17 ม.ค. 2020 เวลา 05:21 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Blockchain ระบบ ที่จะมาเปลี่ยนโลกอีกครั้ง!!
เมื่อ 45 ปีที่แล้ว โลกเปลี่ยนด้วย Personal Computers
เมื่อ 30 ปีที่แล้ว โลกเปลี่ยนอีกครั้งด้วย Internet
เมื่อ 13 ปีที่แล้ว โลกเปลี่ยนอีกครั้งด้วย iPhone
และมาปีนี้ โลกกำลังจะเปลี่ยนอีกครั้ง ด้วย Blockchain??
cr. pixabey
อย่างที่บอกไปในบทความที่แล้ว ว่า สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมคนจริง ๆ แล้ว ไม่ใช่ Libra แต่ว่ามันคือ Blockchain
Blockchain จะเป็น โครงสร้าง พื้นฐาน ของสิ่งต่าง ๆ บนโลกยุคใหม่
ความจริงแล้ว Blockchain ไม่ใช่สิ่งใหม่ มันเกิดขึ้นมาแล้วถึง 10 ปี!!
จุดเริ่มต้นคือปี 2009 และ แอปพิเคชั่นแรกของ Blockchain คือ Bitcoin ที่ถูกสร้างด้วย Satoshi Nakamoto
เหรียญที่ใครต่อใครก็บอกว่ามันเป็นแชร์ลูกโซ่ เป็นเงินที่ไม่น่าลงทุน ไว้ใจไม่ได้ ในตอนแรก
แม้จะผ่านมา 10 ปี ความยอมรับใน Bitcoin ก็มีมากขึ้น แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ ที่จะยอมรับกันทั้งโลก
ว่าแต่ Blockchain คืออะไร??
ผมขอเล่าง่าย ๆ แบบนี้ละกันครับ
ในยุคก่อน มีหมู่บ้านหนึ่ง ผู้ใหญ่เป็นคนคุม
เวลาใครในหมู่บ้านจะมาถอนเงิน-ฝากเงิน จะต้องเดินมาบอกผู้ใหญ่ ให้ผู้ใหญ่เป็นคนจด เอาไว้
นั่นหมายความว่า ถ้าวันดีคืนดีผู้ใหญ่อยากจะโกงเงินใครสักคน ใครจะไป เถียงได้ เพราะว่าผู้ใหญ่ เป็นคนคุมบัญชีทั้งหมด
แต่ต่อมา มีหมู่บ้านใหม่ มีระบบใหม่ คือ มีผู้ใหญ่เหมือนกัน แต่ทว่า คนที่ถือสมุดบัญชี ดันมี 5 คน
ใครจะเอาเงินเข้า-ออก คราวนี้ต้องเรียกคน 5 คน มาลงบัญชีพร้อมกัน
คราวนี้ จะมีการโกงกัน มันก็ยากแล้วใช่ไหมครับ
โยงเป็นเครือข่ายแบบนี้ครับ
Blockchain คือรูปแบบของหมู่บ้านที่ สอง นี่แหละครับ
แต่ คนลงบัญชี จะมีมากเท่าไหร่ 10 คน 100 คน ก็ได้
ความโปร่งใส จึง เรียกได้ว่า 100% เพราะ ถ้ามีคนแก้ตัวเลข ก็ต้องไปแก้ตัวเลขของคนที่เหลือด้วย ถึงจะสำเร็จ
แล้ว Blockchain จะเปลี่ยนโลกยังไง??
ลองคิดดูนะครับ ว่า ในยุคปัจจุบัน อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกลำบากบ้างในการจัดการข้อมูล??
ต้นทางเก็บอย่างหนึ่ง ปลายทางต้องการอีกอย่างหนึ่ง
บริษัท A ใช้ระบบ ของ ตัวเอง บริษัท B ใช้ระบบตัวเอง
เวลาจะ ส่งต่อข้อมูลกัน ดันแชร์กันไม่ได้ ต้องไปหาตัวกลาง เพื่อแปลงข้อมูล
จะให้เห็นภาพก็ธนาคาร สีส้ม จะโอนไป สีม่วง ทำไมถึงมีค่าธรรมเนียม?
