รู้หรือไม่ว่า? โมเดลธุรกิจ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากในโลกยุคปัจจุบัน
รู้หรือไม่ว่า? บริษัทอย่าง อเมซอน และ แอปเปิ้ล สามารถก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกได้ก็เพราะโมเดลธุรกิจ
และถ้าคุณอยากให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ คุณจำเป็นต้องเขียนโมเดลธุรกิจ
แล้วโมเดลธุรกิจคืออะไร? เหลาธุรกิจเล่าให้ฟัง
การเขียนโมเดลธุรกิจ คือการนำปัจจัยต่างๆในการทำธุรกิจมารวมกัน ทำให้เห็นภาพรวมของธุรกิจอย่างชัดเจนใน1หน้ากระดาษ
เราจะได้เห็นถึง จุดแข็ง จุดด้อยของธุรกิจ เพื่อสร้างเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น นำไปสู่การคิดกลยุทธ์ทางธุรกิจ
ถ้าพูดถึงโมเดลธุรกิจในยุคนี้ ทฤษฎีที่ขาดไม่ได้เลยจริงๆก็คือ โมเดลธุรกิจแบบแคนวาส ซึ่ง อเล็กซานเดอร์ ออสเทอร์วัลเดอร์ เป็นผู้คิดค้นขึ้น เจ้าของหนังสือ Business Model Generation
และได้รับการยอมรับไปทั่วโลกว่าเป็นโมเดลธุรกิจที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
โดยโมเดลธุรกิจแบบแคนวาส นั้นจะเป็นการตอบคำถามพื้นฐานทางธุรกิจ 9 ข้อ ได้แก่
1. ลูกค้าคือใคร? (Customer Segments)
แน่นอนว่าก่อนที่คุณเริ่มทำธุรกิจนั้น คุณต้องรู้ว่าจะขายใคร? คุณต้องเจาะจงไปเลยว่าเป็นคนกลุ่มไหน สถานะอะไร เพศอะไร อายุเท่าไหร่ มีพฤติกรรมเป็นอย่างไร มีไลฟ์สไตล์แบบไหน ฯลฯ
ถามว่าเพื่ออะไร? เพื่อคุณจะได้สร้างสินค้าและบริการ รวมถึงคอนเท้นต์ประชาสัมพันธ์ ให้ถูกจริตของกลุ่มลูกค้ามากที่สุด
2. คุณจะเข้าถึงลูกค้าด้วยวิธีแบบไหน? (Channels)
ถ้าข้อที่แล้วถ้าเปรียบลูกค้าเป็นปลา หลังจากที่เลือกชนิดปลาแล้วข้อนี้ก็เหมือนเลือกที่ตกปลา แน่นอนว่าถ้าเป้าหมายคือปลาทะเลน้ำลึก คุณก็ต้องทำประมงที่ทะเลน้ำลึก
เช่นเดียวกัน คุณต้องเลือกว่าจะขายผ่านช่องทางไหน ออฟไลน์หรือออนไลน์ ถ้าเปิดหน้าร้านต้องต้องเลือกทำเลตรงไหนที่กลุ่มลูกค้าของคุณอยู่เยอะ
รวมถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ จะทำให้ลูกค้ารู้จักสินค้าและบริการ ผ่านช่องทางไหน? social media , ตั้งบูทประชาสัมพันธ์ , ออฟไลน์หรืออนไลน์ ฯลฯ
3. วิธีบริหารความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรและลูกค้าเป็นอย่างไร? (Customer Relationships)
หลังจากที่รู้จักกลุ่มลูกค้าดีแล้ว
คุณต้องรู้ว่าลูกค้าชอบหรือไม่ชอบอะไร? คุณจะสื่อสารกับลูกค้าอย่างไร? สร้างคอนเท้นต์แบบไหนที่จะทำให้ลูกค้าชอบและตอบสนองมากที่สุด
4. รายได้มาจากไหนและจะหาได้อย่างไร? (Revenue Streams)
แน่นอนคัรบว่าสิ่งที่เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการทำธุรกิจนั่นก็คือกำไร
และก่อนที่จะมีกำไรก็ต้องมีรายได้ คุณก็ต้องรู้ว่า ธุรกิจจะมีรายได้มาจากไหน? สินค้าหรือบริการ?, รายได้ประมาณเท่าไหร่? และจะหารายได้ด้วยวิธีอะไร?
