20 ม.ค. 2020 เวลา 00:25 • ปรัชญา
คารวะ..ศิษย์พี่"
💞💞💞*´¯`❀ ✿ .✿◕‿◕✿
✿◕‿◕✿" เคยมีคนมาถามว่า..การเริ่มต้นเข้ามาทำงานใหม่ๆ..ต้องใช้เวลาผ่านวันเวลาที่เป็นผู้น้อยด้วยการทำตัวอย่างไรดี?
ความจริงก็มีแนวทางมากมายที่มีการสอนกันไว้ เดี๋ยวนี้ยิ่งมีการเปิดสอนแบบรับประกันให้มั่นใจ แบบพร้อมยินดีคืนเงินกันไปขนาดนั้นเลย
แต่เรื่องแบบนี้ไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัวนัก เพราะสภาะแวดล้อมที่เจอคงไม่มีทางเหมือนกันเป๊ะแน่นอน คงเป็นไปได้ก็ใช้เพื่อการประยุกต์ให้เหมาะสมเท่านั้น
ดังนั้นสิ่งที่สามารถนำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อแบ่งปันวันนี้ ก็เป็นได้แค่ประสบการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิต ที่ผ่านพบเจอมาในห้วงเวลาหนึ่ง
คงไม่ได้เรียกว่าหลักการ แต่ถือเป็นแนวทางที่อาจนำไปทดลองพิจารณา เลือกใช้เป็นแง่คิดเตือนใจกันได้บ้างไม่มากก็น้อย ในยามต้องเผชิญหนทางคับแคบของชีวิต
จึงขอสรุปสิ่งที่ถือปฏิบัติมาโดยตลอดอยู่หลายปี ซึ่งพอจะสะกัดออกมาสั้นๆได้สัก10ประการ..ดังนี้คือ...
(1)"จงทำมากกว่าพูด และคิดให้มากกว่าทำ"
ข้อนี้เป็นพื้นฐานที่สำคัญของคนเข้าทำงานใหม่ๆเลย เพราะเราคือผู้ปฏิบัติงาน ที่ต้องให้บริการลูกค้าที่อยู่ตรงหน้า จนแทบจะไม่มีเวลาและไม่มีทางที่ งานจะสำเร็จได้ด้วยการพูดเพียงอย่างเดียว
แต่เรายังจะต้องคิดก่อนผลีผลามลงมือทำ ด้วยความรวดเร็วโดยไม่ยั้งคิดด้วยเช่นกัน เพราะนั่นคือจุดสลบของผู้มาใหม่
เป็นธรรมดาผู้คนมักจะจับตามองว่าเราจะเป็นผู้เล่นรายใหม่ที่ใช้ได้ดีสักเพียงใด คนพูดมากปกติมักมีผลงานน้อยกว่า ยกเว้นงานนั้นคืองานต้องใช้ความสามารถในการพูด
แต่เชื่อเถอะ..ยังไงก็ต้องเจอคนพูดมากกว่าเราอยู่แล้ว..คือคนที่เป็นลูกพี่เรานั่นเอง
"ยิ่งฟังยิ่งทำได้..ยิ่งคิดยิ่งทำเป็น"
2. "ทุ่มเทสู่จุดหมายไม่ใช่แค่เป้าหมาย"
ความแตกต่างของคนที่จะก้าวหน้านั้น ต่างกันตรงจุดนี้ คนจำนวนไม่น้อยคิดเพียงแค่การทำให้ได้ตามเป้าหมายที่รับผิดชอบเท่านั้นเป็นพอ
แต่คนที่เหนือกว่านั้นคือรู้ว่ากำลังทำงานนั้นเพื่ออะไร เพราะคนเราจะมีความสุขในงานก็ต่อเมื่อเรารู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นไปเพื่ออะไร เพื่อใครและทำไมจึงต้องทำเช่นนั้น
เมื่อไม่มีข้อสงสัยในสิ่งที่ทำ ชีวิตจะทุ่มเทอย่างเต็มร้อย เพราะรู้ว่างานของตนนั้นช่างมีคุณค่าและมีความหมายเหนือกว่าสิ่งที่เห็นเท่านั้น
"ยิ่งชัดเจน...ยิ่งเข้าใกล้จุดหมาย"
3. "ไม่ก้าวร้าวแต่มีจุดยืน ไม่อ่อนแอแต่อ่อนน้อมอย่างยืนหยัด"
พึงตระหนักและระลึกอยู่เสมอว่า...ไม่ใช่หัวหน้าทุกคนที่จะต้องมาทนอารมณ์เราได้ตลอดเวลา
