19 ม.ค. 2020 เวลา 01:11
ผู้นำเมียนมาร์และจีนพบกันอีกครั้ง:
จีนจะขยายเส้นทางพัฒนาเศรษฐกิจมาที่เมียนมาร์ โดยจะขยายมาทางมณฑลยูนนานซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เมืองท่าต่างๆ หลายเมืองของเมียนมาร์จะได้รับการปรับเปลี่ยนให้รองรับโครงการพัฒนาเศรษฐกิจ
1
จีนจะเริ่มจากเมืองฟูเจี้ยนซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ เข้าสู่มหาสมุทรอินเดียและอ่าวเปอร์เซีย เมียนมาร์จะเป็นจุดเปิดของมณฑลจีนที่อยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้เชื่อมไปหาอินเดียและบางกลาเทศ รัฐบาลเมียนมาร์ได้ตอบตกลงร่วมพัฒนาทางเศรษฐกิจกับจีนแล้ว
แต่ชาติตะวันตกไม่อยากให้เมียนมาร์ไปร่วมมือกับจีน จึงแต่งละครเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮีนจาในเมียนมาร์และฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือกดขี่ชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียงของจีนขึ้นมาใส่ร้ายทั้งจีนทั้งเมียนมาร์ในเวลาเดียวกันเพื่อให้ชาวโลกที่รับข่าวจากสื่อกระแสหลักตะวันตกได้เกลียดชังทั้งจีน ทั้งเมียนมาร์
เหมือนๆ กับที่ชาติตะวันตกให้สื่อตนช่วยกันออกข่าวลวงว่าซัดดัม ฮุสเซนมีอาวุธร้ายแรงในครอบครอง ประณามอัสสาดว่าใช้แก๊สพิษทำร้ายประชาชนตนเองและใส่ร้ายป้ายสีพลตรีโซไลมณีว่ากำลังวางแผนสังหารคนอเมริกันจำนวนมาก จึงต้องลอบสังหารเสีย ถ้าชาวโลกเชื่อข่าวกันมาก ชาติตะวันตกก็จะส่งทหารพวกตนเข้าไป อ้างว่าจะช่วยเหลือชาวอุยกูร์และโรฮีนจา เป้าหมายแท้จริงคือขวางทางพัฒนาเศรษฐกิจของจีนเสีย
สังเกตสิครับ สื่อที่โจมตีจีนว่ากดขี่ชาวอุยกูร์และโจมตีเมียนมาร์ว่ากดขี่ชาวโรฮีนจาเป็นสื่อกลุ่มเดียวกัน ค่ายเดียวกัน แหล่งข่าวเดียวกัน ดีไม่ดีคนเขียนคนเดียวกันและอยู่ใต้อาณัติของซีไอเอทั้งนั้น
ซีไอเอเชื่อว่า ๑.ถ้าสื่อกระแสหลักจำนวนมากของตนออกข่าวคล้ายกันในเวลาเดียว ๒.ถ้าสื่อกระแสหลักของตนโจมตีด้วยเรื่องเดิมๆ ตลอดเวลา...สุดท้าย คนส่วนใหญ่ซึ่งขาดวิจารณญาณก็จะเชื่อ จึงมีคนจำนวนมากหลงเชื่อ กลายเป็นลูกกะโปกชาติตะวันตกอย่างหัวปักหัวปำมาแล้ว...แถวๆ บ้านเรานี่ก็เยอะครับ
เมื่อรู้เล่ห์เหลี่ยมชาติตะวันตกดีแล้ว นางอองซานซูจีจึงไม่ยอมก้มหัวให้ เลิกเป็นหุ่นเชิดให้ชาติตะวันตกทำร้ายประเทศชาติตนเอง ไม่แยแสรางวัลสิทธิมนุษยชนทั้งหลายที่ชาติตะวันตกมอบให้เพื่อหวังให้เธอเป็นหุ่นชิดให้
เธอทิ้งรางวัลเหล่านี้ได้อย่างไม่ใยดี ยังไงละครับ
โฆษณา