5. คุณค่าขององค์กรคืออะไร? (Value Propositions)
ข้อนี้ถือว่าสำคัญที่สุด ก่อนเริ่มธุรกิจคุณต้องถามตัวเองเสมอว่า
สินค้าและบริการของคุณมีความสำคัญต่อลูกค้าอย่างไร? ลูกค้าจะได้ประโยชน์อะไรจากสินค้าและบริการของคุณ ข้อนี้ต้องตอบให้ชัดเจน
6. ต้นทุนมาจากอะไร? (Cost Structure)
นอกจากรายได้ที่ต้องรู้แล้ว ส่วนที่จำเป็นต้องรู้เช่นกันก็คือต้นทุน ยกตัวอย่างเช่น ค่าเช่า , ค่าจ้างพนักงาน , ค่าขนส่ง ฯลฯ
ต้องวิเคราะห์ว่ามีต้นทุนไหนที่ไม่จำเป็นหรือไม่?
ต้องคำนวณให้ดี เพราะหลายธุรกิจที่ล้มลงก็เพราะเงินทุนหมด ทั้งๆที่ธุรกิจกำลังไปได้ดี
7. ต้นทุนที่ต้องใช้มีอะไรบ้าง? (Key Resources)
ต้นทุนอะไรที่คุณขาดไม่ได้และต้องมีมากที่สุด?
ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องใช้โรงงานไหม? มีช่างฝีมือดีไหม? หน้าร้านทำเลดีไหม? เป็นต้น
8. กิจกรรมขององค์กรคืออะไร (Key Activities)
อะไรคือสิ่งที่คุณอยากจะทำได้ดีมากที่สุด?
อะไรคือสิ่งที่คุณทำในทุกๆวัน?
9. พาร์ตเนอร์แบบไหนที่ต้องการ (Key Partners)
แน่นอนว่าการจะทำธุรกิจนั้นไม่สามารถทำคนเดียวหรือองค์กรเดียวได้
คุณจะต้องเลือกพาร์ทเนอร์ที่สามารถมาเติมเต็มในส่วนที่ธุรกิจขาดหายไป
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณผลิตสินค้าเองไม่ได้ คุณก็ต้องพึ่งพาซัพพลายเออร์ แล้วซัพพลายเออร์แบบไหนที่คุณต้องการมากที่สุด
ถ้าคุณต้องการสินค้าที่หลากหลายคุณต้องติดต่อซัพพลายเออร์ที่เยอะขึ้นหรือไม่?
หากคุณไม่เชี่ยวชาญในการทำการตลาดออนไลน์ คุณต้องจ้างบริษัท Digital marketing หรือไม่ ?
และนี่ก็คือแบบการเขียนโมเดลธุรกิจแบบคร่าวๆ ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ แล้วคุณจะเห็นภาพรวมของธุรกิจได้ชัดเจนขึ้น
แล้วโมเดลธุรกิจที่ดีต้องเป็นอย่างไร?
ก่อนอื่นคุณต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่ลูกค้าจะเปลี่ยนใจจากคุณไปหาคู่แข่ง?
แล้วคุณจะวางแผนอย่างไรให้ลูกค้า ให้ลูกค้าจงรักภักดีในแบรนด์และกลับมาซื้อสินค้าสินค้าของคุณอีก
เหมือนดั่งสาวกแอปเปิ้ลที่จะต้องซื้อสินค้าของ Apple ไปตลอดชีวิต
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ ในยุคแห่งการดิสรัปขั่น โมเดลธุรกิจในปัจจุบันจึงมีอายุที่สั้นลง อาจต้องเขียนใหม่ปีต่อปี ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่ธุรกิจโมเดลที่เขียนขึ้นมาอาจมีอายุยาวนาน 5-10 ปี
- 175
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
