28 ม.ค. 2020 เวลา 23:46 • ไลฟ์สไตล์
อินเดียแผ่นดินแม่..พุทธคยา
พุทธคยา ยามเช้า
หลังจากปวดหูกับแตรรถเล็กรถใหญ่ เดินมาสักพักก็ถึงหน้าวัดพุทธคยาหรือวัดมหาโพธิ์
ทางเข้าจะมีตำรวจตรวจสแกนวัตถุอันตราย เหมือนที่ตรวจตามสนามบิน แยกชาย แยกหญิง มีการตรวจสแกน 2 ครั้ง เมื่อผ่านจุดนี้ไปก็จะต้องฝากรองเท้า
ณ จุดฝากรองเท้า เราจะมองเห็นพุทธคยาอยู่ทางขวามือ ซึ่งตั้งตระหง่านอย่างแข็งแรง
ใครจะเชื่อได้ว่า นี้คือสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าที่ดำรงตั้งมั่นมานานถึง 2500 ปี
สถานที่แห่งนี้ ผ่านร้อนหนาวและการทำลายล้างมามากมาย อย่างมิต้องสงสัย
เมื่อเข้ามาถึงจุดนี้ ความรู้สึกที่วุ่นวายจากเสียงรถกลับหายไป ราวกับอยู่คนละโลก
บริเวณรอบข้าง
เมื่อเดินไปรอบๆ องค์พระมหาโพธิเจดีย์ จักได้ยินแต่เสียงสวดมนต์ ในภาษาที่แตกต่างกัน เช่น ทิเบต, พม่า, ไทย, บังคลาเทศ, อินเดีย เป็นต้น ซึ่งคนไทยกับคนอินเดียจะใช้ภาษาบาลีเหมือนกัน พอเวลาฟังพระอินเดียสวดจะรู้สึกถึงความใกล้ชิดจากภาษาได้ชัดเจน
เณรน้อยอินเดียติดขอบพระมหาโพธิเจดีย์
สำหรับความเป็นไปขององค์พระมหาโพธิเจดีย์นั้น ในวิกี้พีเดียระบุว่า พระเจ้าหุวิชกะ (อังกฤษ: Huvishka) มีพระราชศรัทธาสร้างมหาเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชา ในปี พ.ศ. 694 เพื่อเป็นสถานที่สักการะสำหรับพุทธบริษัท โดยได้สร้างเป็นพระเจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยมทรงรีสวยงามติดกับพระแท่นวัชรอาสน์ทางทิศตะวันออก ภายในพระเจดีย์มี 2 ชั้น โดยชั้นล่างเป็นสถานที่กราบนมัสการพระพุทธเมตตาและชั้นบนเป็นห้องเจริญภาวนา ลักษณะของพระมหาโพธิเจดีย์มีเอกลักษณ์เฉพาะและตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์ของมหาโพธิมณฑลมากว่าสองพันปี ในบางช่วงพระราชาแห่งแคว้นต่าง ๆ ได้เข้ามาทำนุบำรุงอยู่เสมอ และได้รับการบูชารักษาจากชาวพุทธมาตลอด แต่มาขาดตอนไปเมื่อช่วงพันกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้ฮินดูเข้ามายึดสถานที่นี้ไว้ ปัจจุบันรัฐบาลอินเดียได้มีส่วนสำคัญในการบูรณะพุทธคยาอย่างต่อเนื่องจนมีสภาพดังที่เห็นในปัจจุบัน
หลังจากที่เดินรอบๆ องค์พระมหาโพธิเจดีย์แล้ว ก็เดินลงมายังฐานล่างขององค์เจดีย์ เพื่อกราบพระพุทธเมตตาและต้นศรีมหาโพธิ์
ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
เนื่องคิวเข้ากราบพระพุทธเมตตานั้นยาวมาก จึงเดินมาหาที่นั่งใกล้ๆ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เพื่อสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น ทำสมาธิ
ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ไม่ว่าจุดไหนก็คนเต็มตาลอด แต่สิ่งที่สัมผัสได้ คือ ความเงียบสงบในจิตใจ แม้ว่าจะมากมายด้วยคนหลายเชื้อชาติที่เดินสวดมนต์บ้าง เดินเวียนเทียน 3 รอบบ้าง แต่เสียงเหล่านี้กลับสร้างความอิ่มใจ อย่างบอกไม่ถูก
ปิติหนอ ปิติหนอ
ภายในรั้วต้นพระศรีมหาโพธิ์
แค่นั่งมองไป นั่งสวดมนต์ไป ก็มีความสุขมาก
หลังทำสมาธิเสร็จก็เดินเวียนเทียน 3 รอบ เพื่อระลึกถึง พระพุทธเจ้า พระธรรมคำสั่งสอน และพระสงฆ์เหล่าสาวกของพระพุทธเจ้าเสร็จแล้ว จึงเดินไปใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์อีกครั้ง เพื่อได้เฝ้ามองรอดผ่านแผ่นกำแพงใสและรั้วเข้าไปดูพระแท่นวัชรอาสน์ที่เป็นพื้นหินทรายสีชมพูอ่อนๆ มีลายเล็กๆ ที่หินทราย บนแท่นวัชรอาสน์จะมีพานดอกไม้เพื่อบูชา บริเวณรอบโคนต้นโพธิ์มีดอกไม้เต็มพื้นที่ มองแล้วก็ยังทึ่งและตื้นตันใจ
ภายในรั้วต้นพระศรีมหาโพธิ์
พระแท่นวัชรอาสน์ แปลว่าพระแท่นมหาบุรุษใจเพชร สร้างด้วยวัสดุหินทรายเป็นรูปหัวเพชรสี่เหลี่ยม กว้าง 4.10 นิ้ว 7.6 นิ้ว หนา 5 นิ้วครึ่ง ประดิษฐานอยู่ภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นพระแท่นจำลองขึ้นทับพระแท่นเดิมเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ ณ จุดนี้ ปัจจุบัน ประชาชนและรัฐบาลประเทศศรีลังกาได้อุทิศสร้างกำแพงแก้ว ทำด้วยทองคำแท้ ประดิษฐานรอบต้นพระศรีมหาโพธิ์และพระแท่นวัชรอาสน์
หลังจากเดินวนรอบองค์พระมหาโพธิเจดีย์แล้ว ขออนุญาตไปต่อแถวเข้ากราบพระพุทธเมตตาก่อนนะคะ คิวยาวมากๆ ณ จุดนี้
พระพุทธเมตตา
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ
กดไลค์👍👍 กดแชร์✌️✌️
เป็น กลจ ให้ด้วยนะคะ 🙏🙏

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา