22 ม.ค. 2020 เวลา 03:19 • ความคิดเห็น
PM 2.5 วันนี้
Pm2.5 จะอยู่กับเราไปถึงเดือนมีนาคม ช่วงนี้ บางวันหรือบางช่วงสัปดาห์ pm2.5 จะดูเหมือนต่ำลงบ้าง แต่ยังเหนียวแน่นไม่ไปไหนจนถึงเดือนมีนาคมเป็นอย่างน้อย เพราะพอเข้ามีนา ทิศลม จะเปลี่ยนเป็นมาจากตะวันตกเฉียงใต้ ต้องรอช่วงนั้น pm2.5 ถึงจะเริ่มลดลงจริงๆ
ดังนั้นช่วงนี้ หากใครย้ายที่อยู่ได้ หรือ เสาร์อาทิตย์ จะพาครอบครัวไปหลบฝุ่น แนะนำให้ เปิดแอพ เช็ค pm2.5 อย่างพวก air matter, airvisual เช็คดูก่อน หลายคนพาลูกหลานหลบฝุ่นที่เขาใหญ่ วัด pm มา ไม่ต่างจากบางนา อโศก แต่ไม่รู้กัน มาโพสโชวลงเฟสว่าหนีฝุ่น อากาศดี รู้ตัวอีกที รับ pm2.5ไปเต็มๆ บางคนไปเขาค้อ ทองผาภูมิ ลงรูปให้เพื่อนอิจฉาว่าหลบฝุ่น แต่พอเปิด meterเช็ค pm แล้วแทบเป็นลม ดังนั้น เช็คก่อนนะครับ อย่าเห็นว่าไม่มีรถ ไม่มีควัน จะแปลว่าไม่มีฝุ่นpm2.5 มันขึ้นอยู่กับทิศทางลมช่วงนี้ด้วยครับ ดังนั้นดูที่ AQI เขียวๆ แล้วไปได้เลย อันนี้ชัวร์ หรือจะไปต่างประเทศ ก็อย่าลืมเช็ค pm
ส่วนคนที่ไม่ได้หนีไปไหน ต้องทำงาน ต้องไปโรงเรียน ในพื้นที่ สีแดงสีส้ม อย่างน้อย
ให้ปฏิบัติให้ได้ตามนี้
1. อันนี้ผมแจ้งหลายครั้งแล้ว และ ทุกสื่อก็บอกแล้ว ต้องใส่ มาส์ก ถ้าขี้เกียจใส่ n95 คือยังไงก็ไม่ยอม ใส่ มาส์กธรรมดาก็ยังดี ไอ้ที่สีเขียวๆใส่กันตามรพ แต่ใส่สองชั้น ถึงจะกันได้ไม่เต็มที่แต่ก็ยังดีกว่าคุณไม่ยอมใส่เลย เพราะ pm2.5 นั้น คือ เศษก้อนโลหะหนัก ไม่ใช่ฝุ่นไร้พิษภัยแบบฝุ่นดินลูกรัง ทั้งสารหนู แคดเมี่ยม และอีกมากมาย ประกอบร่างกัน และ เครื่องฟอกที่ดีที่สุดในโลก นั้นคือ “ปอดมนุษย์” เพราะเมื่อฝุ่นจิ๋วนี้มันเข้าไปแล้ว มันจะ “ออกไม่ได้” กองมันอยู่ใน ทางเดินหายใจ ในปอดนั่นแหละ ขนาดมันเล็กกว่าที่ร่างกายจะขับออกเองได้ ความซวยคือ เครื่องฟอกเปลี่ยนไส้กรองได้ แต่ปอด พังแล้ว พังเลย อะไหล่ร่างกายคุณไม่มีเปลี่ยนนะครับ
