27 ม.ค. 2020 เวลา 01:00 • ธุรกิจ
PM 2.5 ส่งผลอะไรกับคนไทยบ้าง ในมุมมองด้านการตลาด
1
สถานการณ์ในปัจจุบันเราคงปฎิเสธิ์ไม่ได้ว่าปัญหาเรื่องฝุ่น ไม่ใช่เรื่องขี้ฝุ่นอีกแล้ว เพราะนอกจากปัญหาจะไม่หายไป ยังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย สระบุรี อุดรธานี ขอนแก่น และอีกหลายเมืองในประเทศไทย และหลายครั้งก็เกิดขึ้นในเมืองเล็กที่เกิดจากการเผาป่าหรือเผาหญ้าเพื่อปลูกผัก ซึ่งเราจะได้ยินข่าวเนืองๆ
การเผาป่า ที่มา: Matichon.co.th
เพื่อให้เข้าใจเรื่องฝุ่น PM 2,5 มากขึ้น “ยุดใหม่การตลาดของไทย” จึงได้ค้นหาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือมาแบ่งปันดังนี้
โดยข้อมูลจากโรงพยาบาลกรุงเทพระบุว่า PM 2.5 (ฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 μM) ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมประมาณ 20 - 30 เท่า ฝุ่น PM2.5 นี้ไม่ใช่เป็นมลพิษทางอากาศชนิดเดียวที่ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ แต่ยังมีก๊าซพิษอีกหลายอย่าง อาทิเช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2), โอโซน (O3), ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) รวมทั้งยังพบว่ามีโลหะหนักปนเปื้อนอยู่ในอากาศที่เราหายใจอีกด้วย
ที่มา: Skinnovation,com
PM 2.5 มีคำเรียกโดยทั่วไปว่า ฝุ่นละเอียด (Final Particles) จัดเป็นอนุภาคที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า 2.5 ไมครอน
มีแหล่งกำเนิดมาจากควันเสียของรถยนต์ โรงไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม ควันที่เกิดจากการหุงต้มอาหารโดยใช้ฟืน
นอกจากนี้ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2), ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx), สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ก็อาจเกิดปฏิกิริยา ก่อให้เกิดฝุ่นละเอียดได้เช่นกัน (ที่มา: https://news.thaiware.com/12547.html)
ที่มา: โรงพยาบาลกรุงเทพ
จากข้อมูลของ ศ ดร ศิวัช พงษ์เพียจันทร์ พบว่า
•ผู้หญิงไวต่อฝุ่นมากกว่าผู้ชาย
•คนอายุต่ำกว่า 10 ขวบจะไวต่อฝุ่นมากกว่ากลุ่มอื่นๆ
•กลุ่มที่มีอันตรายสูงคือเด็กผู้หญิงอายุต่ำกว่า 10 ชวบต้องมีการป้องกันเป็นพิเศษอ่อนไหวเป็นพิเศษ รวมทั้งสตรีมีครรภ์ด้วย
จากงานวิจัยล่าสุดที่พึ่งตีพิมพ์ในปี 2018, 2019 และต้นปี 2020 ก็มีออกมาแล้ว ระบุว่าเรามีโรคอีกมากมายที่เราไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเกี่ยวข้อง เช่น
•โรคอัลไซเมอร์ ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ริมถนน พบว่ามีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สะอาด
