เรื่องสั้น : ขยะ
“นักวิทยาศาสตร์ในประเทศสหรัฐอเมริกาสามารถคิดค้นวัตกรรมการกำจัดขยะ….” เสียงนักข่าวรายงานผ่านรายการโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
“มิสเตอร์สมิทยังกล่าวอีกว่านวัตกรรมนี้เป็นผลพวงที่ได้จาการทดลองด้านเทคโนโลยีอวกาศ”
หญิงสาวเอนกายพิงโซฟาอย่างอิดโรย หล่อนคว้ารีโมทขึ้นปิดทีวี เสียงของนักข่าวเงียบหายไป สมองหล่อนเหนื่อยล้าเกินไปที่จะรับฟังข่าวสารใดหลังจากใช้กล้องโทรทรรศน์ส่องท้องฟ้ามาทั้งคืน
“คุณไปพักเถอะ” วสันต์เดินเข้ามาในห้อง ถือถ้วยกาแฟในมือข้างหนึ่ง หน้าตาเขาดูอิดโรยเช่นกัน
“แล้วพี่ไม่ไปพักหรือ” หล่อนถาม
“เดี๋ยวผมขอจดสรุปบางอย่างอีกซักหน่อย แล้วก็จะไปเหมือนกัน”
“โอเคค่ะ ถ้างั้นฉันขอตัวนะ อย่าหักโหมนักล่ะ” หล่อนเดินหายเข้าไปทางห้องนอน
วสันต์ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับที่หล่อนนั่งเมื่อซักครู่ กางสมุดบันทึก แล้วเริ่มจด
เขาเฝ้าสังเกตการณ์แบบนี้มากกว่าสามสิบปีแล้ว แม้จะยังไม่ได้ค้นพบอะไรที่ยิ่งใหญ่นัก
สถานที่ทำการวิจัยก็คือบ้านของวสันต์เอง เป็นบ้านไร่อยู่ในชนบท เขาจะตั้งกล้องโทรทรรศน์ทิ้งไว้ในสวนหากไม่ใช่ช่วงฤดูฝน วสันต์มีภรรยาสาวบ้านนอกเป็นผู้ช่วย โดยสอนสิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นให้แก่หล่อนด้วยตัวเขาเอง
วสันต์ใช้ทุนวิจัยที่ได้รับจากมหาวิทยาลัยเป็นค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ และใช้เลี้ยงชีพด้วย แต่ช่วงสี่ปีให้หลัง มหาวิทยาลัยทั่วประเทศได้รับทุนจากรัฐบาลน้อยลง มันมีผลกระทบต่อเขา
พระอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า วสันต์ลุกตื่นขึ้นจากเตียง และเตรียมตัว
สองสามีภรรยาร่วมโต๊ะอาหารด้วยกันในห้องครัว
“เหนื่อยหรือคะ พี่ดูไม่ค่อยสดชื่นเลย” หล่อนถาม
“นิดหน่อยน่ะ ผมกำลังกังวลเรื่องทุนวิจัย”
“ไม่ต้องห่วงหรอกพี่ ฉันว่าเราน่าอยู่รอดได้ถึงรอบงบประมาณปีหน้านะ เราประหยัดมากขึ้นหน่อยก็พอ”
“ผมสงสารคุณ ต้องมาลำบาก”
“ไม่ต้องห่วงหรอกพี่ ฉันสบายมาก อีกอย่างมันก็ไม่ใช่ความผิดพี่ด้วย ความจริงพี่ต้องได้ทุนมากกว่านี้”
“รัฐบาลเอาเงินไปซื้ออย่างอื่นหมด พวกสมองกลวงนั่นมองว่าของพวกนั้นเป็นเรื่องด่วนกว่างานวิจัยวิทยาศาสตร์!”
