17 ม.ค. 2020 เวลา 00:15 • ไลฟ์สไตล์
"แค่ใครสักคนใส่รองเท้าดีๆ หมายไม่ได้หมายความว่าเขาจะวิ่งได้เร็วขึ้น"
Just because someone has fancy sneakers doesn't mean they can run faster. - JON BON JOVI
บังเอิญไปเห็นประโยคนี้เข้าแทบหงายท้อง
มันโดนเหรอ?
ป่าว หิวข้าว ไม่ได้กินข้าวมาสองวันแล้ว!
จริงๆแล้วก่อนที่ผมจะมาเห็นประโยคนี้ ผมยึดแนวทางวิธีคิดที่คล้ายกันๆอยู่แล้ว
พอรู้ว่ามีคนเจ๋งๆคิดแบบเราด้วยก็เลยอยากพูดอยากเล่าแชร์ประสบการณ์ให้ฟังซักหน่อย
เกริ่นก่อนว่าผมไม่ได้มีแนวคิดแบบนี้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่ตกผลึกมาจากประสบการณ์ของตัวเองหลังจากที่ผ่านอะไรมามากมาย ซึ่งเรียกว่าเจ็บมาเยอะ! (กรณีนี้เรียกว่าเสียตังค์มาเยอะกับของแพงๆ)
สมัยก่อนแค่ผมมีความคิดแว๊บอยากวิ่งจ๊อกกิ้งขึ้นมา ผมไปเลยครับ สอยเลย รองเท้าวิ่งสามพันกว่าบาท(ยังดีที่ซื้อแค่สามพัน) ฮ่าๆ ถามว่าวิ่งได้นานไหมบอกเลยว่า ไม่! แล้วรู้อะไรไหม ตอนแรกผมคิดว่าตอนนี้ยังไม่วิ่งก็ไม่เป็นไร รองเท้าก็เก็บไว้ก่อนก็ได้ อยากวิ่งเมื่อไรก็หยิบมาวิ่ง แต่หารู้ไม่ว่า รองเท้ามันมีอายุการใช้งานครับ ผมจำไม่ได้ว่าผมเก็บไว้กี่ปี แล้วพอผมเอามาวิ่งรู้ไหมเกิดไรขึ้น กาวหลุดหมด วิ่งๆอยู่พื้นห้อยเลย
ก็เป็นอันว่าเสียตังค์ไป
โอ้ย มีเยอะ อารมณ์แบบว่า เห่อ อะไรขึ้นมาละ เปย์กระจุยกระจาย ทั้งๆที่เห่อได้ไม่นาน
อ่ะ อีกตัวอย่างก็ได้ ครั้งหนึ่งมีอารมณ์อยากวาดรูปขึ้นมา ก็ไป take course ซื้ออุปกรณ์อะไรมาเต็มไปหมดเรียกว่าแทบจะครบชุดเลยทีเดียว ทั้งๆที่น่าจะลองหัดวาดเองจากการดูคลิปสอนจาก Youtube ไปก่อน อุปกรณ์ก็ซื้อเอาเฉพาะเท่าที่จำเป็น ณ ตอนนั้น ลองดูซักระยะหนึ่งว่าเราชอบจริงไหม
ถ้าชอบจริงก็ค่อยวางเดิมพันเพิ่มทีละนิด
ถามว่าอุปกรณ์ดีมีผลกับฝีมือไหม ผมว่าก็มีส่วน แต่คิดว่ามันมีผลแค่ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น อย่างรองเท้าก็อาจะมีเทคโนโลยีที่ซัพพอร์ตช่วยให้การวิ่งยืดหยุ่นขึ้น หรือ กล้องถ้ายรูป ยิ่งแพงฟังก์ชั่นอะไรต่างๆมันก็ยิ่งเลิศ
แต่ผมคิดว่าอย่างไรก็แล้วแต่หากเป็นการพึ่งเริ่มต้นก็ควรจะเริ่มจากอะไรเล็กๆ เรียบง่ายไว้ดีกว่า
สุดท้ายด้วยความที่เจ็บกับตัวมาเยอะ ก็คิดว่าไม่ได้และ จะเป็นแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ จะทำอะไร จะซื้ออะไรต้องยึดหลักเพลย์เซฟไว้ก่อน
ทุกวันนี้ รองเท้าวิ่งผมซื้อมือสองจากตลาดนัดคู่ละสองร้อยและใช้ใส่ไปทำงานด้วยสำหรับในวันที่ไม่ได้ไปพบลูกค้า หรือไม่มีประชุม แต่ก็ยังมีรองเท้าทางการไว้คู่หนึ่งเผื่อไว้ (ความจริงแต่ก่อนบ้าซื้อรองเท้าเหมือนกันนะ ซื้อมาเก็บหลายคู่เหมือนกันไม่ได้ใส่หมด)
สมุดจดเหมือนกัน เดี๋ยวนี้ซื้อเล่มห้าบาทสิบบาทเซเว่น ซึ่งแต่ก่อนชอบซื้อแบบสวยๆดีไซร์ดีราคาแพง ซึ่งก็ไม่จำเป็นอีก
จริงๆแล้ตอนนี้้เองมันก็มีของที่อยากได้แว่บเข้ามาในหัวเรื่อยละครับ แต่ก็พยายามกดข่มความอยากเอาไว้ พอสักพักมันก็จางไปเอง
อย่างตอนนี้ อยากได้ IPAD ที่มันเขียนปากกาได้อยู่เนี่ย ก็พยายามปลุกปลํ้ากับกิเลศอยู่
เพราะเราก็มี Ipad อยู่แล้วเครื่องนึง ถึงจะล้าสมัยแล้วแต่ก็ยังพอใช้ไปได้!
เท่าที่เขียนมาผมก็แค่อยากจะแชร์ให้ฟังเฉยๆครับ
ผมจะไม่ชี้ว่าต้องทำแบบนี้นะ คิดแบบนี้นะ
หรือตัดสินว่าใครทำแบบนี้ดี ทำแบบนี้ไม่ได้
เพราะอย่างไรคนเราก็ไม่ทางที่จะคิดเหมือนกันได้อยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นหากคุณเชื่อมั่นในทางเดิน หรือความคิดของคุณแล้ว
ก็จงเดินอย่างห้าวหาญและมั่นใจกับสิ่งที่คุณเลือก
ดีไซร์ชีวิตที่เหมาะสมให้ตัวเองครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
หากชอบกด LIKE กด SHARE เป็นกำลังใจให้ผมด้วยครับ
ภาพโดย PIRO4D จาก Pixabay
โฆษณา