27 ม.ค. 2020 เวลา 01:30
#จะทำความดีก็ให้รู้จักกาลเทศะ
“ เมื่อราว พ.ศ.๒๕๓๕ ลุงสิทธิ์ไปพักภาวนาที่วัดดอยธรรมเจดีย์ ภายหลังถวายภัตตาหารเช้า ก็ชวนเพื่อนขึ้นไปภาวนาข้างบน ที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่
เสร็จจากนั่งสมาธิภาวนา เดินลงมาข้างล่างเห็นหลวงปู่แบนท่านนั่งอยู่ ก็มากราบท่าน ท่านถามว่าไปที่ไหนกันมา ก็ตอบด้วยความมั่นใจว่า “ไปภาวนาข้างบนกันมาครับ”
แทนที่ท่านจะโมทนา ท่านกลับตำหนิว่า “ไปนั่งภาวนาขวางทางอยู่หน้าองค์พระอย่างนั้น คนเขาจะไหว้พระกันอย่างไร”
โห เรานี่ได้รับบทเรียนที่สำคัญในวันนั้นว่า “จะทำความดีก็ให้รู้จักกาลเทศะ”
ทำให้ได้ข้อคิดต่อไปถึงเรื่องทำนองเดียวกันอีกหลายเรื่อง เช่น
ขยันสวดมนต์ก็อย่าให้เสียงไปรบกวนความสงบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีใครกำลังปรารภความเพียรอยู่
จะนั่งสมาธิเดินจงกรม ก็ไม่ต้องไปทำอวดใคร หรือทำในที่ค่อนข้างสาธารณะ ใครเขาปรามาสเป็นบาป เราก็จะกลายเป็นต้นบาป
หรือกรณีถวายภัตตาหารแล้วก้มกราบอย่างบรรจงบังคนอื่นเขา คนอื่นเขาเลยต้องพากันรอเรากราบเสร็จ แทนที่จะถอยฉากไปหาที่กราบที่ไม่บังใคร เป็นต้น
เรายังหยาบ ได้อาศัยครูบาอาจารย์ชี้แนะอบรม ชื่อว่าได้ขุมทรัพย์อันประเสริฐ ทั้งปิดกั้นบาปที่ไม่จำเป็นอีกมากโข
อย่างนี้นี่เองที่หลวงปู่มั่นท่านกล่าวว่า “ดีใดไม่มีโทษ ดีนั้นชื่อว่าดีเลิศ”. “
บทความโดย คุณลุงสิทธิ์ #Sith_PorOr
โฆษณา