12 ม.ค. 2020 เวลา 12:03 • ปรัชญา
Leading the way of life
"นำชัย..ชีวิต"
ผมเชื่อว่าคนเราตั้งแต่เรียนจบมาแล้ว.ล้วนต้องหางานทำ...ชีวิตคนเราจึงเหมือนถูกจับโยนให้เข้าสู่สนามรบ เพื่อต่อสู้ช่วงชิงสิ่งต่างๆมากมายให้ชีวิตอยู่รอดปลอดภัย
ยิ่งเติบโตยิ่งชำนาญในการช่วงชิงเพื่อชีวิตที่ดีกว่า เปลี่ยนชีวิตดิ้นรนไปสู่ความมั่นคงและแสวงหาความมั่งคั่งอย่างมุ่งมั่น
ยิ่งรู้ช่องทางมากยิ่งไขว่คว้าทุกโอกาสมาก โดยไม่มีวันที่จะปล่อยให้หลุดมือไปได้ แม้ต้องแข่งขันยากแค่ไหนก็เอาให้สำเร็จ
ชีวิตจึงถูกนำให้ยิ่งได้และยิ่งไม่พอ
แต่น่าประหลาดมาก ตรงที่สิ่งที่ได้ยินจากคนที่อยู่ช่วงท้ายของชีวิต หรือคนที่ก้าวไปถึงเส้นชัย เอาชนะมาแล้วมากมาย กลับต่างมีมุมมองที่เปลี่ยนไป
บางคนร่ำรวยมหาศาล ผ่านเวทีช่วงชิงมากมาย ขึ้นชื่อว่าเป็นคนชั้นนำ และออกมาเล่าเคล็ดลับความสำเร็จสุดยอดในการพิชิตทุกเป้าหมายความสำเร็จ จนเป็นที่น่ายกย่องชื่นชม
พวกเขากลับบอกว่านั่นไม่ใช่ของจริง ที่ชีวิตคนเราต้องการ..บ้างทิ้งสมบัติไปแสวงหาแนวทางสงบ บ้างเลือกกลับไปใช้ชีวิตที่เรียบง่าย
เรียกว่าสูงสุดคืนสู่สามัญ..อยากเป็นคนธรรมดาไร้หัวโขนที่ต้องแสดงต่อไป
บ้างอยากคืนกำไรสู่สังคมเหมือนไถ่บาปที่ผ่านมา..
ช่างน่าฉงนยิ่งนัก
กว่าที่จะเกิดเหตุ...ก็ต่อ
"เมื่อคนเราเข้าใจความจริงว่า...เรามิได้เกิดมาเพื่อการแข่งขันและแสวงหาชัยชนะต่อ..ผู้คนหรือเรื่องราวบนโลกใบนี้
เรื่องราวในชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปอีกรูปแบบหนึ่งอย่างสิ้นเชิง..
 
เพราะแท้จริงแล้ว..เราทุกคนต่างเกิดมาเพื่อเรียนรู้และฝึกฝน...สำหรับเอาชนะตนเองให้ได้ต่างหาก ไม่ใช่เพื่อเอาชนะใครเพื่อชิงธงใดๆกับผู้คน
เมื่อถึงเวลานั้น..วันที่เรารู้ว่าการเอาชนะใจตนได้ ก็คือวันที่เราจะชนะทุกสิ่งได้อย่างแท้จริง
ทุกสิ่งในใจจะเริ่มสงบ ไม่ดิ้นรนแสวงหา แต่รู้ว่าควรพอได้เมื่อถึงห้วงเวลาใด
ฟังดูอาจจะรู้สึกสวนกระแสเอามากๆ..เพราะคนส่วนใหญ่ล้วนวิ่งเข้าหา..ความสำเร็จมากกว่าความสุขที่แท้..
แต่สิ่งที่ชวนคิดคือเราจะรอเวลา..ให้วันนั้น วันที่เจอบางสิ่งให้ต้องหันมาฉุกคิดได้ว่า..การนำชีวิตของตนกำลังมุ่งไปสู่..ชัยชนะแบบไหน
เราอาจไม่มีเวลามากพอ..ที่จะกลับตัว..
ดังนั้นจะดีกว่าไหมที่จะสร้างดุลยภาพ..ให้ชีวิต..ค่อยๆปรับเปลี่ยน..ให้พร้อมที่จะปล่อยวางการนำชีวิตให้ถึงจุดความพอดี..พอเพียง
วันเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ทุกครั้ง..อาจเป็นเวลาดี..ที่ชวนให้ครุ่นคิด...
ในวันนี้อยากเสนอแนวทางที่สำคัญของการ..นำชัย..ชีวิตตนเอง อีกรูปแบบหนึ่งมี(Leading the way of life ) 4ประการ (4ป) ดังนี้คือ
@"เปลี่ยนความเชื่อใหม่"(Change your mind..)
