22 ม.ค. 2020 เวลา 16:31 • ไลฟ์สไตล์
จากสาวออฟฟิศ สู่เมคอัพอาทิสต์มือโปร
สะบัดแปรงแต่งหน้า คุณรู้ไหมว่าเส้นทางนี้มีที่มาอย่างไร?
สวัสดีค่ะวันนี้ฤกษ์งามยามดีขอเปิดตัวซี่รี่ส์ชุดใหม่ ที่จะมาเปิดประสบการณ์ให้คุณผู้อ่านมา inside กับอาชีพต่างๆ ที่คุณอาจจะไม่เคยอ่านมาจากที่ไหน
วันนี้แอดมิน Success Journey ก็จะมานำเสนอเบื้องหลังของเมคอัพอาร์ทิสต์ หรือเพื่อนๆหลายคนอาจจะเรียกติดปากกันว่าช่างแต่งหน้า
ที่มาของบทความวันนี้
-คุณข้าวเจ้าของเรื่องราวในวันนี้ เธอเป็นเพื่อนสมัยทำงานที่แรกของแอดมินเองค่ะ แอดมินทำงานที่เดียวกับคุณข้าวช่วงปี 2010-2011 ทราบว่าคุณข้าวไปเรียนแต่งหน้า และแอดมินก็ติดตามผลงานทางไอจีของเธอเรื่อยมา จนเริ่มสังเกตว่าคุณข้าวมีผลงานทั้งแฟชั่น และ commercial ads ที่น่าสนใจมากมาย จึงเป็นที่มาของบทความในวันนี้ค่ะ
IG : kwankhaosml
จุดเริ่มต้นของเมคอัพอาร์ทิสต์
- ตัวข้าวมีความสนใจเรื่องแต่งหน้ามาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งได้มาทำงานที่แรก ซึ่งตัวคุณข้าวเองก็ไม่ได้อินกับการทำงานเท่าไหร่ บางครั้งก็มีแอบเปิด youtube ช่องสอนแต่งหน้าในเวลางาน จนนายแอบประชดใส่ "พี่ว่าถ้าเราชอบขนาดนี้ น่าจะไปเรียนแต่งหน้าเลยนะคะ"
จากประโยคนั้นแหละที่จุดประกายคุณข้าวให้ไปเรียนแต่งหน้าจริงจัง โดยเริ่มจากสถาบัน MTI ที่จะมีใบ certificate ให้โดยลงคอร์สเรียนเป็นเวลา 2 เดือน
ทีนี้ก่อนจะเรียนจบทางสถาบันก็มีให้นักเรียนแต่งหน้าเจ้าสาวเพื่อเก็บเป็น portfolio ครูก็มีชมว่าข้าวแต่งหน้าเจ้าสาวออกมาสวย น่าจะไปรับงานได้เลยนะ
ผลงานแต่งหน้าเจ้าสาว(งานจริง)
แล้วเรียนจบรับงานเลยไหม?
ข้าวมีช่วงเก็บประสบการณ์ประมาณ 2 ปี (ช่วง 2011-2013)
ปีแรก - ข้าวมีญาติรู้จักกับคุณเป็ด อภิชาติ ช่างแต่งหน้าชื่อดังของเมืองไทย ข้าวเลยได้มีโอกาสได้ไปเก็บประสบการณ์ในฐานะผู้ช่วยช่างแต่งหน้า ได้เห็นการทำงานต่างๆ แต่ไม่มีโอกาสได้แต่งหน้า และไม่มี connection นะ เพราะเป็นผู้ช่วยอย่างเดียว reference งานไม่มี คือไม่มีใครรู้จักเรานั่นแหละ
ปีที่สอง - ในสมัยนั้นยังไม่มี IG ข้าวใช้วิธีการแต่งหน้าแล้วลงรูปตามเว็บบอร์ดต่างๆ ที่มีช่างกล้อง เพื่อหา connection ด้วยตัวเอง
ช่วงแรกๆที่มาเดินทางสายนี้งานยังไม่ค่อยอยู่ตัวเท่าไหร่ ข้าวก็ต้องทำอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย เช่นสอนพิเศษภาษาอังกฤษ รับแปลงาน ทางพ่อแม่ก็ช่วยซัพพอร์ท เพราะรายได้ช่วงแรกยังไม่มากพอที่จะเลี้ยงตัวเอง
พอทำไปสัก 2-3 ปีมีคนรู้จักข้าวมากขึ้น ทีนี้งานก็เริ่มเยอะขึ้น พอชั่วโมงบินสูง จากช่วงแรกๆที่รายได้จากการแต่งหน้าอยู่ประมาณ 1500-2500 ค่าตัวปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่งานหลักพันกลางๆขึ้นไป แล้วแต่ความละเอียดของงาน เดือนนึงทำงานประมาณ 15-20 วัน
เทียบกับทำงานออฟฟิศ อันไหนงานหนักกว่ากัน?