2. ทานอาหารที่ขับโลหะหนักโดยตรง อย่างคลอเรลลา ไม่ต้องไปสนสรรพคุณอื่นๆของคลอเรลล่า ที่โฆษณากันว่า กินแล้วหน้าเด็ก กินแล้วไม่อ้วน คุมน้ำหนัก เพราะนาทีนี้ คุณจำเป็นต้องทานเพราะมันเป็นอาหารที่จะไปจับโลหะหนัก ได้โดยตรง โดยการขับออกทางอุจจาระ คุณจะสังเกตเลยว่า เวลามันขับออก มวลอุจาระเยอะขึ้นมาก และอย่างวันที่คุณโดนฝุ่นจิ๋วมาเต็มๆ จนน้ำมูกไหล เสมหะเต็มคอ ทานเพิ่มแบบเบิ้ลโดสไป วันรุ่งขึ้นพอมันขับออกอาการคุณจะดีขึ้นในวันถัดไปเลย จะทานยี่ห้ออะไรก็ได้ แต่ให้ชัวร์ว่าปลอดภัย เพราะไม่งั้นจะได้พิษมาแทน เลือกตัวที่ได้เครื่องหมายรับรองที่ได้มาตรฐานสูงๆอย่างพวก USDA หรือ Naturland อันนี้แนะนำให้ต้องทาน ยิ่งคนแก่ เด็กเล็ก ห้ามปล่อยเด็ดขาด ปอดเค้ายังโตไม่เต็มที่ ถ้าอายุต่ำกว่า 20 ปอดเค้าจะหยุดพัฒนาถ้าโดนโลหะหนักเยอะๆ อย่าละเลย ลองค้นงานวิจัยเป็นภาษาอังกฤษดู ว่า Chlorella and heavy metal ต่างประเทศ ใช้คลอเรลล่าในการดึงพิษโลหะหนักออกจากร่างกาย เพราะร่างกายเราขับออกเองไม่ได้ และคลอเรลล่า ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพสุดในโลก
3. โลหะหนักกลุ่มนี้ จะทำให้ภูมิคุ้มกันตก และ จะมีอาการเริ่มแรกแบบคนที่เป็นภูมิแพ้แบบแห้ง คือ จมูกแห้ง แสบจมูก คอแห้ง จนเริ่มร่างกายเริ่มผลิตเมือกมาหล่อลื่น ซึ่งนั่นก็คือน้ำมูก เสมหะ ร่างกายจะเริ่มรับผลของฤทธิ์ร้อนไหม้ของสารพวกนี้ ดังนั้น ช่วงนี้ ให้ทาน ผักผลไม้ ฤทธิ์เย็น ให้ทานเยอะๆ น้ำย่านาง ซับพิษไว้ และ ขับพิษร้อนแห้งได้ดี ย่านางนี่จะขับพิษออกทางปัสสาวะ ต่างจากคลอเรลล่า ขับออกทางอุจจาระ แนะนำให้ดื่มต่อเนื่อง ผสมน้ำต้มสะอาด ให้บางหน่อย ใช้แช่ตา และ ล้างจมูก จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ดีกว่าใช้น้ำเกลือ ที่ยิ่งใช้ยิ่งแห้ง ถ้าพวกทำงานในที่เสี่ยง อาบฝุ่นจิ๋วทุกวัน แนะนำให้ทำทุกวัน
4.รู้หรือไม่ว่าโลหะหนัก สะสมเยอะที่สุดที่ไหนในร่างกายเรา คำตอบคือ ผม !!! มันเคลือบฉาบอยู่ทุกเส้น คิดดูว่าเยอะขนาดไหน ดังนั้นเวลากลับบ้านมา ถ้าเพิ่งไปอาบฝุ่นจิ๋วมา “ต้องสระผม” ไม่งั้นคุณก็สูดดมมันเข้าไปทั้งคืน อุตส่าใส่มาส์ก แต่ดันไม่สระผม พาฝุ่นจิ๋วกลับมานอนสูดทั้งคืนเอากลับเข้าปอดไปเต็มๆซะงั้น หรือ อีกวิธีคือ ใส่หมวก เก็บผมให้หมด ก็จะปลอดภัยกว่า เวลาเราถอดมาส์ก
5. “ตากผ้า” ดูเหมือนเรื่องจิ๊บๆ แต่เป็นตัวพา ฝุ่นจิ๋วเข้าบ้าน ดังนั้น ถ้าแห้งแล้ว รีบเก็บ อย่าตากแช่จนตกเย็น ก่อนเก็บสะบัดก่อน ถึงกระนั้น พอพากองผ้าโตๆ เข้าบ้าน pm 2.5 จะเด้งขึ้นมาเลย ถ้าเปิดเครื่องฟอกอยู่ ซักระยะ กว่าจะลดลง แล้วคิดดู ว่าคุณจะต้องเอามาใส่ มาหุ้มตัวไว้อีก จึงขอเลยนะครับ ว่าอย่าตากผ้าทิ้งไว้หลายๆชั่วโมง หรือ ใครมีเครื่องปั่นแห้ง ใช้เครื่องปั่นแห้งไปก่อน ก็จะดีที่สุด ถ้าไม่มี ก็แห้งปุ๊บ สะบัด แล้วรีบเก็บ ก็ช่วยได้
6. ได้ผลช้า แต่จีรังที่สุด ปลูกต้นไม้ แต่ถ้าเอาเร่งด่วนคือ ปลูกต้นไม้ ในห้อง ถ้าคุณทำได้จำนวนมากพอ มันช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือดได้เป็นเปอร์เซนเลยนะครับ งานวิจัย นาซ่า ตระหนักถึง มลพิษในโลกที่ไม่มีทางกำจัดได้ และ มากขึ้นอย่างไม่มีวันหยุด ถึงขั้นต้องวิจัยต้นไม้อย่างละเอียดว่า ต้นใด ปลูกใน ห้องลักษณะใด อัตราส่วน คนต่อจำนวนต้น ประเทศอินเดีย หนึ่งในประเทศ ที่ครองท้อป5 ประเทศที่ pm2.5 สูงของโลก รัฐบาล ยังให้ศึกษางานวิจัยของคุณ Kamal Meattle เพราะทำให้ทั้งตึก กลางดง มลพิษ ไม่ว่าใครเข้าไป ก็ปอดดีขึ้น ออกซิเจนในเลือดเพิ่มขึ้นได้ ทันที นี่คือ ความมหัศจรรย์ของต้นไม้
ผมกล่าวไว้ในแต่ละประเด็นแค่เป็นใจความสำคัญนะครับ แต่ทิ้ง คีย์เวิร์ดไว้ ถ้าใครสนใจ ไป google ไปค้นต่อได้ครับ จะได้ข้อมูลน่าสนใจมากมาย เพราะต่างชาติ เค้าตื่นตัว กันเรื่อง pm2.5 กันมากกว่าเรามาก ไม่ว่าจะเป็น สิงค์โปร ที่ทำเรื่องเมืองสีเขียวมาก่อนหน้าเรานานมากในขณะที่ เรายังไม่เริ่ม หรือ จะเกาหลี ทีรัฐสั่งปลูกต้นไม้ที สามล้านต้น หรือ จีน ที่หลังจาก pm ท่วม จนคนอยู่กันไม่ได้ ก็สั่งให้ปลูกต้นไม้หลายล้านต้นอย่างด่วนเช่นกัน อีกทั้งยังมีมาตรการกำจัด และ จำกัด อย่างเข้มงวด เด็ดขาด กว่าเรามาก ดังนั้น ข้อมูล ความตื่นกลัวเรื่องนี้ เค้าแน่นกว่าเรามาก ลองดูนะครับ นาทีนี้ ทุกคนต้องช่วยเหลือตัวเอง และ คนในครอบครัว อย่านิ่งดูดาย จนรอให้เลือดออกจมูก เพราะถ้าวันที่คุณเลือดออกจมูกนั่นแปล ว่า โลหะหนัก ฝังไปไม่รู้เท่าไหร่แล้วไม่รู้ เดี๋ยวออกผลอีกทีตอนแก่ครับ โรคร้าย เรื้อรังมาเพียบ เพราะพิษโลหะหนัก เป็นภัยเงียบที่สุดอันหนึ่ง เข้าแล้ว ออกเองไม่ได้ ฝังอยู่ในตัว เรา เกาะกินอยู่จนตายไปกับเรา
ขอให้ทุกคนปลอดภัยครับ
โฆษณา