เมื่อลองคิดใหม่...ว่าทุกสิ่งนั้นล้วนมีความเป็นไปได้กับชีวิตเรา.. เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เราเริ่มต้นก้าวข้ามขอบความเชื่อดั้งเดิมได้
..จะเกิดความสว่างโล่ง มองเห็นทุกสิ่งไม่มีขีดจำกัดใดๆ มาหยุดยั้งได้
สิ่งที่เคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้จะเริ่มหดตัวและเลือนหายไปจากใจ และจากชีวิตเดิมๆของเราแทบจะทันที
เราจะสามารถสลัดทิ้งสิ่งที่ยึดมั่นไว้ ไปทีละน้อย จนเริ่มอยู่อย่างเรียบง่าย ละความสบาย ที่เกินความจำเป็น ความไม่มีจะยังคงมีอยู่เพราะรู้จักพอ
มุมมองที่เน้น.."Great Mindset..บนโลกใบนี้
ที่เน้นการเอาชนะผู้อื่นในการแสวงหาสิ่งไม่เที่ยง และยึดมั่นต่อไปไม่ได้ จะดูดีเพียงใด
เราก็จะสามารถเปลี่ยนไปสูGreat mindset"คือการรู้จักคำว่าพอเพียง..ได้เสมอ
เพราะด้วยมุมมองนี้..คือการสร้างความยิ่งใหญ่ที่แท้ได้ในใจ...ด้วยตนเอง
@"ปล่อยให้ใจนำ("Follow your heart)
เมื่อใจนำเราอย่างเชื่อมั่น...ว่าในท้ายที่สุดของทุกสิ่งก็คือ..ตัวเราเอง..ที่ทำได้ พูดได้และเป็นได้จริงๆ
..เพียงแค่เดินตามที่ใจฝัน..และเชื่อมั่นหัวใจตนเองให้มากพอ โดยไม่รู้สึกผิดหวังกับหัวใจตนเอง
บางทีการเดินทางสายกลางนั้น..อยากนักที่จะยอมให้เกิดขึ้น เราอาจจะเจอความสูญเสียสิ่งที่เคยมี เคยได้และเคยเป็น
แต่สุดท้ายใจคนเราจะรู้ซึ้งในโลกธรรม8..ที่ห้ามไม่ได้ที่จะให้เกิดขึ้น มีแต่ต้องเอาชนะที่ใจเราเท่านั้น
หยุดใจให้นิ่ง..เพื่อปล่อยใจนำพา
@"ปลดปล่อยความกล้า"(Unleash your courage)
เพื่อทำทุกสิ่งให้เกิดขึ้น..แบบไร้ข้อจำกัด..จงให้อุปสรรคต่างๆและข้ออ้างที่ขวางทางหรือคอยเบรคชีวิตของเราให้หยุดนิ่ง
สิ่งที่คอยดึงให้คนเราอยู่ในเส้นทางเดิม เมื่อใจเชื่อมั่นก็จะกลายเป็นโอกาสของชีวิตอย่างไหลลื่นไปตามที่ใจลิขิตไว้แล้ว
การสละบางสิ่งเพื่อเลือกเส้นทางชีวิตที่พอเหมาะพอดี อยู่อย่างพอเพียง คือความกล้าที่จะถูกแรงต้านเยาะเย้ยและถากทางจากใครบางคน
แต่เมื่อใดที่เราพบเส้นทางที่สงบในการชนะตนเองได้ ภายในกระแสสังคม เราจะรู้ได้ด้วยตนเองว่า...การปล่อยเพื่อปลดล๊อคไม่จำเป็นต้องสู้ใดๆใจจึงไม่ต้องหวั่นไหวด้วยความกลัว
@"เปิดโลกทัศน์"(Renewal your vision)
การมีมุมมองที่กว้างขึ้นจะช่วย"เชื่อมต่อให้เราสามารถผ่านไปสู่มิติชีวิตใหม่".ที่เต็มไปด้วยหนทางให้ก้าวเดินอย่างท้าทาย
ความ.ตื่นเต้นอย่างตื่นตาตื่นใจมากมายที่จะ"ได้เห็น ได้พบและได้เรียนรู้"..ในสิ่งที่เราไม่เคยรู้ว่าเราไม่รู้เรื่องราวอีกมากมายนัก
แล้วเราจะค้นพบความลับของโลกใบนี้..ที่ซุกซ่อนมาอย่างยาวนาน แต่อยู่ใกล้เรามากจนไม่รู้สึกตัวดั่งนั่งทับกองมหาสมบัติ
..เพราะคำตอบนั้นล้วนอยู่ภายในตัวเราเอง..
และทุกสิ่งที่คนเราค้นพบย่อมแตกต่างกันไปสุดแล้วแต่ว่าใครจะค้นพบช้าหรือเร็ว..และเป็นสิ่งใดเท่านั้นเอง...."
หวังว่า..วันเวลาที่ช่วยให้คนเราได้"ฉุกใจ..หวลคิด"ถึงเส้นทางที่ต้องเดินทางด้วยตนเองได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งมี..โอกาสฝึกฝนเอาชนะตนในมิติต่างๆ มากมาย
โลกข้างในตนเองนั้นคือดินแดนแห่งความมหัศจรรย์ กว้างขวางแทบไม่มีที่สุดให้คนเราเลือกเดิน และนำชัยให้กับชีวิตตนเอง
ได้มากได้น้อย..ไม่สำคัญเท่ากับการได้เริ่มต้น..หันมานำตนเอง..มากกว่านำผู้อื่น..แต่ก็ไม่ได้หมายถึงการต้องแยกตัวปลีกวิเวกพ้นสังคม..."LL&L
โฆษณา