+ค่าส่ง กับบอกรวมไปเลย คือเอาจริงๆ ถ้าสินค้าเราเป็นที่ต้องการแล้วเค้าซื้อหาไม่ได้ ถ้าของน่าใช้ และราคาไม่ได้แพงเกินไป เค้าก็ยินดีจ่ายแหละ
ผู้อ่านอ่านซีรี่ส์นี้จนจะจบ บางทีก็อาจจะงงว่าอีเจ๊นี่บ่นอะไร อ่ะไหนๆ จบแล้วก็ขอสรุปใจความสำคัญเลยแล้วกัน
1. ก่อนจะทำสัญญาอะไรโดยเฉพาะสัญญาค้าขาย สัญญาจ้างงาน บางครั้งเราไม่รู้หรอกว่าคำศัพท์แค่บางทำอาจจะทำให้เราเสียเปรียบ เสียเงินค่าทนายเล็กๆน้อยๆดีกว่าเสียหายหนักๆนะ
2. นิสัยในการซื้อของของคนแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน อย่างในช่วงแรกที่แอดจะใช้การซื้อขายแบบค้าขายกับคนไทย แต่ใช้ไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องปรึกษาผู้รู้เพื่อที่จะใช้วิธีการขายที่ถูกต้อง
3. เราไม่สามาถเลือกลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้า แต่อย่างน้อยก็สามารถสกรีนได้ ลูกค้าที่เคยมีประวัติไม่รับสินค้า หาเรื่องปฏิเสธการรับสินค้า หรือแนวโพสต์หาเรื่อง ก็ขอจบด้วยการแบนออกไปจากเพจอย่างถาวร เพราะเราไม่จำเป็นต้องขายลูกค้าทุกคน โดยเฉพาะลูกค้าที่ทำให้เราเสียเงินโดยใช่เหตุน่ะ
ไปขายในอาเซียนนั้นมีข้อดีอย่างไร
1.ได้สั่งซื้อวัตถุดิบ/สั่งผลิตสินค้าในราคาที่ถูกลง เมื่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีการขยายตัวทำให้การสั่งผลิตสินค้าได้จำนวนมากขึ้น และจะมีอำนาจในการต่อรองกับ supplier มากขึ้น
2. เพิ่มอัตราสินค้าหมุนเวียนในสต็อค เมื่อมีตลาดมากขึ้น สินค้าที่อาจจะขายากในไทย แต่บางครั้งก็ไปขายง่ายที่ต่างประเทศ ทั้งนี้ควรศึกษาพพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละประเทศด้วย
ข้อเสีย
1. ใช้เวลา/ต้นทุนในการปิดการขายมากกว่าลูกค้าคนไทย การขายสินค้าในต่างประเทศของแอดมินเป็นการขายแบบ B2C ซึ่งต้นทุนทั้งค่าขนส่งสินค้า ค่าแพคกิ้ง ค่าจัดการสินค้าในคลัง ค่าโฆษณา นอกจากนี้ลูกค้าจะมีนิสัยชอบถาม ชอบต่อรองมากกว่าลูกค้าคนไทย บางครั้งในยอดที่เท่ากัน หรือน้อยกว่าขายในไทย ลูกค้าจะถามเยอะมาก... รวมทั้งบางครั้งเหมือนทำท่าจะซื้อแล้ว แต่จบประโยคการสนทนาหลังจากคุยมาราวชั่วโมงด้วยประโยคที่ว่า "ไว้ก่อนแล้วกัน" "คิดดูก่อน" แต่พอเราบอกว่ามีส่วนลดเท่านั้นแหละ สั่งทันที
แนวทางแก้ไข
1.1 ลดต้นทุนค่าขนส่ง ส่งสินค้าเข้าคลังครั้งละลอตใหญ่ ลดจำนวนรอบในการส่งสินค้าเข้าคลัง ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ยิบย่อย
1.2. ยิงแอด FB ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้นทุนในช่วงที่ผ่านมาได้ใช้ไปกับเฟสบุคเยอะพอสมควร เพราะช่วงลองตลาดแรกๆ แอดขยันมาก ยิงแอดทั้งวัน พอนั่งทำบัญชีก็เลยรู้ว่ากำไรเราหายไปกับโฆษณาเยอะมาก จนต้องคอยสังเกตและบันทึกเวลาช่วงที่ลูกค้ามาทักเราเยอะๆเท่านั้น
2. พฤติกรรมลูกค้ายากจะควบคุม ตามที่แอดเคยเขียนไว้ในบทก่อนหน้านี้ว่าการเก็บเงินปลายทางก็มีความเสี่ยงที่ลูกค้าไปถึงแกล้งไม่รับของ ไม่รับสาย ฯลฯ แต่แนวทางการแก้ไขก็พอมีอยู่บ้าง
1
แนวทางแก้ไข
2.1 หลีกเลี่ยงการยิงโฆษณาช่วงกลางเดือน ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มีปัญหามักจะเป็นลูกค้าที่มาสั่งในช่วงกลางเดือนนั่นแหละ เพราะด้วยสภาพคล่องทางการเงินของลูกค้ามักจะฝืดเคือง ดังนั้นโอกาสที่ลูกค้าจะสั่งแล้วเท อัตราค่อนข้างสูง
2.2 ขึ้นแบลคลิสต์ลูกค้าที่เคยปฏิเสธการรับสินค้า คนค้าขายก็ย่อมอยากปิดการขายได้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ส่วนคนป่วนโพสต์ที่จ้องจะมาหาซีนหน้าเพจ ก็ขอแบนอย่างเงียบๆ พร้อมกรวดน้ำคว่ำขัน
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดทั้งซีรี่ส์
โปรดติดตาม Season ต่อไปพร้อมอัพเดตสถานการณ์
ถ้าชอบกดไลค์ด้วย 1ID
รู้สึกอย่างไรมาแสดงความคิดเห็นกันนะจ๊ะ
#successjourney
End of Season 1
โฆษณา