เพราะต่างคนต่างคุยกันคนละภาษาไงครับ
ระบบที่แต่ละธนาคารใช้มันต่างกัน มันถึงมีค่าธรรมเนียม
จนเราได้ระบบ พร้อมเพย์เข้ามา ถึงเริ่มคุยภาษาเดียวกันได้ และโอนโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
แต่อนาคต มันจะเปลี่ยนไป เพราะไม่ใช่แค่ในประเทศไทย ที่คุยภาษาเดียวกัน
แต่ลองคิดดูว่า ทั้งโลก คุยภาษาเดียวกันดูสิครับ จะเป็นยังไง??
การแลกเปลี่ยนข้อมูล มันจะง่ายแค่ไหน
และมันจะไม่ใช่แค่ในวงการแบงค์ มันจะลามไปถึงวงการอื่น ๆ ไปทั่ว
ลองคิดดูว่า ถ้าคุณไป โรงพยาบาล แล้วคุณไม่ต้องไป นั่งกรอกข้อมูล ทำบัตรผู้ป่วยใหม่ ถ้าแต่ละ รพ. สามารถเห็นข้อมูลผ่านด้วยระบบ Blockchain มันจะสะดวกแค่ไหน??
นี่เป็นแค่ตัวอย่างคร่าว ๆ ที่ยกมานะครับ เพราะของจริง มันจะปฎิวัติไปโดยสิ้นเชิง
เหมือนยุคที่ Internet เข้ามาปฎิวัติ วงการใหม่ ๆ จากแต่ก่อนที่เราต้องคุยโทรศัพท์ทางไกล นาทีละ 100 บาท จนมาถึงยุค Internet ที่เราคุยกันผ่านไลน์ แบบฟรี ๆ
ความเปลี่ยนแปลงมันจะเป็นระดับเดียวกัน
1
Blockchain เป็นเสมือน ภาษา ภาษาหนึ่งที่ใช้สื่อสารกัน แต่มันจะคุยกันได้ง่ายกว่าและปลอดภัยกว่า
ทุกคนสามารถที่จะ นำมันไปใช้ประโยชน์ได้ เขียนโปรแกรมจากมันได้
เป็นเหมือนของสาธารณะ ที่ใครต่อใครจะไปหยิบมาใช้ก็ได้ ไม่ต่างอะไรดับ ถนน 8
เลน ที่ให้รถที่ไหนมาวิ่งก็ได้
1
แต่สุดท้าย ก็ขึ้นอยู่กับว่า สิ่งที่สร้างขึ้นมา จะเป็นที่ยอมรับ และใช้งานแค่ไหน
ผู้บริโภค จะเป็นคนเลือก
Facebook รอไม่ได้ที่จะให้ Bitcoin ค่อย ๆ เติบโต และระบบ Blockchain กลายมาเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง เขาจึงเลือกที่จะทำให้มัน เร็วขึ้น โดยการออก Libra ขึ้นมา
และปีนี้ จะเป็นปีทอง ของคนที่มองเห็นโอกาส
มันจะเป็นยุคที่เริ่มต้นของอาชีพใหม่ ๆ
เหมือนตอนที่ Internet เข้ามาเปลี่ยนโลกของเรา
ทุกอย่างไม่ต่างกัน
และไม่แปลก ถ้าจะมีคนกลุ่มหนึ่ง ออกมาบอกว่า เทคโนโลยีเหล่านี้ มันไม่น่าเชื่อถือ และต่อต้านมัน
นั่นเพราะเขายังไม่ได้เข้าใจมันดีพอ
เหมือนกับรถยนต์ ที่ถูกบอกว่า เป็นเครื่องจักรอันตราย ทับคนตายในตอนแรก
เหมือนกับไฟฟ้า ที่ถูกบอกว่า เป็นสิ่งอันตราย ฆ่าคนตายได้โดยการช็อต
ทุก ๆ การเปลี่ยนแปลง มันมีแรงต้านเสมอ
เรื่องนี้เองก็เช่นกัน
มันจะไม่เปลี่ยนไปในทันที แต่มันจะค่อย ๆ เปลี่ยนไป
ตอนนี้ผมนำเรื่องนี้มาเล่าให้พวกคุณได้รู้กันก่อน
ขึ้นอยู่กับพวกคุณแล้วหละครับว่า จะเห็นโอกาสจากเรื่องนี้ได้มากน้อยแค่ไหน
ตอนต่อไป เรามาทำความรู้จักกับ Social Banking กันหน่อยดีกว่า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา