20 ม.ค. 2020 เวลา 09:16 • บันเทิง
พัตรา-ซีซ่าร์-โทนี่...ตอนที่ ๓
สภาโรมันมีมติจะช่วยเหลือออเลติส หรือปโตเลมีที่ ๑๒ ให้เป็นฟาโรห์ต่อ...แต่อย่างที่บอก ตอนนั้นโรมันมีผู้ยิ่งใหญ่อยู่สามคน...สามคนนี้ก็โคตรจะกั๊กกันเอง แย่งเป็น “ผู้ช่วยเหลือ” ออเลติส...เพราะหวังว่าใครได้ใกล้ชิดท่อน้ำเลี้ยงที่สุด ก็จะได้รับประทานอิ่มท้องที่สุด...
สภาโรมันลงความเห็นว่าจะเล่นไม้อ่อนก่อน โดยส่งคนไปคุยกับควีนเบเรไนซ์ ให้คืนสมบัติให้เตี่ยซะ...แต่เพราะความกั๊กอย่างที่บอก...ปอมปีย์เสนอตัวจะไป ครัสซุสก็ห้าม ซีซ่าร์ก็อยากไปมั่ง ก็มีคนเตะตัดขา...เรียกว่าคุมเชิงกันอยู่นั่นแหละ
จนลากยาวมาถึงสามปี...ยังไม่มีผู้แทนโรมไปช่วยเจรจาซะที
ออเลติสรอจนเหงือกแห้งก็ไม่ได้เรื่องซะที เลยต้องเบนเข็มไปขอความช่วยเหลือจากขุนทหารอื่น...ออลัส เป็นขุนศึกโรมันที่ประจำการอยู่ในซีเรีย
ออเลติสติดสินบนออลัสว่า ถ้าช่วยให้แกกลับไปครองบัลลังก์ได้สำเร็จ จะให้ ๑๐,๐๐๐ แทเลนต์...ไอ้เงินประมาณนี้ เค้าว่าเทียบได้กับเงินหลายล้านปอนด์ในปัจจุบัน...
ออลัสก็เล่นด้วย ยกทัพไปโจมตีอียิปต์ของควีนเบเนไรซ์ทันที...แล้วก็ไม่นาน กองทัพของเบเนไรซ์ก็แตก สามีของเบเนไรซ์ซึ่งเป็นแม่ทัพอียิปต์ถูกฆ่าตายในสนามรบ...
พอออเลติสได้กลับนั่งบัลลังก์ปุ๊บ งานแรกที่สั่งออกจากปากคือ...อีลูกชั่วแบบนี้ เลี้ยงไว้ก็เสียข้าวสุก...ควีนเบเนไรซ์ถูกประหารทันที
อ้อ ลืมบอกไป...หนึ่งในขุมกำลังของออลัสที่ยกมา มีแม่ทัพหนุ่มคนนึงอายุเพิ่งจะ ๒๗ ปี แต่ฝีมือในการรบทัพจับศึกถือว่าเยี่ยมยุทธ...เขาชื่อ มาร์คแอนโทนี่...
มาร์คแอนโทนี่ พอได้ย่างเท้ามาที่อเล็กซานเดรียก็ถึงกับตกตะลึง...เมืองอะไรวะสวยงามได้ขนาดนี้ ก็เอกเขนกอยู่นานเลย...
เพราะนอกจากหอสมุดอเล็กซานเดรียอันโด่งดังแล้ว พวกปราสาทราชวังส่วนใหญ่ก็ถูกทำด้วยหินอ่อน สถาปัตยกรรมต่างๆก็ถูกถอดแบบมาจากศิลปะกรีก ที่ว่ากันว่าเป็นศิลปะที่สวยสุดในยุโรปยุคนั้น...
แล้วก็ยังมีประภาคารฟารอส...อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณรึเปล่า แต่ถ้าเทียบกับเทคโนโลยีสมัยนั้น...การทำให้ประภาคารส่องแสงไปไกลกว่าสามสิบไมล์ ก็นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์ทีเดียว...
แต่การกลับมาของออเลติสงวดนี้ อยู่ในสภาพหนี้ท่วมหัว...เพราะเที่ยวกู้ยืมเค้าไปทั่ว เพื่อมาใช้ในการคืนอำนาจครั้งนี้ แล้วไม่ได้ยืมเฉพาะพวกโรมัน...พวกเศรษฐีในอเล็กซานเดรียก็เป็นเจ้าหนี้แกหลายคน...
แล้วแกใช้หนี้วิธีไหนรู้มั้ย...แกใช้วิธีตั้งคนนั้นเป็น รมต.คลัง ตั้งคนนู้นเป็น รมต. เกษตรฯ ตั้งอีกคนเป็นหัวหน้าโครงการนั่นนี่...แล้วพวกมึงไปรีดภาษีราษฎรกันเอาเอง...
สรุป...ฟาโรห์ออเลติสเป็นคนกู้เงิน เพื่ออำนาจตัวเอง...แต่คนที่ต้องใช้หนี้ให้ กลับกลายเป็นประชาชนอียิปต์ไปซะยังงั้น...
อียิปต์ในยุคที่ออเลติสกลับมาครองบัลลังก์อีกรอบ นับว่าค่อนข้างเละเทะ...ก็ในเมื่อการคอรัปชั่นมันเกิดมาตั้งแต่ข้างบน ข้างล่างก็ล่อกันนัว เศรษฐกิจจากที่เคยร่ำรวยเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ ก็เริ่มจะง่อนแง่น...
ช่วงปลายสมัยแก...ออเลติสทำพินัยกรรมอยู่สองก๊อปปี้ ก๊อปปี้นึงเก็บอยู่ในเมืองอเล็กซานเดรีย อีกก๊อปปี้นึงฝากไว้กับขุนศึกโรมันที่ใกล้ชิดแกที่สุด...ปอมปีย์
ปีที่ ๕๑ ก่อนคริสตกาล...ออเลติสก็เด๊ด เจ้าหญิงคลีโอพัตราองค์เล็กก็ได้ขึ้นครองบัลลังก์เป็น ควีนคลีโอพัตราที่ ๗...และตามประเพณี ต้องแต่งงานกับน้องชาย...ซึ่งก็ได้เป็นฟาโรห์ ปโตเลมีที่ ๑๓...
ตอนนั้นควีนโตแล้ว...คลีโอพัตราอายุสิบแปด แต่คิงยังเป็นเด็กน้อยอยู่...ปโตเลมีที่ ๑๓ เพิ่งจะสิบขวบเอง...ฝั่งคิงก็เลยต้องมีผู้สำเร็จราชการ ซึ่งทั้งคณะมีอยู่สามคน...เป็นทหารคนนึง นักปราชญ์คนนึง แล้วก็นักการคลังคนนึง...
การถือครองอำนาจในอียิปต์ตอนนั้น ก็ไม่ได้กลมกลืนเกี่ยวก้อยกันระหว่างฝั่งคิงและฝั่งควีนทั้งที่เป็นพี่น้องกันแท้ๆ แต่กลับค้ำยันกันอยู่...ฝั่งควีน ก็ด้วยตัวควีนเอง...กับฝั่งคิง ด้วยสามเกลอหัวแข็ง ผู้สำเร็จราชการ...
ครั้งนึง แม่ทัพโรมันที่ประจำการอยู่ซีเรีย ได้ขอกำลังทหารจากอียิปต์ไปช่วยงานสงคราม...พอคลีโอพัตราอนุมัติให้ไป ฝ่ายสามผู้สำเร็จราชการก็ไม่พอใจอย่างมาก และตั้งแต่นั้นก็หาเหตุ บีบบนบีบล่าง...กลั่นแกล้งจนทำให้ คลีโอพัตราเริ่มอยู่ลำบากขึ้นไปทุกวัน...
กดดันกันอยู่พักใหญ่ๆ พออายุยี่สิบเอ็ด คลีโอพัตราก็ถูกกดดันให้ต้องเผ่นออกจาอียิปต์...นางมุ่งหน้าไปซีเรียเพราะเมื่อสองสามปีที่แล้ว เคยให้การสนับสนุนผู้ว่าการทหารโรมันที่นั่นไว้...นางก็กะจะใช้เป็นฐานกำลังเพื่อกลับมาทวงคืนอียิปต์ในวันหน้า...
ทางอียิปต์ พอก้างขวางคอไม่อยู่แล้ว...สามผู้สำเร็จราชการก็สนุกกันใหญ่ ตั้งตัวเองเป็นไอ้นั่นเป็นไอ้นี่ อยากตั้งยังไงก็ไม่มีใครขวาง...เรียกว่าใหญ่คับบ้านคับเมืองกันถ้วนหน้า...
ฝ่ายโรมันในห้วงเวลาเดียวกัน...ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสาม ปอมปีย์ จูเลียสซีซ่าร์ ครัสซุส ที่เคยคุมเชิงกันอยู่ ก็เริ่มกัดกันเอง...คนที่ตกกระดานคนแรกคือครัสซุส ถูกไล่จนกระเจิงไปจากโรม แล้วไปทำสงครามที่ไหนต่อไม่รู้ ก็ไปตายอยู่ในสนามรบ...
เหลือสองคน...ในสองคนนี้ คนที่เอาอกเอาใจอียิปต์มาตลอดคือปอมปีย์...ปอมปีย์กับจูเลียสซีซ่าร์ก็ซัดกันนัว สุดท้ายปอมปีย์สู้ไม่ได้ ก็มุ่งหน้ามาอียิปต์...
อียิปต์ตอนนั้นมีแต่คิง ปโตเลมีที่ ๑๓...แต่ผู้ที่มีอำนาจตัวจริงคือสามเกลอผู้สำเร็จราชการ...
เฮ้ย ไอ้หมายเลขสิบสาม...อั้วเคยช่วยพ่อลื้อมาหลายรอบแล้วนาตอนสมัยพ่อลื้อเข้าๆออกๆอียิปต์อยู่ เกิดทันป่าววะ...ตอนนี้อั้วเดือดร้อน จะขอกำลังคนกำลังเงินสนับสนุน...ลื้อต้องช่วยอั้วบ้างน้อ...
ปล.
ขอบคุณใน like , share , comment จากทุกท่านนะครับ
ตอนต่อไปเวลา 18.18
โฆษณา