เพราะเขาไม่ใช่ผู้ปกครองเรา จงใช้ความมีเหตุผลและคำอธิบาย ถึงสิ่งที่ทำไป โดยที่ไม่ใช้คำแก้ตัว แก้ต่างใดๆที่แฝงไปด้วยอารมณ์
การควบคุมอารมณ์ตนเองได้นั้น..จะช่วยให้เราผ่านห้วงเวลาของการเรียนรู้ไปได้
"ยิ่งอ่อนน้อม..ยิ่งมีที่ยืน"
4. "ไม่แลกชีวิตตนเองและครอบครัวด้วยการยอมทำตามทุกคำขอที่รู้ว่าไม่ถูกต้อง"
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ยากมาก..แต่จะช่วยลดความเสี่ยงในชีวิต เพราะมิใช่แค่ตัวเรา แต่คนที่เดินตามหลังเราอีกมากมาย เดิมพันจึงสูงเสมอ
เมื่อใดที่เรายอมนำทุกสิ่งที่มีเพื่อไปแลกเปลี่ยนความดีความชอบ หรือเพราะกลัวและเกรงใจ เราจะต้องรับผลที่จะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ชีวิตการทำงานไม่ใช่การแทงหวย หวังแค่มีโชคช่วยไม่ได้เด็ดขาด แต่ต้องลิขิตด้วยตนเอง
"ยึดถูกต้อง..มากกว่าถูกใจ..จะไม่เสียใจชั่วชีวิต"
5. "เวลาทั้งหมดไม่ใช่เพื่องานเสร็จแต่เพื่อความสำเร็จในการพัฒนาตนเอง"
พึงระลึกอยู่เสมอว่า การทำงานนั้นคือการใช้ชีวิตจดจ่ออยู่ที่"การเรียนรู้และพัฒนาตนเอง" ไม่ใช่แค่"เรื่องงานได้เป้า ชีวิตได้รางวัล"เท่านั้น
ตัวคนเราจะคมได้ ก็เพราะคนเราให้เวลา"ลับความคิดให้คมอยู่เสมอ" การพัฒนาฝึกฝนตนทุกวันเวลา จะช่วยเปลี่ยนองศาให้เราเติบโตก้าวหน้าในอนาคตเมื่อถึงวันของเราเสมอ
"ยิ่งเรียนรู้..ยิ่งพบความสำเร็จ"
6. "เมื่อผิดพลาดจงยอมรับและอดทนแก้ไขใหม่"
การเป็นผู้มาใหม่ยังไงก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้และปรับตัว ให้สามารถทำงานร่วมกับผู้คนให้ได้ความผิดพลาดจึงย่อมมีเสมอเพราะคือบททดสอบความเข้มแข็ง
ข้อผิดพลาดต่างๆล้วนไม่ใช่บทสรุปความล้มเหลวสำหรับน้องใหม่เสมอไป
แต่ถ้าใจไม่พร้อมยอมรับความบกพร่องนั้นก็ย่อมไม่สามารถเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปได้
และเมื่อคิดจะให้ดีกว่าเดิมก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้ปรับเปลี่ยนโดยไม่มีทางลัดใดๆ..จะมีเพียงแค่คำว่าต้องอดทน..และยอมรับตามความเป็นจริงเท่านั้น
"ยิ่งกล้ายอมรับ..ยิ่งได้โอกาส"
7. "เพื่อนไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของชีวิต แต่เพื่อนที่ดีเท่านั้นที่เป็นคำตอบให้กับชีวิต"
ชีวิตคนเราคือการค้นหาเพื่อค้นพบชีวิตตนเอง จึงไม่จำเป็นต้องฝากเวลาทั้งชีวิตไปอยู่กับเพื่อนทุกๆคน ด้วยความเกรงใจ และในทางกลับกันก็จงรู้จักเกรงใจไม่รบกวนเพื่อนด้วยเช่นกัน
การสังสรรค์นั้นต้องมีแต่พอดี..ไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป..การรักษาระยะห่างระหว่างกันนั้นสำคัญ
กัลยาณมิตรที่ดีนั้นไม่จำเป็นต้องมีมาก..เพราะชีวิตคนเราไม่ได้อยู่ได้..ด้วยคะแนนนิยมจากผู้คน