เด็กที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมสกปรกทางอากาศมีแนวโน้มว่ามีไอคิวต่ำกว่าเด็กที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สะอาดที่บริสุทธิ์
3
โรคตับ โรคไต ที่เกิดจากการกรองสิ่งสกปรกในกระแสเลือด
•โรคเบาหวาน ก็มีโอกาสเกิดขึ้น
•เส้นเลือดอุดตันในสมอง
•เมื่อฝุ่นมากขึ้นเส้นเลือดเราจะหนืด หัวใจจะทำงานหนักขึ้น ส่งผลถึงสมรรถนะภาพทางเพศ มาจากเลือดไม่ไหลเวียน
เสื่อมสมรรถนะทางเพศ ที่มา:Independent.ie
จากข้อมูลข้างต้นสิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดผล 2 ด้าน คือ ฝ่ายที่ได้ประโยชน์และผลกระทบที่เกิดขึ้น
ฝ่ายที่ได้ประโยชน์
ก็จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมทางด้านสุขภาพ (Wellness Industry) รวมถึงสถานพยาบาลที่เป็นอุตสาหกรรมการรักษาโรคด้วย (Sickness Industry) นอกจากนี้ยังสร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้กับอุตสาหกรรมทางด้านเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องมือแพทย์
ที่มา: Cigna
ซึ่งไม่ได้รวมผู้ที่ได้ประโยชน์ทางอ้อมไม่ว่าจะเป็นผู้จำหน่ายต้นไม้ ผู้ให้บริการซักรัด แม่บ้าน ผ็ผลิตผักผลไม้ ธุรกิจประกันภัย ประกันสุขภาพ และอีกมากมายหลายธุรกิจ
ที่เห็นได้ชัดเจนคือการเติบโตของผู้ผลิตเครื่องฟอกอากาศ ที่เราจะเห็นในช่วงหนึ่งว่าขาดตลาดต้องจองเท่านั้นจึงจะได้สินค้า ผู้ผลิตหน้ากากอนามัย ผู้ผลิตสารอาหารสำหรับบำรุงร่างกายให้แข็งแรง
ผู้ผลิตยารักษาโรคทางตรงคือโรคระบบทางเดินหายใจได้รับผลดีไปเต็มๆ และเนื่องจากฝุ่น PM 2.5 ส่งผลให้เกิดโรคมากมายโดยเฉพาะโรคที่คนไทยเป็นกันมาก อาทิ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคตับแข็ง โรคไตวาย เส้นเลือดสมอง โรคหัวใจ เสื่อมสมรรถนะทางเพศฯลฯ
ผู้ผลิตยาและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องต่างเติบโตขึ้นมาก รวมถึงแผนกรักษาโรคในโรงพยาบาลทั้งเอกชนและรัฐบาล เป็นการการันตีว่าหมอพยาบาลและบุคคลากรทางการแพทย์มีงานทำล้นมือแน่นอน
ที่มา: Wealthythai.com
ฝ่ายที่เสียประโยชน์
เรื่องนี้เดาไม่ยากเพราะนั่นก็คือพวกเราทุกคนในประเทศไทย ทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการที่จำเป็นต้องอาศัยในสถานที่มีมลพิษ และทั้งผู้ที่สูดหายใจสบายๆในต่างจังหวัดตามสถานที่ธรรมชาติต่างๆ
เพราะเม็ดเงินที่ต้องนำมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ถูกนำไปใช้ในการดูแลรักษาและป้องกันผลกระทบที่เกิดจาก PM 2.5 เป็นจำนวนมหาศาล ผลกระทบโดยตรงคือทำให้เกิดการใช้จ่ายทั่วไปลดลง ท่องเที่ยวน้อยลง ซื้อสินค้าน้อยลง ใช้จ่ายน้อยลง แม่ค้าส้มตำยังได้รับผลกระทบแม้ว่าจะขายอยู่ที่ชายหาดหรือบริเวณภูเขาที่อากาศดีก็ตาม
ผู้ป่วยทางเดินหายใจ ที่มา Springnews.co.th
ส่วนผลกระทบทางอ้อมที่เกิดขึ้นคือเมื่อผู้คนต้องเจ็บป่วย หรืออ่อนแอจากผลกระทบของ PM 2.5 ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการก็จะไม่มีคนทำงานเพียงพอ
ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น แต่ทว่าคนไทยกลับไม่มีกำลังซื้อ แล้วผู้ผลิตจะขายให้ใครเพราะขายถูกก็ขาดทุน ขายแพงก็ยิ่งไม่มีคนซื้อ หรือแย่กว่านั้นผลิตมาก็ไม่มีคนซื้อ
ที่มา: Social.tvpoolonline.com
ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ใช่เล็กๆเล็กเหมือนขนาดของฝุ่นเลย หากเรายังไม่ได้แก้ไขที่ต้นเหตุ เราก็จะพบเรื่องนี้ไปตลอด ฝุ่นที่เกิดขึ้นแต่ละที่ก็มาจากสาเหตุต่างกัน ดังนั้นการแก้ปัญหาจะใช้วิธีเดียวกันทั้งหมดไม่ได้ ต้องแยกเป็นพื้นที่และสาเหตุไป
ในเมืองใหญ่ๆเองฝุ่น PM 2.5 มาจากผลกระทบจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ และการก่อสร้าง ในจังหวัดปริมณฑลก็เกิดมาจากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ในต่างจังหวัดหลายแห่งก็เกิดจากการเผาหญ้าเพื่อทำการเกษตร เป็นต้น ดังนั้นการแก้ปัญหาต้องแยกพื้นที่ในการจัดการ
“ยุดใหม่การตลาดของไทย” ยังไม่เชื่อมั่นในผู้ที่รับผิดชอบเท่าไร เพราะปัญหานี้เกิดมาหลายปีติดต่อกันแล้ว เห็นแต่การแก้ปัญหาปลายเหตุ เช่น ฉีดพ่นน้ำ ทำความสะอาด ดีหน่อยก็ลงทุนสร้างอ่างเก็บน้ำเพื่อนำน้ำมาใช้กำจัดฝุ่น แต่ไม่เห็นมีแนวทางที่ชัดเจนและเจ้าภาพหลักที่เข้ามาดำเนินการในช่วงนี้เลย
สิ่งที่เราจะทำได้คือการหลีกเลี่ยงที่จะต้องเผชิญกับฝุ่น ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย การใช้เครื่องฟอกอากาศที่ได้รับมาตรฐานว่าฟอกได้จริง
สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการทำร่างกายให้แข็งแรง เพราะเราไม่รู้หรอกว่าที่ๆเราไปอากาศมีฝุ่นเข้มข้นขนาดไหน เพราะมันเล็กจนเราไม่สามารถมองเห็นได้ หากบ้านใครมีพื้นที่ การปลูกต้นไม้เพื่อใช้กรองฝุ่นก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องไม่เป็นผู้ก่อมลพิษเสียเอง หรือถ้ามีก็ทำให้น้อยที่สุด
ที่มา: Cigna
อาจจะเลือกเดินหรือนั่งรถสาธารณะแทน ใช้วิธีการธรรมชาติเพื่อลดวัชพืชแทนการเผาป่า (ปรึกษาเจ้าหน้าที่ทางการเกษตรได้) เท่านี้ก็ช่วยลดปัญหาได้เยอะแล้ว เพราะหากทุกคนร่วมด้วยช่วยกันปัญหาก็จะลดลงและหมดไปในที่สุด
ขอขอบคุณ
1.ฝุ่น PM 2.5 กับโรคสมอง https://www.bangkokhospital.com/th/disease-treatment/pm25-and-staggers
2.ฝุ่นละออง PM 2.5 คืออะไร? ย่อมาจากคำว่าอะไร? และ อันตรายกับชีวิตเรายังไง? https://news.thaiware.com/12547.html
3.ปัญหาเรื่องฝุ่นที่ไม่ใช่ขี้ฝุ่น กับ ศ ดร ศิวัช พงษ์เพียจันทร์ https://youtu.be/X6AcJmJl6js
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง อ่านได้ใน Blockdit ยุคใหม่การตลาดของไทย
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย) ตอนล่าสุด
โฆษณา