- วันหนึ่งคุณข้าวรับงานเฉลี่ย 1-2 งาน งานหนึ่ง(รวมเดินทางด้วย) ใช้เวลาประมาณ 6-10 ชั่วโมง
บางครั้งงานอาจจะหนักกว่างานออฟฟิสด้วยซ้ำไป แต่ข้าว Happy กับงานนี้ คือตื่นมาแล้วอยากไปทำงาน คือถ้าข้าวไปทำงานออฟฟิส ข้าวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปทางสายไหน เพราะเราไม่มีแนวที่ชอบเลย
งานผิวที่ต้องเอาใจใส่อย่างละเอียด
ลูกค้าประทับใจอะไรในตัวคุณข้าว?
-ลูกค้าจะบอกว่าชอบงานผิว เพราะข้าวจะเน้นแต่งหน้าแบบลงงานผิวที่ดูเบาสบายเป็นธรรมชาติ
ถ้าจะเข้ามาทำงานสายนี้ต้องเป็นคนแบบไหนคะ?
- คือเราต้องไม่กลัวที่จะคุยกับคนแปลกหน้า เฟรนลี่เข้ากับคนง่าย ส่วนการปฏิบัติตัวก็เหมือนกับงานอื่นๆ คือตรงเวลา ไม่นินทาคนร่วมงานด้วย เพราะวงการนี้มันก็แคบนินทาวนไป มันก็วนกลับมาหานั่นแหละ
ส่วนคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจว่าจะเลือกใครมาเป็นช่างแต่งหน้าสายแฟชั่น หลักๆเลยก็มี
ลูกค้า - หรือเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่วางไว้อยู่แล้ว ว่าอยากแต่งหน้าแนวไหน
สไตลิสต์ - อยากช่างแต่งหน้าแนวที่วางคอนเซปต์ไว้
ช่างภาพ - ถ้าช่างภาพที่จะตัดสินใจได้ ก็จะต้องเป็นช่างภาพรุ่นใหญ่หน่อย
เห็นหน้าใสๆคลีนๆแบบนี้จริงๆแล้วคุณข้าวบอกก็ต้องมีเทรนด์สอดแทรกลงในการแต่งหน้าด้วยนะคะ
การเป็นช่างแต่งหน้ามีความท้าทายตรงไหนบ้าง?
- หลักๆเลยก็ความคาดหวังของลูกค้านั่นแหละ บางทีเราแต่งไปแล้ว ลูกค้าเกิดไม่มั่นใจในสไตล์ที่เราแต่ง (แต่งหน้าเจ้าสาว) แต่เราก็ต้องพูดให้ลูกค้ามั่นใจ
- หรือถ้าเป็นลูกค้า commercial เขาก็อาจจะให้มีการลองคอนเซปต์ใหม่ๆ หรือปรับแก้ตามที่เขาต้องการนั่นแหละ
มีงานไหนที่ชอบมากที่สุด เป็น master piece เลยไหม?
คุณข้าวตอบว่าไม่มี ทุกๆงานที่ทำจะรู้สึกชอบ ณ ตอนนั้น แต่พอเวลาผ่านไปก็อยากปรับแก้ แอดคิดว่าน่าจะเหมือนนักเขียนหลายท่านในนี้ ที่เห็นงานตัวเองแล้วก็อยากจะแก้แล้วแก้อีก
เบื้องหลังความสวยของเจ้าสาว มาจากการบรรจงแต่งแต้มอย่างตั้งใจ
ขอบคุณ บทสัมภาษณ์ และภาพสวยๆ จาก IG kwankhaosml
Commercial Ads FILA x Pepsi
แอดเชื่อว่าการทำงานด้วยความรัก ผลงานที่ออกมาจะสะท้อนความใส่ใจออกมาเสมอ
แล้วอะไรคือ passion ในการทำงานของคุณผู้อ่านคะ?
มีคำตอบในใจกันหรือยังเอ่ย
#Successjourney
โฆษณา