ชีวิตจึงไม่ต้องการเสียงข้างมาก แต่ต้องการเสียงที่มีความจริงใจเข้าใจและไว้ใจกันได้เท่านั้นเอง
"เพื่อนมากน้อย..หาสำคัญเท่าเพื่อนที่มีคุณภาพ"
8. "สังคมเป็นเพียงเปลือกห่อหุ้มความเป็นตัวตนของเรา"
สังคมดีเสมือนมีอาภรณ์ที่งดงามใครพบใครเห็นก็แลดูสง่างาม แต่ที่สำคัญคือ
จิตใจที่เป็นตัวตนของเราต่างหากที่งดงาม
สง่ากว่าเสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆ
ไม่ว่าเราต้องอยู่ในสังคมแบบใดเราอาจจะกำหนดไม่ได้ แต่เราสามารถรักษาใจและรักษากายเราไว้ให้คงมีความเป็นตัวเรา เราจะวางตัวโดยมิต้องเสแสร้งแสดงเป็นแบบใคร
"ยิ่งเสแสร้ง..ยิ่งทิ้งความเป็นตัวตน ย่อมหลงทาง"
9. "จงใช้ความสงบนิ่งสยบทุกความหวั่นไหวและความเคลื่อนไหว"
เมื่อพบกับปัญหาต่างๆในชีวิตไม่ว่าเล็กหรือใหญ่สักเพียงใด เราอาจต้องอยู่บนความเจ็บปวดไม่ว่าจะหนักหนาสาหัสสักเพียงใด
หากสิ่งนั้นเกินกว่าอำนาจที่เราจะสามารถเข้าไปควบคุมได้ ในบางครั้งก็อาจจะไม่ต้องไปดิ้นรน แต่จงรับทุกสิ่งที่เข้ามานั้นอย่างกัดฟันและอดทนไว้
การนิ่งอดทน..บางทีก็เป็นการดีเพราะเจ้าปัญหานั้นจะคิดว่ากำลังได้ชัยชนะเหนือเราแล้ว มันก็จะจากไปจากชีวิตเราเองเสมอ
"ยิ่งดิ้นยิ่งรัด..ยิ่งนิ่งยิ่งคลาย"
10. "จงระลึกเสมอว่าเราคือผู้รับผิดชอบต่อชีวิตของเราเอง..."
ชีวิตของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร...จึงไปโทษใครหรือสิ่งใดไม่ได้เลย เราจึงต้องตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตของเราด้วยตนเองเสมอ
จงอย่าหวังน้ำบ่อหน้าไปพึ่งใคร ต้องพิจารณาตามความเป็นจริงของเราเอง บางทีโลกที่คนอื่นบอกเรานั้นอาจสวยหรูหรือเป็นเพียงแค่ความฝันที่เกินจริง...
เมื่อใดที่คนเรารู้จักรับผิดชอบตนเองได้..ก็จะรู้ว่าชีวิตของตนนั้นช่างมีคุณค่ามากยิ่งนัก
"ยิ่งรับผิดชอบ..ก็ยิ่งรับความจริงได้"
สิ่งสุดท้ายพึงตระหนักรู้ว่า..ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าชีวิตของคนเราอาจจะไม่ได้มีโอกาสก้าวหน้าได้ตำแหน่งใหญ่โต เหมือนผู้อื่น
อาจยังไม่มีเงินมีทองเป็นร้อยล้านพันล้าน หรือมีคนเคารพยกย่องให้เกียติ์มากมายก็ตาม ก็หาได้สำคัญใดๆสำหรับบนโลกใบนี้
เพราะทุกๆคนต้องจากไป..โดยไม่มีใครเอาอะไรติดไปได้ทั้งสิ้นแม้แต่ชิ้นเดียว
ดังนั้นการมีชีวิตและดำรงชีพด้วยการเป็นตัวของตัวเองที่มีอิสะเสรีในการเลือกแนวทางวิถีชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติตามแนวทางดังกล่าวมาแล้วทั้งหมดนี้
..ก็อาจจะเป็นคำตอบของชีวิตที่พอเพียงและมีเสบียงชีวิตที่เพียงพอเพื่อมีชีวิตเพื่อก้าวต่อไป..." LL&L 20/1/2020✿◕‿◕✿"
โฆษณา