“ปีหน้าคงจะได้มากกว่านี้แหละพี่ อย่าคิดมากเลย”
“หวังให้เป็นอย่างนั้น” เขารวบช้อน เขาอิ่มแล้ว
ยามคํ่าคืน บรรยากาศบ้านนอกเย็นสบายนัก
คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง วสันต์มุ่งหน้าไปยังที่ตั้งของกล้องโทรทรรศน์ในสวน ส่วนภรรยาเขายังล้างจานอยู่ในบ้าน
ระหว่างทางที่เดินอยู่นั้น เขาก็สังเกตเห็นเงาของใครบางคนยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางความมืด
“นั่นใครน่ะ มาทำอะไร หันมาเดี๋ยวนี้” วสันต์สาดไฟฉายไปที่ร่างนั้น
ร่างนั้นหันกลับมา เป็นเด็กหนุ่มร่างเล็ก แต่ว่าเขาไม่เคยเห็นเด็กคนนี้มาก่อน
“สวัสดี มนุษย์” เด็กหนุ่มพูด
“มนุษย์หรือ? พูดจาอะไรแปลกประหลาดอย่างนั้น หนูเป็นใคร มาจากไหนเนี่ย” เขาเดินเข้าไปใกล้
“เราไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตบนดาวนี้ เรามาจากอวกาศ” ตาของเด็กหนุ่มเป็นสีฟ้า
“มาจากอวกาศหรือ? ฮ่า ๆ ถ้าเงินหนูก็เป็นมนุษย์ต่างดาวน่ะสิ”
“ก็ถ้าจะเรียกอย่างนั้นอ่ะนะ” เด็กหนุ่มยักไหล่
วสันต์หัวเราะลั่น
“น่าตลกตรงไหน คุณเองไม่ใช่เหรอ ที่เอาแต่ส่องอวกาศด้วยกล้องโง่ ๆ นั่นมาสามสิบปีน่ะ คุณคาดหวังว่าจะเจออะไรล่ะ แมลงปีกแข็งหรือไง!” เด็กหนุ่มหน้าแดงกํ่า
“โทษที ๆ มันทำใจเชื่อยากน่ะ” ชายหนุ่มหยุดหัวเราะ เขายกมือขึ้นปาดนํ้าตาที่เล็ดออกมา “เอาอย่างนี้ นายพิสูจน์ได้ไหมล่ะ”
“พิสูจน์เหรอ ทำไมต้องเสียเวลาทำอะไรอย่างนั้นด้วย” มนุษย์ต่างดาวเสียงเข้ม “เข้าเรื่องเลยเถอะ เราเป็นตัวแทนจากดาวมาโม่ เรามาเสนอมอบความรู้ด้านวิทยาการให้”
“วิทยาการ? วิทยาการอะไร”
“วิทยาการอะไรก็ได้ เลือกได้หนึ่งอย่าง เรามีแคตตาล็อกให้”
“ให้ฟรีหรือ”
“คิดว่าของฟรีมีในจักรวาลหรือ”
“แล้วจะเอาอะไรล่ะ”
“มาใกล้ ๆ นี่ เอาหูมา”
วสันต์เอี้ยวตัวเข้าฟังสิ่งที่เด็กหนุ่มกระซิบบอก
“อะไรก็ได้ หนึ่งอย่างบนโลกมนุษย์”
1
เสียงไก่ขันยามเช้า เรียกความสดชื่นให้แก่สรรพชีวิต แต่สีหน้าครุ่นคิดของวสันต์ไม่เป็นเช่นนั้น
“เมื่อคืนคุณไม่ค่อยมีสมาธิเลยนะ ยังไม่เลิกคิดเรื่องทุนอีกเหรอ” หล่อนเสิร์ฟขนมปังปิ้งให้เขา
“เปล่าหรอก เรื่องอื่นน่ะ” เขาหยิบขนมปังเข้าปาก “เออนี่ ผมถามความเห็นคุณหน่อยสิ”
“คะ?”
“ถ้าเกิดว่าให้เลือกบางอย่างหายไปจากโลกนี้คุณจะเลือกให้อะไรหายไป”
“ถามอะไรแปลก ๆ มีอะไรหรือเปล่า”
“เอาน่า ผมอยากรู้ความเห็นคุณ”
“อืม” หล่อนครุ่นคิด
วสันต์ก็ครุ่นคิดเช่นกัน
“ขยะไง!” สีหน้าภูมิใจ “ถ้าขยะหายไป โลกเราจะสดชื่นขึ้นเยอะเลย”
“แต่ขยะก็มีประโยชน์ของมันนะ เปลี่ยนเป็นพลังงานก็ได้”
“จะมีขยะจริง ๆ ซักกี่เปอร์เซ็นเชียวที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์จริง ๆ น่ะ”
“ก็จริงแฮะ”
วสันต์มาตามเวลาที่นัดไว้
เด็กหนุ่มยืนรออยู่ในเงามืดเช่นเมื่อคืนก่อน
“เฮ้ มนุษย์ต่างดาว” ชายหนุ่มเรียก
“เป็นไงคิดออกหรือยัง ว่าจะเลือกวิทยาการอะไร”
“ยัง แต่ว่าคิดออกแล้วว่าจะให้อะไรนาย”
“อะไรล่ะ”
“เอาหูมาซิ”
มนุษย์ต่างดาวเอี้ยวหูเข้าหามนุษย์โลก
หลายวันต่อมา
นักข่าวหญิงรายงานเหตุด่วนทางรายการโทรทัศน์
“ท่านผู้ชมคะ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น คณะรัฐบาลพร้อมท่านนายกรัฐมนต รีไทย หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมกันหมด...”
วสันต์เอนตัวพิงผนักโซฟาตัวเดิม กางหนังสือแคตตาล็อกเล่มเล็กในมือ ไล่อ่านทีละหน้า
ในที่สุดสายตาเขาก็หยุดที่รายการหนึ่ง
วิทยาการกำจัดขยะสุดลํ้า
ภาพจาก Pixabay
หากว่าชอบ หากว่าใช้
กดไลค์ กดแชร์ ให้ผมด้วยครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม
สวัสดีครับ
เพจ : เรื่องราวร้อยพัน (เกี่ยวที่เลี้ยวลด)
โฆษณา